ตามข้อตกลงนี้ Risen Energy จะจัดหาโมดูลซีรีส์ Jaeger 144 ประสิทธิภาพสูงที่สามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้ถึงแผงละ 395 วัตต์ให้กับโครงการ โดยจะจัดส่งโมดูลเป็นงวด ๆ เริ่มต้นในเดือนนี้ และมีกำหนดส่งมอบแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2563
นายเซียะ เจี้ยน ประธาน Risen Energy กล่าวว่า "มาเลเซียเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญของเรา เนื่องจากมีทรัพยากรแสงที่อุดมสมบูรณ์ และนโยบายที่เอื้อต่ออุตสาหกรรม เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการในมาเลเซีย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้ว โรงไฟฟ้าจะสามารถปฏิบัติการได้อย่างราบรื่น เราจะติดตั้งโมดูลซีรีส์ Jaeger ของเราซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพที่ดีกว่าในด้านต้านการเสื่อมสภาพเพราะแสง (LID) และปัญหาการเสื่อมสภาพจากอุณหภูมิและแสงแดด (LeTID) โมดูล Jaeger ประสิทธิภาพเยี่ยมของเราจะสามารถลดจุดร้อนและผลกระทบจากการบังเงาที่มีต่อประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าได้ ด้วยต้นทุนการเป็นเจ้าของและต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่า ทำให้โมดูลของเราช่วยให้เจ้าของโครงการสามารถลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยไฟฟ้าปรับเฉลี่ย (LCOE) และสร้างรายได้มากขึ้นจากการผลิตไฟฟ้า"
นอกเหนือจากตลาดเซลล์แสงอาทิตย์ในมาเลเซียแล้ว Risen Energy ยังได้ขยายการดำเนินงานไปยังตลาดสำคัญในสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลาง และเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้ บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดตามแนวเส้นทางโครงการ "Belt and Road" โดยเฉพาะในคาซัคสถานและยูเครน นอกจากนี้ Risen Energy ยังเร่งผลักดันการขยายตัวของธุรกิจการกักเก็บพลังงาน ด้วยการผสมผสาน "เซลล์แสงอาทิตย์ + การกักเก็บพลังงาน" และ "เซลล์แสงอาทิตย์ + การกักเก็บพลังงาน + การชาร์จพลังงาน" เข้าด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการใช้โซลูชั่นไมโครกริดอัจฉริยะในแอปพลิเคชันเชิงพาณิชย์อีกด้วย
Risen Energy กำลังมีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยบริษัทยังคงเดินหน้าขยายกิจการไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ในการประมาณการงบการเงินของบริษัทใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2562 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิระหว่าง 765-815 ล้านหยวน (ประมาณ 107-114 ล้านดอลลาร์) ซึ่งเพิ่มขึ้น 262.40%-286.09% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20191011/2607578-1
คำบรรยายภาพ - พิธีลงนาม