ธนาคารแห่งประเทศไทยสั่งแบงก์พาณิชย์ปรับลดดอกกู้ลง

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--ธนาคารแห่งประเทศไทย
แบงก์ชาติสั่งแบงก์พาณิชย์ปรับลดดอกกู้ลงอีกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กรุงเทพฯ 14 ก.ย.- ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรียกสมาคมธนาคารไทยขอความร่วมมือให้ธนาคารพาณิชย์ไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงอีก เพื่อเป็นกำลังใจให้กับลูกค้าในการประกอบธุรกิจต่อไป และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กระเตื้องขึ้น ขณะที่แบงก์พาณิชย์แบ่งรับ แบ่งสู้ว่าจะปรับลดได้หรือไม่ นายจุลกร สิงหโกวินท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเอเชีย ในฐานะประธานสมาคม ธนาคารไทย เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กับสมาชิกสมาคมธนาคารไทยทั้ง 13 แห่ง ว่า ผู้ว่าการ ธปท.ได้ขอความร่วมมือให้ธนาคารพาณิชย์ไทยปรับลด อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงอีก โดยเฉพาะกับลูกค้าที่ประพฤติตัวดีมาโดยตลอด เพื่อเป็นกำลังใจให้กับลูกค้าในการ ประกอบธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งจะเป็นหนทางที่กระตุ้นเศรษฐกิจให้กระเตื้องขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์จะรับไปพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง แต่ที่ผ่านมาได้ปรับลด อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกค้าชั้นดีอยู่แล้ว ส่วนปรับลดลงหรือไม่นั้นคงไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารและความเหมาะสม “ผู้ว่าการฯ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนที่ต้องการให้ธนาคารพาณิชย์ลดดอกเบี้ยลงอีก เพื่อเป็นกำลังใจ ให้กับผู้ประพฤติตัวดี ส่วนเรื่องดอกเบี้ยเงินฝากไม่ได้พูดถึง แต่ต้องยอมรับว่าเป็นกลไกของดอกเบี้ยที่ถ้าลด ดอกเบี้ยเงินกู้ลงดอกเบี้ยเงินฝากก็ต้องลดลงตามไปด้วย แม้ว่าประชาชนจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ ก็ตาม เพราะขณะนี้อยู่ใกล้เคียงกับระดับอัตราเงินเฟ้อ แต่โดยภาพรวมแล้วเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นขึ้น” นายจุลกรกล่าว และว่าไม่สามารถบอกได้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะลดลงไปอยู่เท่าใด ยืนยันได้ว่าภายในปีนี้คงหยุดนิ่งหรือลดลงอีกเล็กน้อย แต่ไม่มีทางปรับขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.2 แม้ว่าจะดีขึ้นแล้ว แต่ยังทำให้ธนาคารพาณิชย์ขาดทุนอยู่ เพราะยังมีปัญหาเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อ ให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ซึ่งเป็นต้นทุนถึง 1 ใน 3 ของรายได้จากดอกเบี้ยรับ ที่ถือว่าเป็นจุดใหญ่ของปัญหา ทั้งหมด นายบัณฑูร ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท. แสดงความ เป็นห่วงเรื่องภาวะเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะมีดัชนีชีวัดเศรษฐกิจหลายตัวได้ชะลอตัวลง จึงทำให้เศรษฐกิจ อยู่ในช่วงประคับประคอง โดยการขอความร่วมมือให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงอีกนั้น จะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะอยู่ที่เท่าใดนั้นต้องหาความสมดุล สำหรับธนาคารกสิกรไทยนั้นมีการปล่อยสินเชื่ออย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ในขณะที่การปรับลด อัตราดอกเบี้ยเงินฝากนั้นก็ดำเนินการตามความเหมาะสม เพราะธนาคารยังมีปัญหาเรื่องการขาดทุน ซึ่งส่วนต่าง ของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศนั้นมากกว่าร้อยละ 3 ขณะที่ของธนาคาร พาณิชย์ไทยนั้นประมาณร้อยละ 1 เศษเท่านั้น--จบ--
-สส-