เขตป้อมปราบฯ แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการจัดระเบียบผู้ค้าย่านคลองถม

กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--กทม.
เมื่อวานนี้ (23 เม.ย.44) เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร นายชัยสิทธิ์ ภูวภิรมย์ขวัญ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายชาญชัย วามะศิริ ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีเขตป้อมปราบฯ ได้นำเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตเข้าจัดระเบียบผู้ค้าย่านคลองถม บริเวณถนนคำรพ หลังโรงพยาบาลกลาง เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วเกิดการเหตุการณ์ชุลมุน โต้เถียงกับผู้ค้า และผู้ค้ารายหนึ่งกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่เทศกิจกระทำอนาจาร ซึ่งในการแถลงข่าวได้มีการฉายวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดในวันนั้นให้สื่อมวลชนชมด้วย
ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบฯ กล่าวว่า การจัดแถลงข่าว ในวันนี้เพื่อต้องการให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากบุคคลเพียงไม่กี่คน คาดว่าจะเป็นผู้เสียผลประโยชน์จากการที่เจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าไปจัดระเบียบ โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้สังเกตเห็นกลุ่มบุคคลหนึ่ง จำนวน 8-10 คน มาคอยก่อกวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ค้าด้วยกันเกิดความสับสนในการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ค้ารายอื่นในบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น และมีการกล่าวหาว่า นายสุชาติ ไชยศรี เจ้าพนักงานปกครอง 6 ฝ่ายเทศกิจ เขตป้อมปราบฯ ได้กระทำอนาจาร แม่ค้าที่ขายของอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดำเนินการสอบสวนต่อไป ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่เขตได้บันทึกภาพวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตลอด เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ อย่างไรก็ดีขณะนี้ทางเขตได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ 3 ข้อหาด้วยกันคือ 1. ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน 2. ขัดขวางการทำงานของเจ้าพนักงาน 3. ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเป็นไปตามที่เขตฯได้แจ้งความไว้ก็จะออกหมายจับต่อไป ในส่วนของผู้เสียหายที่กล่าวหาว่าถูกกระทำอนาจารนั้น ทราบว่าขณะนี้ยังไม่ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด
เลขานุการการผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีนโยบายจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่ - แผงลอย ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ปราศจากการรีดไถจากกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 2 เดือนนั้น อยู่ในขั้นที่น่าพอใจ อาจจะมีบางจุดที่มีปัญหายังไม่บรรลุผลตามเป้าหมายบ้าง แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนก็พยายามที่จะเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เทศกิจที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะดังกล่าวควรนำกล้องวีดีโอไปบันทึกภาพในการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งด้วย เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดเหตุการณ์ร้องเรียนหรือฟ้องร้องขึ้น และขอให้เจ้าหน้าที่เทศกิจทุกคนระมัดระวังตัวมากขึ้นด้วย--จบ--
-นห-