เครือข่ายสลัม 4 ภาค: กฎหมู่?

จันทร์ ๐๕ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๑๒:๕๐
เมื่อเช้าวันนี้ "ตัวแทนเครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้ร้องขอให้นายกฯช่วยเรื่องที่อยู่อาศัยคนจน เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก" http://bit.ly/1hkuedr) ซึ่งเป็นดั่งกิจกรรม "เชงเม้ง" ที่จัดแบบนี้กันทุกปี แต่ข้อเรียกร้องต่างๆ อาจไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง รัฐบาลพึงไตร่ตรองให้รอบคอบเพื่อไม่สร้างความอยุติธรรมในสังคม

ข้อเรียกร้องของเครือข่ายนี้ ก็เป็นเช่นทุกปี โดยในปีนี้ เครือข่ายสลัม 4 ภาค บอกว่า "ในประเทศไทยมีชุมชนที่อยู่ในสถานการณ์ไล่รื้อจำนวน 86 ชุมชน 6,100 ครอบครัว 34,000 คน อันมีสาเหตุมาจากโครงการก่อสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน . . . (ชุมชนชนบทก็) ประสบปัญหาจากแผนพัฒนาของรัฐ เช่นแผนแม่บทป่าไม้ - ที่ดิน การให้สัมปทานเหมืองแร่ การสร้างโรงไฟฟ้า ที่ต้องทำให้คนในชนบทสูญเสีย . . ."

ข้างต้นเป็นการตีขลุมเป็นอย่างยิ่ง เพราะโครงการคมนาคมส่วนมากยังไม่ได้ดำเนินการ ในชนบทก็มีชุมชนบุกรุกป่าอยู่ไม่กี่แห่ง ส่วนการให้สัมปทานเหมืองแร่ การสร้างโรงไฟฟ้า ก็แทบไม่ได้ทำให้เกิดการสูญเสียที่ดินแต่อย่างใด เว้นแต่การจัดการผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจริง ๆ เฉพาะหน้าคงมีไม่ถึง 20 แห่ง ซึ่งถือว่าปัญหาเฉพาะจุดที่สามารถแก้ไขได้โดยง่าย ไม่ได้เป็นกระแสใหญ่ดังที่ทางเครือข่ายพยายามนำเสนอ

ในการเวนคืนที่ดินเพื่อพัฒนาให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมนั้น แม้แต่บ้านเรือนของผู้มีรายได้สูง-รายได้ปานกลาง ก็ยังต้องย้ายออก จะอ้างว่าเป็นคนจนแล้วไม่ยินดีย้ายไม่ได้ โดยเฉพาะหากรัฐบาลมีการจัดหาที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม ส่วนมากชาวชุมชนแออัดที่เช่าที่ปลูกบ้านก็ยินดีย้ายเมื่อเจ้าของที่ร้องขอ แต่ชาวชุมชนแออัดบุกรุกกลับไม่ยอมย้าย ปกติแล้วแม้แต่ชาวชุมชนแออัดเอง ก็ใช่อยากจะอยู่ในชุมชนตลอดไป ก็ต้องการที่จะมีชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าเพื่อลูกหลาน

เครือข่ายเสนอให้ก่อสร้างบ้านมั่นคง โดยยกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับชาวชุมชนแออัด โดยเฉพาะที่บุกรุกผิดกฎหมายมายาวนาน กรณีนี้ถือเป็นการใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ชาวชุมชนแออัดที่ได้ที่ดินในโครงการ Land Sharing ก็พร้อมใจกัน "เบี้ยว" ไม่ผ่อนชำระ เท่ากับเป็นการเอาเปรียบสังคมโดยแท้ เพราะประชาชนทั่วไปกว่าจะเก็บหอมรอมริบมีที่อยู่อาศัยของตนเองได้ ก็ต้องไปไกลอยู่ชานเมือง แต่ผู้บุกรุกในเมืองกลับแทบจะได้ที่อยู่อาศัยฟรี ๆ ทั้งที่ผิดกฎหมายมานับสิบ ๆ ปี

อ้างอิง: AREA แถลง ฉบับที่ 301/2558:วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558

ผู้แถลง:

ดร.โสภณ พรโชคชัย ([email protected]) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา