สพช. เดินหน้ารณรงค์ "ขับ 91 เติม 91" เพิ่มยอดออกเทน91 อีก 5 - 10% ประหยัดอีก 1,000 ล้านบาท/ปี

กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--สพช.
สพช. สานต่อโครงการ "ขับ 91 เติม 91" หลังประสบความสำเร็จในปีที่แล้ว ทำให้ผู้ใช้ออกเทน 91 เพิ่มเป็น 57% ตั้งเป้าเพิ่มอีก 5-10% ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการนำเข้าสารเพิ่มค่าออกเทนได้อีก 1,000 ล้านบาท/ปี
นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถเติมเบนซินออกเทนที่เหมาะสมกับความต้องการของเครื่องยนต์ หรือ "ขับ 91 เติม 91" มาตลอดระยะเวลา 3 ปีนั้น ทำให้สัดส่วนการใช้ออกเทน 91 เพิ่มขึ้นถึง 137 ล้านลิตรหรือ 25% จาก 32% ในปี 2541 ขึ้นไปถึง 57% ในเดือนกันยายน ปี 2544 ซึ่งเป็นมาตรการที่ช่วยประหยัดค่า น้ำมันทันทีลิตรละ 1 บาท รวมถึงเป็นการลดการนำเข้าสารเพิ่มค่าออกเทน และลดต้นทุนการ กลั่นน้ำมันได้กว่า 2,000 ล้านบาท/ปี ผลดังกล่าวชี้ให้เห็นแล้วว่าการรณรงค์ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ ทำให้ผู้ใช้รถมีพฤติกรรมที่หันมาใช้น้ำมันที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีผู้ใช้รถบางส่วนที่เติมเบนซินออกเทน 91 ได้ แต่ยังไม่เติม อีกจำนวนประมาณ 10% รัฐบาลจึงได้สานต่อ โครงการ "ขับ 91 เติม 91" ขึ้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการใช้ออกเทน 91 ขึ้นอีก 5-10% คิดเป็นเงินที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าสารเพิ่มค่าออกเทนและลดต้นทุนการกลั่นน้ำมันได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งสัดส่วนของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศที่สามารถใช้ออกเทน 91 มีอยู่ ประมาณ 67% คิดเป็น 398 ล้านลิตร/ปี แต่ปัจจุบันมีผู้เติมออกเทน 91 เพียง 339 ล้านลิตร/ปี คิดเป็น 57% การรณรงค์ได้มุ่งเน้นให้ ผู้ใช้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทั้งส่วนบุคคล รถรับจ้าง และรถของหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ที่สามารถเติมออกเทน 91 ได้ แต่ยังไม่เติม หันมาเติมน้ำมันเบนซินออกเทน 91 ทันที โดยออกรณรงค์ในสถานีบริการน้ำมัน อู่บริการซ่อมบำรุงรถ องค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และวินมอเตอร์ไซค์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2544 - มีนาคม 2545
นายเมตตา บันเทิงสุข รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) กล่าวยืนยันว่า รถยนต์และรถ จักรยานยนต์ที่สามารถเติมออกเทน 91 ได้ ก็ควรเติม เพราะการเติมออกเทน 91 ในเครื่องยนต์ที่มีความต้องการออกเทน 91 ไม่ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานของรถด้อยไปกว่าการเติมออกเทน 95 แต่จะช่วยให้ผู้ใช้รถประหยัดรายจ่าย และช่วยเศรษฐกิจชาติโดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันยังมีความจำเป็นต้องพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศด้วย และเพื่อให้ผู้ใช้รถที่สามารถเติมเบนซินออกเทน 91 ได้แต่ยังไม่เติม ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกิดความมั่นใจ ตลอดจนเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรม ด้วยการหันมาเติมเบนซินออกเทน 91 สพช. จึงได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ คือ จัดให้มีการทดสอบเปรียบเทียบผลการใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91 และ 95 กับเครื่องยนต์ที่มีความต้องการน้ำมันเบนซินออกเทน 91 (Performance Test) และการทดสอบเพื่อวัดความรู้สึกในการขับขี่เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างน้ำมันเบนซินออกเทน 91 และ 95 (Blind Test) การจัดสัมมาผู้นำความคิดด้านยานยนต์ การรณรงค์ในองค์กรรัฐ-รัฐวิสาหกิจ อู่ซ่อมรถ สถานีบริการน้ำมัน และวินมอเตอร์ไซค์ นอกจากนี้ยังสื่อสารผ่านสื่อภาพยนตร์ประชาสัมพันธ์ สิ่งพิมพ์ สื่อเคลื่อนที่ (รถตุ๊ก ตุ๊ก) และสปอตวิทยุ เพื่อให้เข้าใจถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
การทดสอบเปรียบเทียบผลการใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91 และ 95 กับเครื่องยนต์ที่มีความต้องการน้ำมันเบนซินออกเทน 91 (Performance Test) ซึ่งได้ทำการทดสอบที่ห้องทดสอบของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยนำเครื่องยนต์ที่ต้องการน้ำมันออกเทน 91 ไปทดสอบด้วยการเติมออกเทน 91 และออกเทน 95 ที่ตำแหน่งคันเร่งและความเร็วรอบเดียวกัน ผลการทดสอบสรุปได้ว่าค่าออกเทนของน้ำมันเบนซินไม่เกี่ยวกับความแรงของเครื่องยนต์
การทดสอบเพื่อวัดความรู้สึกในการขับขี่เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างน้ำมันเบนซินออกเทน 91 และ 95 (Blind Test) เป็นการทดสอบเพื่อยืนยันในเรื่องการอุปทานของผู้ขับขี่รถ ด้วยการทดสอบรถที่สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พัทยา จ.ชลบุรี และให้ผู้ทดสอบขับขี่รถไปในสนามคนละ 3 รอบ ซึ่งแต่ละรอบผู้ทดสอบจะไม่รู้เลยว่าเจ้าหน้าที่เติมเบนซินออกเทน91 หรือ ออกเทน 95 เมื่อทดสอบจนครบแล้ว ผลปรากฏว่าผู้ที่ทดสอบทั้งหมดไม่มีใครตอบถูก 100% จึงสรุปได้ว่าการที่ผู้ขับขี่รู้สึกว่าน้ำมันเบนซินออกเทน 91 แตกต่างจาก 95 เป็นเพียงความรู้สึกอุปทานไปเอง การจัดสัมมนาผู้นำความคิดด้านยานยนต์ มี 3 กลุ่มคือ กลุ่มช่าง กลุ่มผู้สื่อข่าวรถยนต์ และกลุ่มผู้สื่อข่าวรถจักรยานยนต์ และยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์ใน 20 องค์กรรัฐ-รัฐวิสาหกิจและเอกชน อู่บริการในกรุงเทพและต่างจังหวัด 300 อู่ สถานีบริการน้ำมัน ในกรุงเทพและต่างจังหวัด 250 แห่ง และวินมอเตอร์ไซค์ ในเขตกรุงเทพฯ 500 วิน ส่วนภาพยนตร์ประชาสัมพันธ์ 3 เรื่อง ออกอากาศเดือน พ.ย. 44 - เดือน ม.ค. 45 สิ่งพิมพ์ประชาสัมพันธ์ ขนาดครึ่งหน้า ขาว-ดำ เผยแพร่ เดือน พ.ย. 44 - ม.ค. 45 สื่อเคลื่อนที่ (ตุ๊ก ตุ๊ก) ขนาด 50x75 เซนติเมตร เผยแพร่ เดือน พ.ย. 44 - ก.พ.45 และสปอตวิทยุ ความยาว 30 วินาที 1 เรื่อง ออกอากาศเดือน พ.ย.44 - ม.ค.45
"สำหรับการรณรงค์การใช้เบนซินออกเทน 91 ของภาครัฐ สพช. จะขอความร่วมมือกับกรมบัญชีกลาง และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดันการใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91 ของภาครัฐ ซึ่งรถยนต์ของราชการใช้น้ำมันผิดชนิด เช่นเดียวกับของเอกชน ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล รัฐบาลก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันได้ลิตรละ 1 บาท นอกจากนี้ ผู้บริหารหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ น่าจะจัดให้มีการตรวจสอบการใช้น้ำมันภายในหน่วยงานของตนเอง ซึ่งจะทำให้ลดค่าใช้จ่ายในองค์กรได้ โดยสามารถตรวจสอบประเภทน้ำมันที่ใช้ได้จากใบเสร็จรับเงินของหน่วยงานนั้นๆ" รองเลขาธิการ กล่าวในตอนท้าย
ศูนย์ประชาสัมพันธ์รวมพลังหาร 2 โทรศัพท์ 612-1555 ต่อ 201-5 โทรสาร 612-1368 121/1-2 ถ.เพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 www.nepo.go.th-- จบ--
-อน-