งานสัมมนา "เมียนมา อินไซต์ 2018" จัดขึ้นเป็นครั้งที่สาม มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 600 คน ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงบุคคลสำคัญ เพื่อรับฟังการอภิปรายหัวข้อต่างๆ ที่กำลังได้รับความสนใจ บุคคลสำคัญระดับสูงที่เข้าร่วมในงานสัมมนาครั้งนี้ ได้แก่ นายตอง ตุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรัฐบาลกลางของเมียนมา ได้ร่วมกล่าวคำปราศรัยในงาน พร้อมด้วยนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย และนายจักร บุญ-หลง เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง
นอกจากนี้ ยังมีบุคคลสำคัญจากหลากหลายด้านมาร่วมในงานสัมมนา ประกอบด้วย นายคิน หม่อง โช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของเมียนมา นายออง เนียง อู เลขาธิการคณะกรรมาธิการด้านการลงทุนของเมียนมา นายโอน หม่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการโรงแรมและการท่องเที่ยวของเมียนมา นางมิ มิ เคียง อธิบดีกรมการวางแผนด้านพลังงานไฟฟ้า กระทรวงไฟฟ้าและพลังงานของเมียนมา นายปิยะ สุขุมภานุเมศร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (สาขาย่างกุ้ง) นายวัชรา เหมรัชตานันต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และนายคาร์ล คริ้ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินในเครือ (Group CFO) บริษัท ซิตี้ มาร์ท โฮลดิ้งส์ ผู้ร่วมอภิปรายได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ อย่างกว้างขวาง รวมถึงประโยชน์ของการลงทุนในเมียนมา และการทำธุรกิจการค้าในประเทศนี้ รวมถึงความท้าทายที่ธุรกิจต่างๆ ต้องประสบ นอกจากนี้งานสัมมนาดังกล่าวยังเน้นถึงความน่าสนใจของอุตสาหกรรมพลังงานและการค้าปลีกของประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจให้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น รวมทั้งโอกาสใหม่ๆ ในภาคการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น ความมั่นคงด้านอาหาร อีกด้วย
นายดาริโอ เมดินา (Mr. Dario Medina) ผู้จัดการกองบรรณาธิการของโอบีจี ได้แสดงความคิดเห็นหลังจากร่วมงานสัมมนาว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมา กฎหมายและระเบียบต่างๆ ได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก รวมทั้งการปฏิรูปแนวทางการดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เมียนมากลายเป็นประเทศที่เหมาะแก่การลงทุนและดึงดูดนักลงทุนใหม่ๆ รวมถึงกระแสเงินลงทุนเข้าประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคู่ค้าทางธุรกิจที่แน่นแฟ้นอย่างประเทศไทย ซึ่งจัดเป็นนักลงทุนต่างประเทศ 5 อันดับแรกของเมียนมา
"ในขณะที่ยังมีความท้าทายหลายอย่างซึ่งผู้นำด้านธุรกิจรู้สึกกังวล และที่ชัดเจนที่สุดก็คือ โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอ แต่โอกาสสำหรับนักลงทุนจากประเทศไทยและที่อื่นๆ ที่มีความกระตือรือร้นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเมียนมา ก็ยังมีอยู่มากมายดังที่เห็นได้จากงานสัมมนาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา" นายดาริโอ กล่าวต่อว่า "ผมตั้งตารอที่จะได้วิเคราะห์กฎหมายล่าสุดซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุน รวมทั้งผลลัพธ์ที่แท้จริง และการนำไปใช้ปฏิบัติในรายงานเล่มที่จะตีพิมพ์เร็วๆ นี้ และนำเสนอข่าวสารทางธุรกิจซึ่งจำเป็นสำหรับการตัดสินใจอย่างรอบคอบโดยมีข้อมูลที่ครบถ้วนให้กับนักลงทุนที่สนใจตลาดที่น่าตื่นเต้นแห่งนี้"
รายงานเศรษฐกิจภาพรวมของเมียนมาประจำปี 2562 และ รายงานเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศไทยประจำปี 2562 จะรวบรวมงานวิจัยภาคสนามซึ่งใช้เวลามากกว่า 12 เดือน โดยทีมนักวิเคราะห์ของอ็อกซ์ฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป ที่ทำงานอยู่ในสองประเทศนี้ นักวิเคราะห์จะประเมินแนวโน้มและทิศทางการพัฒนาในทุกตลาดอย่างครบถ้วน รวมถึงข้อมูลด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค โครงสร้างพื้นฐาน การธนาคาร และอื่นๆ
รายงานของโอบีจีจะนำเสนอข้อมูลจากบุคคลสำคัญระดับแนวหน้า และรายละเอียดแบบเจาะลึกของแต่ละภาคส่วนที่จะเป็นแนวทางให้กับนักลงทุน รายงานนี้จัดทำโดยได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมาธิการด้านการลงทุนของเมียนมาและสมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมาตามลำดับ มีให้เลือกทั้งแบบพิมพ์และแบบออนไลน์
เกี่ยวกับอ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป
อ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป (โอบีจี) เป็นบริษัทจัดทำรายงานการวิจัย และที่ปรึกษาระดับโลก ซึ่งมีการตีพิมพ์เรื่องราวด้านภาวะเศรษฐกิจของตลาดต่างๆในตะวันออกกลาง, แอฟริกา, เอเชีย, ลาตินอเมริกา และแถบแคริบเบียน ผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆในทั้งรูปแบบสิ่งพิมพ์และออนไลน์ โอบีจีนำเสนอรายงานการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและแม่นยำทางเศรษฐกิจมหภาคและการพัฒนาของภาคธุรกิต่างๆ ซึ่งรวมถึง การธนาคาร ตลาดทุน การประกันภัย พลังงาน การขนส่ง อุตสาหกรรม และการโทรคมนาคม
รายงานการวิเคราะห์ประเด็นเศรษฐกิจและธุรกิจนี้ได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญชั้นนำด้านธุรกิจที่มีความครอบคลุมเกี่ยวกับประเทศที่กำลังพัฒนาในภูมิภาคฯ บทสรุปออนไลน์ทางด้านเศรษฐกิจของโอบีจีนำเสนอการวิเคราะห์เชิงลึกที่ทันต่อสถานการณ์และประเด็นใหม่ๆอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเผยแพร่ให้กับสมาชิกหลายหมื่นรายจากทั่วโลก ส่วนงานที่ให้บริการด้านที่ปรึกษานั้น ทางบริษัทอ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ปได้เสนอการวิเคราะห์ด้านการตลาดพร้อมให้คำปรึกษาแก่บริษัทลูกค้าต่างๆที่มีการดำเนินธุรกิจอยู่และลูกค้าที่เตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ตลาดในภูมิภาคนี้