นายเดชา ตั้งสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม่น้ำ เรสซิเดนท์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์ คอนโดมิเนียม หรู บนทำเลโดดเด่นที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดเผยว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ เชื่อว่าตลาดจะกลับมาสู่ภาวะปกติ และมีแนวโน้มเติบโตได้ประมาณ 5-10% ภายใต้เงื่อนไขไม่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้น และเศรษฐกิจโลกที่เข้ามากระทบต่อเศรษฐกิจไทย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2558-2560 หลายสาย และการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะทำให้อสังหาริมทรัพย์ไทยมีความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ อาทิ ความต้องการพื้นที่อาคารสำนักงานมากขึ้น ความต้องการพื้นที่จัดตั้งนิคมหรือโรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยว
โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านเจริญกรุง-เจริญนคร ในระยะ 3-5 ปี จะมีศักยภาพก้าวสู่การเป็นCBD ได้ เนื่องจากมีข้อได้เปรียบเหนือทำเลอื่น คือ การคมนาคมทางเรือ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า (BTS) สถานีสะพานตากสิน และรถไฟใต้ดิน (MRT) สถานีสนามไชย รวมทั้งเม็ดเงินลงทุนจากภาคเอกชนต่างหลั่งไหลเข้ามากว่า 150,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการ Mix Use ระดับ 5-6 ดาว ทั้งโรงแรม คอนโดมิเนียม นอกจากนั้น เริ่มเห็นการเข้ามามีบทบาทขององค์กรเอกชนที่ผลักดันให้พื้นที่ริมน้ำในส่วนพื้นที่ของหน่วยงานรัฐ,ศาสนสถาน และทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้เป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อประชาชน อาทิ โครงการยานนาวา ริเวอร์ฟร้อนท์ (UDDC) ขณะที่รัฐบาล ก็เข้ามามีบทบาทในการช่วยส่งเสริมพื้นที่ตรงนี้ในส่วนของแผนงานสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 แห่ง คือ สะพานถนนจันทน์-เจริญนคร และสะพานท่าราชวงศ์
สำหรับโครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์ คอนโดมิเนียม หรู บนทำเลโดดเด่นที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ความสูง54 ชั้น จำนวน 294 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ภายใต้การบริหารของบริษัท ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีการขายไปแล้วกว่า 85% และเตรียมจะปรับขึ้นราคายูนิตที่เหลือขึ้นอีกตามราคาตลาดในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ประมาณมากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ขณะนี้ยังคงยึดราคาโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนไทยอยู่ ส่วนความคืบหน้าของการก่อสร้าง สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น และคาดจะเร็วกว่าแผนที่กำหนดเอาไว้พร้อมส่งมอบในไตรมาส 4 ของปี 2559 อย่างแน่นอน นอกจากนั้น ในเดือนเมษายนปีนี้ทางโครงการมีแผนทำLab room ที่เปิดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้แก่สาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย โดยทำการก่อสร้างห้องตัวอย่างเสมือนจริงขึ้นมา และทดสอบระบบทุกอย่างในห้อง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดปัญหาในการเข้าอยู่จริง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อจะได้สินค้าที่ดีและมีคุณภาพ
รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ประธานที่ปรึกษาโครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์ คอนโดมิเนียม กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันเริ่มเห็นรูปแบบก่อสร้างโครงการแนวสูงริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นตึกแนวสูงที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น หรูหรามีราคาแพงและเป็นที่อยู่อาศัยในระดับ Luxury เนื่องด้วยมีข้อจำกัดเรื่องระยะร่นจากแนวริมน้ำในการก่อสร้าง โดยโครงการอสังหาริมทรัพย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาติดอันดับตึกสูงที่สุดในประเทศมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของตึกสูงที่สุดในกรุงเทพฯ 10 อันดับแรก ได้แก่ โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ ความสูง 385 เมตร, แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม ความสูง 315 เมตร, เดอะ ริเวอร์ทาวเวอร์เอ ความสูง 265 เมตร, คณาพญา เรสซิเดนซ์ ความสูง 253 เมตร และแม่น้ำ เรสซิเดนท์ คอนโดนิเนียม ความสูง 239 เมตร
พร้อมกับมองศักยภาพทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีทิศทางจะต้องก้าวไปสู่ความเป็น CBD สะท้อนกับรูปแบบผังเมืองใหญ่ๆ ในต่างประเทศ เช่น นครเซี่ยงไฮ้, ฮ่องกง เป็นต้น ซึ่งจะมีความโดดเด่นในการสร้างแลนด์มาร์ค เพื่อตอบสนองความต้องการครบทั้งในเรื่องของที่พักอาศัย, ไลฟ์สไตล์, ช้อปปิ้ง เพื่อดึงให้การท่องเที่ยวใหเกิดขึ้น โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ความเป็น CBD เกิดขึ้นไปอย่างรวดเร็วจะมาการลงทุนจากภาคเอกชนและภาครัฐบาล