เอ็ม บี เค ให้ความสำคัญสิ่งแวดล้อม ดึงนวัตกรรมโซลาร์รูฟท็อปใช้ในธุรกิจ ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายในระยะยาว

ศุกร์ ๐๕ มิถุนายน ๒๐๒๐ ๐๙:๔๓
พลังงานสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เอ็ม บี เค ให้ความสำคัญสิ่งแวดล้อม ดึงนวัตกรรมโซลาร์รูฟท็อปใช้ในธุรกิจ ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายในระยะยาว

นับวันยิ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องด้วย

ภาวะโลกร้อนเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากหลายภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นวัตกรรมต่าง ๆ

ที่พัฒนาให้เป็นทางเลือกใหม่ในการผลิตพลังงานทดแทนจึงถูกนำมาใช้มากยิ่งขึ้น

และที่เห็นอย่างเด่นชัดคือ การใช้ระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ที่นำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตพลังงานไฟฟ้าได้โดยไม่ปล่อยมลภาวะออกมาทำลายบรรยากาศของโลก

อีกทั้งใช้แล้วไม่มีวันหมด ในประเทศไทยนั้นได้นำระบบนี้มาประยุกต์ใช้ ซึ่งจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพื้นที่นั้น

ๆ ว่าได้รับปริมาณแสงแดดมากหรือน้อยด้วยเช่นกัน ดังนั้นการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ทดแทนการเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า

จึงเป็นเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยตรง รวมทั้งสามารถทดแทนต้นทุนทางพลังงาน

และประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างยั่งยืน

เอ็ม บี เค

ได้นำนวัตกรรมการผลิตพลังงานไฟฟ้าทดแทนด้วยระบบโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) มาใช้

ซึ่งเป็นการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานจากแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารต่าง ๆ ของธุรกิจในเครือ

เอ็ม บี เค โดยเมื่อสำรวจแล้วว่าพื้นที่ดาดฟ้าของแต่ละอาคารสามารถติดตั้งระบบได้

และคำนวณการรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ก็จะสามารถวางแผนผังของวงจรแผ่นรับความร้อนได้ทันที

ซึ่งลักษณะของแผ่นรับความร้อนนั้น หลายคนอาจจะคุ้นตากันมาบ้าง โดยจะเป็นแผ่นวงจรเชื่อมต่อ

ๆ กันหลายแผ่น เมื่อรับความร้อนจากแสงอาทิตย์มาแล้ว ก็จะแปลงความร้อนเข้าสู่ระบบเป็นพลังงานไฟฟ้า

เพื่อเชื่อมสู่กระแสไฟฟ้าหลักของแต่ละสถานที่ได้ทันที นอกจากนี้ ก่อนการติดตั้งยังสามารถคำนวณกระแสไฟฟ้าที่จะผลิตได้โดยประมาณ

เพื่อให้ทราบว่าจะได้กระแสไฟฟ้ามากน้อยเพียงใดอีกด้วย

การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในธุรกิจต่าง ๆ ของ เอ็ม

บี เค มีการวางแผน และแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 เฟส โดยแล้วเสร็จเฟสแรกที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ เพลส

ซึ่งมีขนาดกำลังติดตั้งที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดประมาณปีละประมาณ 734,000

หน่วยต่อปี

สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่า 528,000 บาทต่อปี

และเฟส 2 เป็นโครงการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 ได้แก่ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์

ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 สนามกอล์ฟริเวอร์เดล กอล์ฟ

คลับ สนามกอล์ฟ บางกอกกอล์ฟ คลับ

และโรงแรมทินิดี โฮเทล แอท บางกอก กอล์ฟ คลับ ซึ่งเมื่อรวมทั้ง 2 เฟส จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณปีละ 2,066,000 หน่วย

สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าโดยประมาณได้มากกว่า 2,454,000 บาทต่อปี

และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 695 ตันต่อปี สำหรับในเฟสที่ 3 จะเป็นแผนการศึกษาความเป็นไปได้

ที่จะติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปให้กับธุรกิจอื่น ๆ ในเครือ เอ็ม บี เค ในปีต่อไป

เอ็ม บี เค ให้ความสำคัญสิ่งแวดล้อม ดึงนวัตกรรมโซลาร์รูฟท็อปใช้ในธุรกิจ ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายในระยะยาว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา