ไทยเป็นเจ้าภาพจัดมวยไทยปะทะกังฟูเพื่อมิตรภาพ 10 ธันวาคมนี้ ที่อิมแพคเมืองทองธานี

กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--สภามวยไทยโลก
มวยไทยฟิตเต็มร้อย พร้อมตะบันหน้ากับกังฟูจีน เป็นครั้งที่ 2 หลังจากโดนสอนเชิงกังฟูที่ปักกิ่ง โดยครั้งนี้จัดการ แข่งขัน ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทอง ธานี วันที่ 10 ธันวาคมศกนี้
ทั้งนี้เพื่อสมทบช่วยเหลือผู้สูงอายุ และทุนการศึกษานักเรียน นักศึกษาจีน พร้อมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนศิลปะวัฒนธรรม และกีฬา ระหว่างไทย กับ จีน
ที่ ห้องบรรพตพิมาน โรงแรมเดอะแกรนด์ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ประธานสภามวยไทยโลก ฯพณฯ หยัน ถิง ไอ้ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พล.อ.วรยุทธ มีสมมนต์ ประธานสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ พร้อมด้วย นายส่ง กาญจนชูศักดิ์ โปรโมเตอร์จัดการแข่งขัน ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขันกีฬามิตรภาพไทย-จีน (มวยไทย-กังฟู) ครั้งที่ 2 ณ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี ในวันที่ 10 ธ.ค.ศกนี้
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ประธานสภามวยไทยโลก กล่าวว่าการจัดการแข่งขันกีฬามิตรภาพไทย-จีน (มวยไทย-กังฟู) ในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งแรกที่ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนั้น ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ชมที่ไปดูการแข่งขันในครั้งนั้นประมาณ 8 พันกว่าคน และในครั้งนี้ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ทางด้านสภามวยไทยโลกก็มีหน้าที่ดำเนินการจัดการแข่งขัน เพื่อแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมและกีฬา ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ คือทางจีนมีความประสงค์ ที่จะบรรจุมวยไทยเข้าเป็นศิลปะการต่อสู้จู่โจมป้องกันตัว
ด้าน พล.อ.วรยุทธ มีสมมนต์ ประธานสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ เปิดเผยว่า การจัดการแข่งขันกีฬามิตรภาพระหว่างมวยไทย กับมวยจีน ในครั้งนี้ เพื่อที่อยากจะเผยแพร่กีฬามวยไทยออกไปทั่วโลก ให้ทุกคนรู้จักกับมวยไทย พร้อมทั้งเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรม ระหว่างประเทศจีนกับประเทศไทยด้วย โดยการส่งมวยไทยไปแข่งขันที่กรุงปักกิ่ง และกรุงปักกิ่งก็ส่งมวยกังฟูมาแข่งขันในเมืองไทย และในครั้งนี้ จะทำการแข่งขันที่ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี ในวันที่ 10 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ไม่เสียค่าผ่านประตู โดยรายการนี้ โทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 จะดำเดินการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 14.00 น
ประธานสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ กล่าวต่อว่า การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวให้กับนักกีฬาจีน และเจ้าหน้าที่ ที่เดินทางมายังประเทศไทยในครั้งนี้ เพื่อให้รู้ว่าเมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว เช่น มีการล่องเรือ สำหรับการแข่งขันมวยไทย-กังฟู ครั้งนี้ ในด้านการประกบคู่มวย ได้มอบหมายให้ "เสี่ย"ส่ง กาญจนชูศักดิ์ เป็นโปรโมเตอร์ในการประกบคู่มวย เพื่อที่จะให้การแข่งขันมีความสนุกสนานเข้มข้น และการแข่งขันในครั้งนี้ใช้กติกา มวยไทย ที่ใช้ในเวทีมวยลุมพินีทุกชนิด โดยเน้นว่าการแข่งขันมวยครั้งนี้ เป็นการเชื่อมสัมพันธ์กันระหว่าง 2 ประเทศ ไม่ได้นำเอานักมวยมาฆ่ากันเอง
อนึ่ง การแข่งขันกีฬามิตรภาพระหว่างมวยไทย-มวยจีนในครั้งนี้ นอกจากจะได้ชมการแข่งขันแล้ว ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ยังมีการมอบโชคให้กับผู้ที่เข้าไปชมการแข่งขันด้วย และถ้าผู้ชมท่านใด ที่ไปถึงสนามก่อนเที่ยงจะได้รับรางวัลทันที ส่วนการแข่งขันครั้งนี้ มีมวยให้ชมกัน 10 คู่ ประกอบด้วย
คู่ที่ 1 แพรดำ ว.เดชวันมิตร-หลิว หลิว อิ้น (54 กก.)
คู่ที่ 2 ชาญชัย เพชรมะดัน-หง ไห่ ซัน (59กก.)
คู่ที่ 3 ลุกต้น ศิษย์พวงทอง-หลิว เจ๋อ ตง (61กก.)
คู่ที่ 4 ฟ้าแดง บ.ช.ร.2-เชียว เฉิง หลง (66กก.)
คู่ที่ 5 แสงดาวน้อย ปิคนิคแก๊ส-ชุย เฉิง (66กก.)
คู่ที่ 6 สุริยา ปราสาทหินพิมาย-เจ้า เป่า จวิน (71กก.)
คู่ที่ 7 สวัสดิ์ จันทร์ร้อยเอ็ด-หลิว เป่า เจีย (74กก.)
คู่ที่ 8 วัลลภ ส.สาทพันธุ์-ซุน เทา (74กก.)
คู่ที่ 9 ธรรมนูญ ตั้นรัตกาลวงศ์-จู ปิ่ง เหยิน (82กก.) และคู่สุดท้ายเป็นมวยหญิง รุ่งอรุณ ส.ฟองน้อม-เฮ่อ เวย (60กก.)--จบ--
-สส-