สำหรับรุ่นต่อไปของบิสิเนสสตูดิโอของสายการบินเอทิฮัด จะถูกแนะนำให้เป็นที่รู้จักในไม่ช้าภายในปีนี้ เมื่อทางสายการบินได้รับมอบเครื่อง A380 และ B787 ล็อตแร็ก และเป็นการมอบการบริการให้แก่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจให้มีพื้นที่สำหรับการทำงาน พักผ่อน และผ่อนคลาย
บิสิเนสสตูดิโอ จำนวน 70 ที่ ซึ่งตั้งอยู่ชั้นบนของเครื่อง A380 ในขณะที่เครื่อง B787 นั้นจะมีสตูดิโอดังกล่าวทั้งสิ้น 28 ที่ โดยทั้งหมดจะมีช่องทางเดิน และครบครันด้วยที่นอนแนวราบที่มีขนาดยาวถึง 80.5 นิ้ว
มร.ปีเตอร์ บอมการ์ทเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายพาณิชย์ของสายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “สายการบินเอทิฮัดได้ทำการพัฒนาบิสิเนสสตูดิโอ มาเป็นเวลากว่าห้าปี ด้วยพันธสัญญาที่แน่วแน่ในการมอบประสบการณ์การเดินทางชั้นธุรกิจด้วยนวัตกรรม และรสนิยม รวมไปถึงความสะดวกสบายในระดับคุณภาพขั้นสูงสุด”
“เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการบริการใหม่นี้จะตอบสนองความต้องการอันหลากหลาย และความคาดหวังต่างๆ ในระดับสูงของผู้โดยสารชั้นธุรกิจในปัจจุบันนี้ ซึ่งจะได้รับประสบการณ์ของบิสิเนสสตูดิโอ ดังกล่าวบนเครื่อง A380 และ B787”
บิสิเนสสตูดิโอ นี้จัดวางที่นั่ง ในอัตราส่วน 1-2-1ไปข้างหน้าและ 'ประกบ' กันกับด้านหลังโดยมีช่องทางเดินตรงเข้าสู่ผู้โดยสารทุกซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการวางผังในแบบที่ ซึ่งทำให้เกิดการใช้งานของพื้นที่ห้องโดยสารได้อย่างเหมาะสมและเป็นที่น่าพึงพอใจสูงสุด โดยสวีทมีที่นั่งขนาดกว้าง 22 นิ้ว และมีเก้าอี้วางเท้าออตโตมันแยกต่างหาก เมื่อรวมกันแล้วจะประกอบเป็นที่นอนแนวราบที่มีขนาดความยาวสูงสุดที่ 80.5 นิ้ว
โดยส่วนกลางของบิสิเนสสตูดิโอ นี้เหมาะสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยกัน แต่กระนั้นยังสามารถมอบความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเพียงลำพังด้วยหน้าจอขนาดสูงระหว่างห้องชุดต่างๆ
โดยที่นั่งผู้โดยสารได้รับการจัดหาจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน EADS Sogerma สำหรับเครื่องแอร์บัส A380-800 และบริษัท Zodiac Aerospace สำหรับเครื่อง B787 โดยทั้งหมดได้รับการหุ้มเบาะด้วยเครื่องหนังจากบริษัทชั้นนำ Poltrona Frau จากอิตาลี ซึ่งเป็นผู้ผลิต ออกแบบและตกแต่งภายในให้กับซูเปอร์คาร์อย่างเฟอร์รารี
ภายในบิสิเนสสตูดิโอนี้ มีพื้นที่เก็บของที่กว้างขวาง รวมไปถึงพื้นที่ที่แฝงอยู่ข้างใต้เก้าอี้ออตโต้มันสำหรับเก็บสิ่งของขนาดพกพาและรองเท้า และตู้ขนาดใหญ่สำหรับการเก็บสัมภาระต่างๆ ด้านบน อาทิ ขวดน้ำ อุปกรณ์หูฟัง หนังสือ และอื่นๆ ในแต่ละสตูดิโอยังมีเฟอร์นิเจอร์ที่กว้างพอที่จะรองรับความสะดวกสบายในการวางแล็ปท็อป แท็บเล็ต และหนังสือต่างๆ
ยังมีรายละเอียดต่างๆ ของการออกแบบอันร่วมสมัยในบิสิเนสสตูดินี้ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียภาพแห่งศิลปะอาหรับสมัยใหม่ และยังมีให้ตัวเลือกมากมายสำหรับการจัดแสงที่แตกต่างกันเพื่อบรรยากาศการผ่อนคลาย รวมไปถึงโคมไฟด้านข้างที่หรูหรามีระดับ หรือแสงสว่างสำหรับการอ่านหนังสือ รวมไปถึงการจัดแสงตามอารมณ์
สายการบินเอทิฮัดยังได้มอบบริการระบบความบันเทิงด้วย พานาโซนิค EX3 ในเครื่องบินทั้งสองรุ่น ซึ่งสามารถให้บริการความบันเทิงแบบ ออน-ดีมานด์ (ตามสั่ง) กว่า 750 ชม. รวมไปถึงเกมส์ที่พัฒนาขึ้น และหน้าจอความละเอียดสูงตลอดทั้งห้องโดยสาร
นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์พกพาสำหรับวิดีโอทัชสกรีน ซึ่งทำให้มีหน้าจอเพิ่มขึ้นมาสำหรับผู้โดยสามารถ เพื่อตอบสนองความบันเทิงได้สูงสุด เพื่อที่จะสามารถเล่นเกมส์ หรือดูแผนที่ที่เคลื่อนที่อยู่ในขณะที่กำลังดูภาพยนตร์ ทั้งนี้ในห้องโดยสารยังมีบริการอุปกรณ์หูฟังแบบตัดเสียบงรบกวน ซึ่งมีการติดตั้งตัวเชื่อมต่อเสียงที่เป็นแม่เหล็กเพื่อให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด
เครื่อง A380 มีบริการโทรศัพท์มือถือและ Wi-Fi แบบเต็มรูปแบบ และเครื่อง B787มีบริการ Wi-Fi
ด้วยการบริการในการเลือกรับประทานอาหารได้ทุกเวลา และด้วยระบบผู้จัดการอาหารและเครื่องดื่มที่สะดวกสบายที่จะคอยให้บริการพร้อมด้วยรายการอาหารและเครื่องดื่มที่มีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งบริการเหล่านี้ได้รับรางวัลในสาขาของการบริการระดับชั้นธุรกิจของสายการบินเอทิฮัด นั้นจะมีให้บริการในทุกเครื่องบิน รวมไปถึงเครื่อง A380 และ B787 ด้วย
สำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง และชั้นธุรกิจบนเครื่อง A380 จะสามารถเข้าไปพักผ่อนในบริเวณ เดอะ ล็อบบี้ ซึ่งเป็นเล้านจ์ที่เปิดให้บริการเครื่องดื่มโดยมีพื้นที่อยู่บริเวณระหว่างห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจ
ใน เดอะ ล็อบบี้ นั้นได้รับการออกแบบเพื่อจุดประสงค์ของการผ่อนคลาย และเพื่อการสังสรรค์พบปะ ด้วยโซฟาหุ้มหนังทรงครึ่งวงกลม และโต๊ะไม้ประดับมุกพร้อมด้วยจอทีวีขนาดใหญ่
สำหรับโทรทัศน์ใน เดอะ ล็อบบี้ นั้นมีการเชื่อมต่อระบบ HDMI เพื่อที่จะสามารถแบ่งปันเนื้อหาต่างๆ หรือถูกติดตั้งเข้าสู่ช่องโทรทัศน์ที่กำลังถ่ายทอดสดของสายการบินสำหรับรับชมรายการกีฬาและกิจกรรมอื่นๆ
และที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้โดยสารชาวมุสลิม สายการบินเอทิฮัดได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับการละหมาดซึ่งมีฉากกั้นที่สามารถดึงปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว และยังมีการติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบเรียลไทม์ในการค้นหาทิศทางของกิบลัตเพื่อแสดงทิศทางที่แม่นยำของนครเมกกะโดยยึดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของเครื่องบิน