อพาร์ตเมนต์ทำเลชั้นเยี่ยมและมีการออกแบบที่ดียังเป็นที่ต้องการอยู่มาก

จากสถิติของกระทรวงแรงงาน พบว่า จำนวนชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงานในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 9.5% ต่อปี โดยปัจจุบันมีจำนวนอยู่ที่ 79,000 คน

ทำเลที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ต้องการพักอาศัยมีอยู่เพียงไม่กี่ย่านเท่านั้น ได้แก่ สุขุมวิท ลุมพินี และสาทร โดยมักจะอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เพียง 2 -3 ปีเท่านั้น และทางบริษัทเองก็ต้องการเช่าที่พักอาศัยให้กับพนักงาน มิใช่การซื้อที่พักอาศัย

ตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การเช่าอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียม เนื่องจากบ้านหรือทาวน์เฮาส์ให้เช่าในย่านที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติมีจำนวนน้อย ในขณะที่การแข่งขันกับตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์นั้นมีไม่มากนัก โดยเป็นการแข่งขันกันเฉพาะห้องขนาดสตูดิโอและ 1 ห้องนอนเท่านั้น มิใช่ห้องขนาดใหญ่

ปัจจุบันมีอพาร์ตเมนต์ให้เช่าสำหรับชาวต่างชาติราว 11,000 ยูนิตในย่านที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ และมีอัตราการเข้าพักอาศัยมากกว่า 90% ขณะที่คอนโดมิเนียมในย่านเดียวกันมีราว 92,800 ยูนิต และซีบีอาร์อีคาดว่ามีเจ้าของคอนโดมิเนียมในย่านนี้จะนำห้องราว 30-40% มาปล่อยเช่า ทั้งนี้ อัตราการเข้าพักอาศัยของคอนโดมิเนียมในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 80%

ผู้เช่านิยมเช่าอพาร์ตเมนต์มากกว่าเช่าคอนโดมิเนียมจากเจ้าของห้องแต่ละราย เพราะผู้เช่าทราบว่าสามารถติดต่อกับเจ้าของอาคารได้โดยตรงเพื่อทำการซ่อมแซมและร้องเรียนเรื่องต่างๆ

สำหรับคอนโดมิเนียม เจ้าของห้องแต่ละรายจะเป็นผู้รับผิดชอบการบำรุงรักษาภายในห้อง ในขณะที่ผู้จัดการอาคารจะมีหน้าที่ดูแลพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าอาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้เช่าที่จะแจ้งให้เจ้าของห้องคอนโดมิเนียมดำเนินการซ่อมแซมให้ได้อย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ว่าอพาร์ตเมนต์หลายแห่งจะมีอายุมากกว่า 20 ปีแล้วก็ตาม แต่โดยทั่วไปแล้วทั้งพื้นที่ส่วนกลางและการตกแต่งภายในห้องพักได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี รวมถึงได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วย และยังมีสภาพที่ดีกว่าคอนโดมิเนียมหลายแห่งที่อายุเท่ากันอยู่มาก

จากการสำรวจโดยแผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่า ปัจจุบันมีอพาร์ตเมนต์เพียง 415 ยูนิตเท่านั้นที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างในทำเลที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ แต่กลับมีคอนโดมิเนียมมากถึง 27,000 ยูนิตที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างในย่านดังกล่าว โดย 63% เป็นยูนิตขนาด 1 ห้องนอน

แนวโน้มในอนาคตของตลาดอพาร์ตเมนต์ยังคงดีอยู่ โดยเฉพาะห้องขนาด 2 - 3 ห้องนอน เพราะผู้เช่านิยมที่จะเช่า อพาร์ตเมนต์ซึ่งมีเจ้าของเพียงผู้เดียวมากกว่าคอนโดมิเนียม รวมถึงอพาร์ตเมนต์และคอนโดมิเนียมขนาด 2 - 4 ห้องนอนที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างก็มีจำนวนน้อยมาก

ซีบีอาร์อีเป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในการปล่อยเช่าให้กับอพาร์ตเมนต์โครงการใหม่ขนาด 32 ยูนิต ชื่อ เดอะ ฟิลโล เรสซิเดนส์ ในซอยสุขุมวิท 24 ซึ่งเพิ่งจะสร้างเสร็จเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยสามารถปล่อยเช่าไปได้แล้วถึง 90%

"ทำเลไม่ได้เป็นปัจจัยเพียงประการเดียวที่ทำให้ประสบความสำเร็จ แต่ปัจจัยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการวางผังห้อง คุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ที่เลือกใช้ เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดเตรียมไว้ให้ภายในโครงการ รวมถึงขนาดห้องล้วนเป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมากที่ทำให้ได้ค่าเช่าที่ดีที่สุดและมีผู้เช่าเต็มได้" นายธีราธร ประพันธ์พงศ์ ผู้อำนวยการแผนกให้เช่าที่พักอาศัยของซีบีอาร์อีกล่าว

ทำเลยังคงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก และการเปิดตัวของศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ในย่านพร้อมพงษ์ได้ช่วยเพิ่มความนิยมของย่านนี้ในหมู่ผู้เช่าชาวต่างชาติให้มากยิ่งขึ้น

นับเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของโครงการอพาร์ตเมนต์และเจ้าของห้องชุดในคอนโดมิเนียมที่ต้องการปล่อยเช่า มีความเข้าใจในความต้องการของผู้เช่าชาวต่างชาติที่กำลังเปลี่ยนไป

ซีบีอาร์อีได้เป็นที่ปรึกษาให้กับเจ้าของโครงการเดอะ ฟิลโล เรสซิเดนส์ ในทุกแง่มุมของการออกแบบ โดยวิเคราะห์จากประสบการณ์ที่ได้พบปะกับลูกค้าโดยตรง และรับทราบความคิดเห็นของผู้เช่าชาวต่างชาติกว่า 400 คนที่เช่าที่พักอาศัยผ่านซีบีอาร์อีในแต่ละปี

ซีบีอาร์อีคาดการณ์ว่าจำนวนชาวต่างชาติที่ทำงานในกรุงเทพฯ จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะยังคงต้องการพักอาศัยอยู่ในย่านเดิม และยังคงนิยมที่จะอยู่อพาร์ตเมนต์มากกว่าคอนโดมิเนียมหากห้องพักมีขนาดและคุณภาพใกล้เคียงกันภายในทำเลเดียวกัน

ยังคงมีโอกาสที่ดีสำหรับโครงการอพาร์ตเมนต์ที่เจาะกลุ่มผู้เช่าชาวต่างชาติ แต่เจ้าของโครงการจำเป็นต้องสร้างให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่า เพื่อที่จะปล่อยเช่าได้ในราคาที่สูงที่สุด รวมทั้งมีอัตราการเข้าพักที่สูงที่สุด

­­­

ติดตามข่าวสารจากซีบีอาร์อีเพิ่มเติมได้ที่

Facebook: CBRE.Thailand และ CBRE.Condo.Society

Twitter: @cbrethailand

YouTube: CBREThailand

LinkedIn: company/cb-richard-ellis-thailand