บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด เปิดเสรีการคิดอัตราค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ พร้อมเปิดให้ลูกค้าบุคคลซื้อขายหุ้น

กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--หลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา
บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด เปิดเสรีการคิดอัตราค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ พร้อมเปิดให้ลูกค้าบุคคลซื้อขายหุ้น โดยไม่เสียค่านายหน้าเป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อเป็น การตอบแทนลูกค้า ย้ำบริษัทมีศักยภาพเพียงพอที่จะซื้อขายหลักทรัพย์ถึง 5 เท่าตัว และคาดว่า จะสามารถรองรับปริมาณการซื้อขายที่จะเพิ่มขึ้นนายวิบูลย์ เพิ่มอารยวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรีอยุธยา จำกัด กล่าวว่า บริษัทสนับสนุน นโยบายเปิดเสรีการคิด อัตราค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อประโยชน์แก่นักลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะทำให้บริษัทหลักทรัพย์ และผู้เกี่ยวข้อง ในวงการนี้ ได้รับความเป็นธรรม ในการเสียค่าใช้จ่าย ซื้อขายหลักทรัพย์ และได้รับผลประโยชน์ ตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ในระยะยาว ซึ่งจะช่วยส่งเสริม การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้กลไกตลาดทุน คล่องตัวขึ้น ส่งเสริมขบวนการออมเงินทุน ระยะยาวของประเทศ ได้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่าบล.กรุงศรีอยุธยา จำกัด ได้มีการนำนโยบายประหยัดค่าใช้จ่ายให้นักลงทุน ที่ซื้อขาย หลักทรัพย์ โดยยินดีรับทำงานฟรี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1ตุลาคม ถึงสิ้นปี 2543 เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้า ปัจจุบันของบริษัท เพื่อดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ และผู้ออมเงิน ให้มาสนใจลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์ โดยผลงาน ของบริษัท ภายในปี 2542 นั้น เราสามารถทำกำไร และได้จ่ายเงินปันผล ให้กับบริษัทแม่ ประมาณร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน สำหรับในปีนี้ คาดว่าอาจจะมีภาวะขาดทุนบ้าง เนื่องจากความผันผวน ของอัตราค่านายหน้า และความซบเซา ของตลาดหลักทรัพย์ โดยรวม แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะเริ่มมีกำไร อีกครั้งหนึ่งในปี 2545 หลังจากบรรยากาศ ความสับสน เรื่องค่าธรรมเนียมบริการ ผ่านพ้นไปในระยะประมาณ 12-15 เดือนข้างหน้า
นอกเหนือจากจุดเด่นของผลงานของบริษัทในปี 2542 แล้วนั้น ทางบริษัทยังมีผลงานที่เป็นจุดเด่น อย่างเป็นรูปธรรม คือ บริษัทได้ชูนโยบายการลงทุน ในหุ้นที่มีปันผลตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา เพราะทีมวิจัยได้เล็งเห็นว่า ถึงแม้ราคาหุ้นจะตกต่ำ แต่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ที่มีปันผลสม่ำเสมอส่วนใหญ่ ยังจะดีอยู่และสามารถ จ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนในช่วงตลาดขาลงถึง แม้ราคาหุ้นจะตก แต่ตราบใดที่บริษัทจดทะเบียน ยังมีการจ่าย เงินปันผล และลูกค้าถือครองหุ้นบริษัทเหล่านี้เป็นหลักทรัพย์ลงทุน ในระยะปานกลางหรือระยะยาว ก็จะไม่เกิด ผลกระทบในทางลบ ซึ่งขณะนี้บริษัทได้ให้ความโดดเด่น กับหุ้นที่จ่ายปันผล ในอัตราผลตอบแทน ไม่น้อยกว่า 2 เท่า ของดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งบริษัทแยกแยะออกมาเป็นจำนวน ไม่น้อยกว่า 30 บริษัทจดทะเบียน
นายอนันต์ หวังพงษ์สวัสดิ์ กรรมการบริษัทกล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทหวังว่าบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ จะคล้อยตามการ ประกาศเสียสละค่านายหน้าเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามความคิดริเริ่มของบล.กรุงศรีอยุธยาจำกัด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ต่อนักลงทุน สถาบันตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย และเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
นายธงชัย ช่างวิชชุการ รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่าในด้านการปฏิบัติงาน ภายในบริษัท ได้มีระบบงานและศักยภาพ เพียงพอที่จะรับปริมาณซื้อขายหลักทรัพย์ และอาจจะเพิ่มมากขึ้น อย่างน้อยอีก 5 เท่าตัว ทั้งนี้บริษัทได้ตรวจสอบระบบ คอมพิวเตอร์ และระบบการสื่อสาร ทุกประเภท พบว่าจะสามารถรองรับ ปริมาณการซื้อขาย ที่จะเพิ่มขึ้นจะสามารถให้ การบริการแก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการส่งเสริมการตลาด ด้วยการไม่คิดค่านายหน้า ดังกล่าวนั้น คาดว่าจะเป็น ภาระกับบริษัท ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่เนื่องจากต้นทุน ดำเนินงานของบล.กรุงศรีอยุธยา จำกัด ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งการไม่คิดค่านายหน้า ซื้อขายหลักทรัพย์ และการคิดอัตราซื้อขาย หลักทรัพย์ที่ต่ำสุด จะไม่สร้างความยากลำบาก ให้กับบริษัทในระยะยาว--จบ--
-สส-