เลขาฯ บีโอไอมั่นใจ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมไทยโอกาสรุ่ง

พฤหัส ๐๕ เมษายน ๒๐๐๑ ๑๔:๒๕
กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--บีโอไอ
"สถาพร" ชี้ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมของไทยยังมีโอกาสขยายตัว เชื่อมั่นไทยยังมีของดีที่ทั่วโลกยอมรับ ขณะที่อิเล็กทรอนิกส์ยังต้องอาศัยอานิสงค์คนอื่นนำทาง พร้อมยอมรับนโยบายลดการนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบจากต่างประเทศถูกทิศทาง แต่ยังต้องอาศัยระยะเวลาในการพัฒนา
นายสถาพร กวิตานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวระหว่างการสัมมนาเรื่อง "แนวทางการลดต้นทุนอุตสาหกรรม..และทิศทางการลงทุนปี 2544" ว่า อุตสาหกรรมของไทยที่ยังมีโอกาสขยายตัวและน่าลงทุนในระยะ 5-10 ปี ข้างหน้า มี 5 กลุ่ม อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน โดยในปัจจุบันประเทศไทยเป็นที่ยอมรับของกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ว่ามีคุณภาพ อีกทั้งการที่รถยนต์มีชิ้นส่วนประกอบจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการจะสามารถพัฒนาการผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้ป้อนให้โรงงานรถยนต์ได้
อีกกลุ่มหนึ่งคือ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรมอาหารของไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับจากต่างชาติอย่างแพร่หลาย แม้ว่าในส่วนของอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปนั้น การจะทำให้วัตถุดิบทางการเกษตรได้มาตรฐานทำได้ยาก เพราะผลผลิตยังขึ้นอยู่กับธรรมชาติ
"อุตสาหกรรมท่องเที่ยว แฟชั่น บันเทิง ตลอดจนบริการเป็นอีกกลุ่มหนึ่งทีประเทศไทยมีศักยภาพ โดยดูจากพื้นฐานของคนไทยแล้วมีความถนัดในเรื่องเหล่านี้คล้าย ๆ กับประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกและนักท่องเที่ยวจากทวีปอื่น ๆ มีความประสงค์ที่จะมาเที่ยวอยู่"
ส่วนในด้านของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ นั้น เลขาธิการบีโอไอ เห็นว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นอีกหลายด้านในการรองรับการขยายตัว ส่วนใหญ่ไทยทำได้เพียงการรับจ้างผลิตเท่านั้น และทิศทางของอุตสาหกรรมนี้จะถูกกำหนดโดยปัจจัยภายนอก ซึ่งหากตลาดส่งออกไม่สามารถรองรับได้ ก็จะเกิดผลกระทบทันทีเช่นกัน
นอกจากนี้ นายสถาพร ยังได้กล่าวถึงเรื่องนโยบายการลดการนำเข้าเครื่องจักร และวัตถุดิบจากต่างประเทศของรัฐบาลว่า เป็นนโยบายที่ถูกทิศทางและสามารถทำได้ แต่ทั้งนี้จะต้องใช้ระยะเวลาอีกค่อนข้างนายในการเตรียมความพร้อม เพราะปัจจุบันการผลิตของภาคอุตสาหกรรมยังต้องอาศัยเครื่องจักรนำเข้าเนื่องจากศักยภาพในการผลิตเครื่องจักรของไทยยังไม่เพียงพอที่จะผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าได้ เช่นเดียวกับวัตถุดิบหากจะให้ใช้วัตถุดิบในประเทศ ก็จะต้องมีการนำเข้าเครื่องจักรมาผลิต นอกจากนี้อุตสาหกรรมบางประเภท จำเป็นที่ต้องอาศัยวัตถุดิบนำเข้าอยู่ เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี เหล็ก เป็นต้น โดยที่ผ่านมาทางบีโอไอ ก็ได้มีการดำเนินการรณรงค์และเชื่อมโยงอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการใช้ชิ้นส่วนในประเทศเพิ่มเช่นกัน แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ทั้งหมด--จบ--
-นห-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน