ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นหลังอิหร่านปฏิเสธข้อเสนอของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump ในการจัดประชุมเพื่อหารือร่วมกัน อย่างไรก็ดีประธานาธิบดีอิหร่าน นาย Rouhani มีความเห็นว่าการประชุมไม่มีประโยชน์จากพฤติกรรมไม่รักษาสัญญาของสหรัฐฯ
- Reuters ระบุปริมาณสำรองน้ำมันดิบและปริมาณการผลิตส่วนเกิน (Spare Capacity) ของโลกอยู่ในระดับต่ำบ่งชี้ว่าตลาดน้ำมันเปราะบางต่อปัญหาอุปทานชะงักงัน อีกทั้งปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในอิหร่านเริ่มลดลงหลังผู้ซื้อเริ่มทยอยลดปริมาณนำเข้า ล่าสุดบริษัทน้ำมันในอินเดียนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านในเดือน มิ.ย. 61 ลดลงจากเดือนก่อน 12% อยู่ที่ 664,000 บาร์เรลต่อวัน
- Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ค. 61 ลดลงจากเดือนก่อน 30,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 10.44 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากการผลิตในบริเวณอ่าวเม็กซิโกลดลงมากกว่าการผลิต Shale Oil ที่เพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- 3 ส.ค. 61 จีนเตรียมการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 5-25% ซึ่งมีน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) อยู่ในรายการด้วย เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่ประกาศเตรียมการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าและบริการจากจีน มูลค่ารวม 2 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อกลางสัปดาห์ อนึ่ง จีนนำเข้าน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก และนำเข้า LNG เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากญี่ปุ่น
- Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (Rig) ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ส.ค.61 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 2 แท่น มาอยู่ที่ 859 แท่น
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent และ NYMEX WTI ปิดตลาดลดลงจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระลอกใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดเริ่มขยายผลไปถึงปิโตรเลียม ขณะเดียวกัน Reuters รายงานว่า Sinopec บริษัทน้ำมันแห่งชาติของจีนเลื่อนการนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ ออกไปโดยไม่มีกำหนด ทั้งนี้ Reuters ประเมินจากกำหนดส่งมอบ ว่าจีนนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค.-ส.ค. 61 ปริมาณ 335,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ในเดือน ก.ย. 61 จะลดลงมาอยู่ที่ 198,000 บาร์เรลต่อวัน อนึ่งในปี พ.ศ. 2560 จีนนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ มูลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม Unipec ซึ่งเป็นบริษัทค้าน้ำมันภายใต้ Sinopec จะนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ ไปยังยุโรปต่อไป ขณะเดียวกัน จีนจะหันมานำเข้าน้ำมันดิบจากแอฟริกาตะวันตกมากขึ้น โดยนำเข้าแตะ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ส.ค. 61สูงสุดในรอบ 3 เดือน ส่วน LNG นั้น ในปี พ.ศ. 2560 จีนนำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่าเพียง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ Morgan Stanley ประมาณการณ์ว่าจีนจะนำเข้าเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ล่าสุด API สถาบันปิโตรเลียมของสหรัฐฯ (มีบริษัท ExxonMobil บริษัท Chevron และบริษัท CononcoPhillipsเป็นสมาชิกอยู่ด้วย) กล่าวว่าสงครามการค้ายกนี้จะสร้างความเสียหายแก่สหรัฐฯ มากกว่าจีน ทั้งนี้ สินค้าอื่นในรายการ อาทิ สารกึ่งตัวนำ เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินขนาดเล็กและขนาดกลาง สินแร่เหล็ก ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้า กาแฟคั่ว น้ำตาล ช็อกโกแลต และกระจกรถยนต์ เป็นต้น ส่วนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ กระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบียแถลงว่าการขนส่งน้ำมันทางเรือผ่านทะเลแดงลอดช่องแคบ Bab el-Mandeb ออกสู่อ่าวเอเดน กลับมาดำเนินการตามปกติแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 4 ส.ค. 61 หลังต้องยุติเส้นทางดังกล่าวไปชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. 61 เนื่องจากถูกกลุ่มกบฏ Houthi ในเยเมนโจมตี ทั้งนี้กองกำลัง Houthi แจ้งว่าจะหยุดการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันที่เดินทางผ่านทะเลแดงเป็นเวลา 2 สัปดาห์เพื่อส่งเสริมสันติภาพ อนึ่ง ช่องแคบ Bab el-Mandeb กว้างเพียง 20 กม. (12 ไมล์) ทำให้ง่ายต่อการโจมตี ทางด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 71.5-75.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ NYMEX WTI อยู่ในกรอบ 67.0-71.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Dubai จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 70.5-74.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นจากแรงซื้อจากเวียดนามโดยบริษัท Petrolimex ของเวียดนามออกประมูลซื้อน้ำมันเบนซิน 92 RON ปริมาณ 68,000 บาร์เรล และน้ำมันเบนซิน 95 RON ปริมาณ 17,000 บาร์เรล ส่งมอบ 6-10 ส.ค. 61 และ EIA รายงานปริมาณสำรอง น้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 ก.ค. 61 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 2.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 231 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และ Petroleum Association of Japan (PAJ) รายงานปริมาณสำรอง น้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ที่ญี่ปุ่น สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ก.ค. 61 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 320,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 9.32 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม Plattsรายงานตลาดน้ำมันเบนซินในเอเชียอ่อนแอ เพราะผู้ค้าน้ำมันคาดว่าบริษัท Pertamina ของอินโดนีเซียได้เข้าซื้อน้ำมันเบนซินครบตามที่ต้องการสำหรับเดือน ส.ค. 61 แล้ว และ บริษัท Nayara Energy (ชื่อเดิม บริษัท Essar Oil) ของอินเดียขายน้ำมันเบนซิน 92 RON ปริมาณ 512,000 บาร์เรล ส่งมอบวันที่ 24-29 ส.ค. 61 นอกจากนั้นInternational Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซิน เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ส.ค. 61 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 650,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 15.33 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 4 เดือน ทางด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 81.5-85.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยรายสัปดาห์ลดลงจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของอินเดียลดลงในช่วงฤดูมรสุมทำให้อินเดียส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น อาทิ บริษัท Nayara Energy ,บริษัท Mangalore Refinery and Petrochemicals Ltd. (MRPL) และ บริษัท Indian Oil Corp. ด้านปริมาณสำรอง EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 ก.ค. 61 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 3 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 124.2 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 3 เดือน และ PAJ รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซล เชิงพาณิชย์ที่ญี่ปุ่น สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ก.ค. 61 ทรงตัว อยู่ที่ 9.1 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม Arbitrage น้ำมันดีเซลจากเอเชียไปยุโรปเปิดซึ่งผู้ค้าคาดว่าจะช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันดีเซลตลอดเดือน ส.ค. 61 และ Ceylon Petroleum Corp. (Ceypetco) ของศรีลังกาออกประมูลซื้อน้ำมันดีเซล 0.05%S และ0.001%S ปริมาณ 247,500 บาร์เรล และ 52,500 บาร์เรล ส่งมอบวันที่ 3-4 ก.ย. 61 ด้านปริมาณสำรอง IES รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ส.ค. 61 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 960,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 9.94 ล้านบาร์เรลด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซล จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 85.5-89.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล