ผลสำรวจเจบิค ยกไทยแหล่งขยายการลงทุนรองจากจีน พร้อมรั้งอันดับหนึ่ง แหล่งขยายลงทุนอุตฯ ยานยนต์

อังคาร ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๘ ๑๓:๐๙
กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--บีโอไอ
บีโอไอเผยผลสำรวจเจบิค นักลงทุนญี่ปุ่นยังเชื่อมั่นประเทศไทย โดยยกให้ไทยเป็นอันดับสองรองจากจีนที่บริษัทญี่ปุ่นจะขยายการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นยกไทยเป็นอันดับ 1
นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงผลสำรวจ การประกอบกิจการของบริษัทญี่ปุ่นในต่างประเทศ ครั้งที่ 19 ซึ่งจัดทำโดยธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ แห่งประเทศญี่ปุ่น หรือเจบิคว่า นักลงทุนญี่ปุ่น ร้อยละ 30 ยังคงรักษาคะแนนที่ให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับความสนใจในฐานะแหล่งลงทุนสำคัญ ซึ่งเป็นสัดส่วนในระดับต่อเนื่องจากปี 2549 โดยเฉพาะในหมวดอุตสาหกรรมยานยนต์ บริษัทญี่ปุ่นต่างยกให้ไทยเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับ 1 ที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติม
ทั้งนี้จากการสำรวจบริษัทญี่ปุ่นที่ได้เข้าไปลงทุนในไทยแล้ว พบว่าประเทศไทยได้รับความสนใจที่จะขยายธุรกิจสูงเป็นอันดับ 2 รองจากจีน โดยนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นต่อศักยภาพในแง่ที่ผลประกอบการทางธุรกิจในไทย มีอัตราผลกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยผลกำไรของบริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกันในประเทศอื่น โดยเฉพาะในหมวดอุตสาหกรรมยานยนต์พบว่าบริษัทที่ตั้งในประเทศไทยมีอัตราผลกำไรสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ในประเทศอื่น
“ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 4 ในกลุ่มประเทศที่นักลงทุนญี่ปุ่น แสดงความมั่นใจได้รับความสนใจในฐานะแหล่งลงทุนสูงสุด โดยสามอันดับแรก ได้แก่ จีน อินเดีย และเวียดนาม ทั้งนี้ระดับคะแนนในภาพรวมของนักธุรกิจที่มีต่อประเทศไทยไม่ได้ลดลงจากปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า ไทยยังอยู่ในตำแหน่งต้น ๆ ของประเทศที่บริษัทญี่ปุ่นให้ความสนใจ ในขณะที่ประเทศจีน มีคะแนนลดลงติดต่อกันถึง 5 ปี โดยนักลงทุนกระจายความสนใจจากประเทศจีน ไปสู่ประเทศเวียดนามและประเทศอินเดียแทน” นายสาธิตกล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทที่ตอบว่าสนใจลงทุนในประเทศไทยกว่าร้อยละ 50 ล้วนมีแผนการลงทุนแน่นอนอยู่แล้ว ในขณะที่มีบริษัทจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ตอบว่ามีแผนการลงทุนที่แน่นอนในอินเดียและเวียดนาม แต่การเข้าไปลงทุนจริงยังน้อยกว่าระดับความสนใจ
นายสาธิต กล่าวว่า นักธุรกิจญี่ปุ่นมองว่า สิ่งที่ทำให้ประเทศไทยได้รับความสนใจลงทุน มีปัจจัยสำคัญมาจากค่าแรงที่ไม่สูงมากนัก ศักยภาพในการเติบโตของตลาดอุตสาหกรรมสนับสนุน คลัสเตอร์อุตสาหกรรม และขนาดของตลาดในประเทศ ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางด้านการตลาดที่ทำให้หาลูกค้ายากขึ้น ต้นทุนที่สูง ลูกค้าเรียกร้องราคาต่ำลง และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ตามลำดับ ทำให้ความพึงพอใจในการทำกำไรของนักลงทุนลดลง
สำหรับการสำรวจการประกอบการกิจการของบริษัทญี่ปุ่นในต่างประเทศครั้งนี้ได้ดำเนินการระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2550 ครอบคลุมข้อมูลการสอบถามทั้งสิ้น 970 บริษัท ได้รับการตอบกลับ 600 บริษัท หรือคิดเป็นร้อยละ 61.9%

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน
๑๗:๒๔ กรมทรัพย์สินทางปัญญา หารือกองปราบฯ จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ ปราบสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา งัดกฎหมายที่เกี่ยวข้องปราบผู้กระทำผิด
๑๗:๐๘ The Food School Bangkok ผนึก 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ มอบทุนกว่า 1.5 ล้านบาท เปิดตัว Future Chef of the World 2025
๑๗:๐๒ NPS สนับสนุนการปรับปรุงระบบไฟฟ้า โรงเรียนวัดหลังถ้ำวิทยาคาร
๑๗:๔๑ บางจากฯ จัดโปรแรงต่อเนื่อง จันทร์สีม่วง ลดราคาเฉพาะน้ำมันกลุ่มไฮพรีเมียม ทุกวันจันทร์ ระหว่างวันที่ 5 พ.ค. 68 - 30 มิ.ย. 68
๑๗:๓๐ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่ กรมราชทัณฑ์ จัดงานรวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม
๑๗:๑๑ ผมสวยท้าร้อน BSC hair Spray บำรุงยาวนาน ด้วยสูตร Aqua Moist
๑๗:๒๘ เตรียมพบกับปรากฏการณ์ศิลปะครั้งสำคัญ @ช่างชุ่ย นิทรรศการเดี่ยวในรอบ 9 ปี ของ Linecensor ARCH OF LINECENSOR PART 1: PERFECT
๑๗:๒๐ Tastes of May ณ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา 3 เสาร์ 3 สไตล์ ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้
๑๗:๔๕ อิเกีย ประเทศไทย ชวนอร่อยจัดเต็มกับเทศกาลแซลมอน ด้วยหลากเมนูพิเศษจากแซลมอนนอร์เวย์ คัดสรรคุณภาพสดใหม่ 1-31