สธ.เดินหน้ามุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมยาในประเทศ

จันทร์ ๒๐ สิงหาคม ๒๐๐๑ ๑๑:๔๒
กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--อย.
รมว.สธ. แถลงผลประชุมคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตยาสามัญและการวิจัยพัฒนายาสมุนไพรในประเทศ เผยดึงทุกหน่วยงานเข้าร่วมดำเนินงานอย่างครบวงจร เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงแก่สื่อมวลชนว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค.44 ที่ผ่านมา คณะกรรมการแห่งชาติด้านยาได้มีการประชุมร่วมกัน เพื่อหาแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตยาสามัญ (Generic Drugs) และการวิจัยพัฒนายาสมุนไพรในประเทศ ซึ่งได้มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างครบวงจร โดยในการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตยาสามัญนั้น มุ่งส่งเสริมให้มีการผลิตยาสามัญเพื่อทดแทนการนำเข้า ซึ่งภาครัฐจะเข้าไปมีส่วนให้การสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนา ทั้งนี้ อาจลงทุนหรือร่วมลงทุนกับภาคเอกชนก็ได้ เนื่องจากเป็นผลประโยชน์สาธารณะ นอกจากนี้ ยังมุ่งส่งเสริมการผลิตยาให้มีการขึ้นทะเบียนยาสามัญใหม่ให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ซึ่งแนวทางพัฒนาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตยาในประเทศเพื่อส่งเสริมการใช้ยาที่ผลิตในประเทศไทยทั้งเพื่อการบริโภคในประเทศและการส่งออก
สำหรับการส่งเสริมและพัฒนาด้านยาสมุนไพรนั้น ขณะนี้ยังมีปัญหาด้านการวิจัยและพัฒนา คณะกรรมการแห่งชาติด้านยาจึงได้ปรับทิศทางการพัฒนามาเน้นด้านการวิจัยและพัฒนายาสมุนไพรมากขึ้น เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ โดยกำหนดแนวทางการส่งเสริมต่างๆ อย่างครบวงจร ตั้งแต่ระดับผู้เพาะปลูกสมุนไพรที่เป็นวัตถุดิบไปจนถึงการผลิตผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรที่มีคุณภาพตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตยา (GMP) โดยจะมีการจัดทำมาตรฐานของยาสมุนไพรแต่ละชนิดในประเทศไทยที่ส่งเสริมให้ครอบคลุมเพื่อจัดทำเป็นตำรายาสมุนไพรของประเทศ มีการศึกษาวิจัยระดับปรีคลินิคและระดับคลินิก เพื่อยืนยันความปลอดภัยและสรรพคุณของสมุนไพร การศึกษาทบทวนองค์ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย เพื่อให้ได้องค์ความรู้ที่เชื่อถือได้ เข้าใจได้ง่ายสำหรับคนรุ่นใหม่ รวมทั้งการพัฒนาบุคลกรที่มีความรู้ในด้านต่างๆ ให้เข้ามารองรับการพัฒนายาสมุนไพร ตลอดจนการทบทวนกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา โดยในการดำเนินการจะประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลในด้านของวัตถุดิบ ส่งเสริมการเพาะปลูกอย่างมีคุณภาพ และวางแผนการตลาดเพื่อประกันราคาให้กับผู้เพาะปลูกอย่างรัดกุม ทบวงมหาวิทยาลัย และหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุข เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แผนไทย ตลอดจนหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมกันกำหนดนโยบายทิศทางการวิจัยและพัฒนาทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างชัดเจน การจัดทำมาตรฐานของสมุนไพร และการพัฒนาบุคลากร รวมทั้งติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในตอนท้ายว่า ทิศทางในการวิจัยและพัฒนายาสามัญในประเทศและยาสมุนไพรไทย จะดำเนินการอย่างเร่งด่วนและครบวงจรในทุกด้าน เพื่อให้ผลออกมาเป็นรูปธรรมเกิดประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยให้มากที่สุด ซึ่งจะส่งผลเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ได้รับการยอมรับจากสากล รวมทั้งจะส่งเสริมโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ประชาชนได้ใช้ยาที่มีคุณภาพอย่างมั่นใจด้วย--จบ--
-นห-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น