ถือเป็นการสั่งซื้อเครื่องบิน เอ380 ครั้งที่ 3 จากสายการบินสัญชาติเยอรมันแห่งนี้
คณะกรรมการบริหารแห่งสายการบินลุฟท์ฮันซ่าได้ทำการอนุมัติคำสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารตระกูล เอ320 จำนวน 100 ลำ (เครื่องบินเอ320นีโอ จำนวน 35 ลำ เครื่องบิน เอ321นีโอ จำนวน 35 ลำและเครื่องบิน เอ320ซีโอติดตั้งชาร์คเล็ต จำนวน 30 ลำ) และเครื่องบิน เอ380 อีกจำนวน 2 ลำ คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 11,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่าจะทำการเลือกเครื่องยนต์และประกาศให้ทราบในภายหลัง
การสั่งซื้อครั้งล่าสุดดังกล่าวถือเป็นเครื่องยืนยันให้กับกลุ่มลุฟท์ฮันซ่าถึงการเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของแอร์บัส ด้วยยอดสั่งซื้อเครื่องบินทั้งสิ้น 532 ลำ ปัจจุบันกลุ่มลุฟท์ฮันซ่า ยังเป็นผู้ให้บริการฝูงบินแอร์บัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเครื่องบินแอร์บัส 385 ลำ ทั้งเครื่องบินตระกูล เอ320 จำนวน 271 ลำ เอ330 จำนวน 41 ลำ เอ340 จำนวน 63 ลำ และเอ380 จำนวน 10 ลำ
“เครื่องบินโดยสาร เอ380 ตอบโจทย์ความต้องการทั้งหมดของเรา เป็นเครื่องบินที่มีความน่าเชื่อถือและมีเสียงตอบรับที่ดีจากผู้โดยสาร” มร.นิโค บุชชอลซ์ รองประธานบริหารฝ่ายบริหารจัดการฝูงบินกลุ่มลุฟท์ฮันซ่า กล่าวพร้อมเสริม “พวกเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เพิ่ม เอ380 จำนวนสองลำมาเสริมทัพฝูงบินของเรา พร้อมด้วยเครื่องบินตระกูล เอ320 ใหม่อีกจำนวน 100 ลำ ซึ่งเครื่องบินใหม่นี้จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของเราได้เป็นอย่างมาก ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเสนอความสะดวกสบายในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสาร เนื่องจากมีห้องโดยสารขนาดกว้างขวางที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องบินขนาดเดียวกัน ”
“เราขอขอบคุณสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ที่ให้ความไว้วางใจในเครื่องบินของเราอย่างต่อเนื่อง” มร.จอห์น เลฮีย์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าสัมพันธ์แอร์บัส กล่าวพร้อมเสริม “คำสั่งซื้อเครื่องบิน เอ380 ครั้งที่สามแสดงให้เห็นว่าเครื่องบินโดยสารรุ่นดังกล่าว สามารถทำงานให้กับลูกค้ากิติมศักดิ์ของเราอย่างลุฟท์ฮันซ่าได้เป็นอย่างดี ผมรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากที่การสั่งซื้อสินค้าครั้งนี้ทำให้ยอดเครื่องบินรุ่นนีโอสูงถึงเกือบ 2,000 ลำ ในช่วงระยะเวลากว่า 2 ปี ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่าเครื่องบินรุ่นนี้คือเครื่องบินทางเดินเดี่ยวยอดนิยม”
เครื่องบินโดยสารตระกูล เอ320นีโอและเอ320ซีโอ จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายและขีดความสามารถฝูงบินของสายการบินลุฟท์ฮันซ่า โดยเครื่องบินรุ่นซีโอแบบติดตั้งชาร์คเล็ตสามารถลดอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละ 4 ส่วนเครื่องบินรุ่นนีโอ สามารถช่วยสายการบินลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้อีกร้อยละ 15 นอกจากนั้นเครื่องบิน เอ380 ยังสามารถลดอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละ 12 เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องบินคู่แข่งที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
ที่ผ่านมามีผู้โดยสารกว่า 36 ล้านคนซึ่งได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษบนฟากฟ้ากับเครื่องบิน เอ380 1 ในจำนวน 100 ลำที่แอร์บัสทำการส่งมอบเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นด้วยการบริการเที่ยวบิน 140 เที่ยวต่อวันทำให้ปัจจุบันยอดการให้บริการรวมของฝูงบินทั้งหมดอยู่ที่ 100,000 เที่ยวบิน คิดเป็นชั่วโมงในการบินทั้งสิ้น 850,000 ชั่วโมง
เครื่องบินโดยสารตระกูล เอ320 เป็นตระกูลเครื่องบินทางเดินเดี่ยวที่ขายดีที่สุดและทันสมัยที่สุดในโลก ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเครื่องบินไปแล้วกว่า 9,150 ลำ โดยแอร์บัสได้ทำการส่งมอบเครื่องบินไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 5,450 ลำ ให้แก่ลูกค้ากว่า 385 รายทั่วโลก
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ
เมธาวรินทร์ มณีกูลพันธ์/ ธัญธิดา ธรรมครูปัตย์ + 66 2 260 5820 ต่อ 115/ 120