สำนักผังเมืองวางผังเฉพาะแห่งย่านชุมชนเขตสัมพันธ์วงศ์ วอนท้องถิ่นให้ความร่วมมือ

จันทร์ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๐๐๐ ๑๐:๒๖
กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--กทม.
นายนิคม ไวยรัชพานิช ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กทม. แจ้งว่า เนื่องจากพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์เป็นย่านพาณิชยกรรม และย่านชุมชนที่มีประวัติยาวนาน มีอาคารและสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่มีคุณค่า สมควรอนุรักษ์เป็นจำนวนมาก เช่น บริเวณถนนเยาวราช ถนนทรงวาด และบริเวณชุมชนเลื่อนฤทธิ์ ในขณะเดียวกันก็มีอาคารสูงอยู่ในพื้นที่ด้วย อีกทั้งการที่เขตสัมพันธวงศ์เป็นเขตเมืองชั้นในที่ตั้งอยู่ระหว่างพื้นที่อนุรักษ์เมืองประวัติศาสตร์ (เกาะรัตนโกสินทร์) กับพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ (เขตบางรัก) ทำให้อาจมีปัญหาในการกำหนดทิศทางในอนาคตว่า จะมุ่งไปในเชิงอนุรักษ์ หรือพัฒนา ซึ่งแต่ละแนวทางจะส่งผลให้ภูมิทัศน์ของเมืองต่างกันโดยสิ้นเชิง
นายนิคมฯ กล่าวต่อว่า เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างเหมาะสม มีแผนงานที่ปฏิบัติได้จริง กทม.โดยสำนักผังเมือง จึงมอบหมายให้คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังดำเนินโครงการโดยให้ประยุกต์กระบวนการการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นมาใช้ในการศึกษา ทั้งนี้ตั้งแต่เริ่มโครงการมีการจัดประชุมร่วมกับผู้บริหารและประชาชนในท้องถิ่น เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นมาแล้วหลายครั้ง และเมื่อวันที่ 15 พ.ย.43 ได้มีการประชุมรับฟังการสรุปผล “โครงการวางผังเฉพาะแห่งในพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ บริเวณย่านชุมชนเขตสัมพันธวงศ์” มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 20 คน ประกอบด้วย นายประวิทย์ พันธุ์วิโรจน์ ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ รองผู้อำนวยการ และข้าราชการในสำนักผังเมือง โดยมีคณาจารย์จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นที่ปรึกษาโครงการ
สำหรับสภาพปัญหาของเขตสัมพันธวงศ์และแนวทางการแก้ไขนั้น นายนิคมฯ กล่าวว่า จากการสรุปผลโครงการของคณะที่ปรึกษานั้น สภาพปัญหาที่พบได้แก่ ปัญหาความแออัดของตัวอาคาร การขาดแคลนพื้นที่สีเขียว ขาดที่จอดรถ การจราจรติดขัด อากาศเป็นพิษ ตรอกซอยแคบยากแก่การบรรเทาอัคคีภัย อาคารมีค่าทางประวัติศาสตร์ มีสภาพทรุดโทรม ปัญหากิจกรรมค้าส่งและโกดังขัดแย้งกับนโยบายเมืองเก่า และปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไม่สมบูรณ์ ส่วนแนวทางแก้ปัญหานั้น คณะที่ปรึกษาเสนอให้มีการจัดทำแนวทางการบูรณะพัฒนาอาคาร การจัดระบบทางเท้าเชื่อมย่านการค้า เชื่อมโยงการสัญจรกับสถานีรถไฟ รถไฟฟ้าในอนาคต พัฒนาระบบสาธารณูปโภค พัฒนากิจกรรมการบริการแทนที่การขนส่งและโกดัง ประยุกต์ใช้ระบบโบนัส ซึ่งเป็นการอนุญาตให้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้มากกว่าปกติ เพื่อแลกกับการอุทิศพื้นที่ให้กับสาธารณประโยชน์ และประการสุดท้ายที่ไม่ควรมองข้าม ได้แก่ การพัฒนาระบบประชาคมเขตสัมพันธวงศ์ให้เข้มแข็ง
“ถ้าเราอยากให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในอนาคต ควรสร้างกลุ่มประชาคมของคนในท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน และมีผู้นำที่สามารถตัดสินใจและพูดแทนชาวบ้านได้ ในส่วนของภาครัฐก็ควรอธิบายให้ประชาชนเห็นภาพ เข้าใจในประโยชน์ เพราะโครงการจะสำเร็จได้ต้องมีหลักประกันให้ประชาชน ทั้งนี้ โครงการลักษณะนี้ควรเริ่มทำในพื้นที่เล็ก ๆ ก่อน ซึ่งหากประสบความสำเร็จ พื้นที่ใกล้เคียงจะทำตามเอง” ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กล่าวในท้ายสุด--จบ--
-นศ-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๔ พ.ค. C Rhyne Group ร่วมจัดงาน Asia Top Awards 2024 พร้อมรับรางวัล Business Awards
๒๔ พ.ค. FTI พบนักลงทุน Opportunity Day โชว์ผลงานไตรมาสแรก ปี 67
๒๔ พ.ค. ต้อนรับศูนย์อินเดียฯ สู่สถาบันเอเชียศึกษา พร้อมเปิดตัวหนังสือพุทธโคดม : บทวิเคราะห์เชิงรัฐศาสตร์ ว่าด้วยพุทธประวัติในบริบททางเศรษฐกิจ การเมือง
๒๔ พ.ค. Alibaba Cloud ประกาศเปิด Availability Zones ใหม่ และลงทุนทั่วโลกเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมด้าน AI
๒๔ พ.ค. PwC ประเทศไทย แนะซีเอฟโอสร้างทัศนคติทางดิจิทัลเพื่อพลิกโฉมฝ่ายการเงิน
๒๔ พ.ค. เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส จับมือ กรมป่าไม้ จัดโครงการรักษาผืนป่า JT Forest สร้างการตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อม
๒๔ พ.ค. 3 นวัตกรรมจุฬาฯ คว้ารางวัลเหรียญทอง และถ้วยรางวัลพิเศษ จากเวทีนวัตกรรมนานาชาติในงาน ITEX 2024 ที่มาเลเซีย
๒๔ พ.ค. ส่องไอเดียเยาวชนสร้างสรรค์! DekSDM SPU ออกแบบ Art Toy สุดน่ารัก หนึ่งในผลงาน โชว์บนเวที Thailand Toy Expo
๒๔ พ.ค. MAGURO เคาะราคาไอพีโอ 15.90 บาท จองซื้อ 28-30 พ.ค.นี้ ระดมทุนขยายธุรกิจ- หนุนการเติบโต และเสริมแกร่งการเงิน จ่อเทรด 5 มิ.ย.
๒๔ พ.ค. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาสในโครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา