TSD รับฟังลูกค้า ตกลงชะลอใช้ T+2 เพื่อทุกฝ่ายเร่งพัฒนาระบบงานให้พร้อมรองรับสมบูรณ์แบบ

อังคาร ๒๔ มิถุนายน ๒๐๐๘ ๑๒:๓๖
กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--SET
บ.ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ หารือผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ตกลงชะลอโครงการปรับลดระยะเวลาชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์จากภายในวันทำการที่ 3 (T+3) เป็นวันทำการที่ 2 (T+2) ออกไปก่อน จากเดิมที่จะเริ่มใช้สิ้นปีนี้ ระบุต้องการสร้างความพร้อมของระบบงานก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการผิดนัดชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปี ในการเร่งพัฒนาทุกระบบงานให้เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมเพิ่มฟังก์ชั่นการจับคู่รายการระหว่างโบรกเกอร์กับคัสโตเดียน และส่งเสริมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ แล้วจึงจะพิจารณากำหนดการใช้ T+2 ร่วมกันทุกฝ่ายอีกครั้ง
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) เปิดเผยว่า หลังจากได้รับฟังความเห็นจากบริษัทหลักทรัพย์และตัวแทนจากคัสโตเดียนแล้ว บ. ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ฯ เห็นว่าเพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีเวลาในการพัฒนาระบบต่างๆ ให้มีความพร้อมมากที่สุด จึงจำเป็นต้องชะลอโครงการปรับลดระยะเวลาชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์เป็น T+2 จากเดิมที่จะเริ่มใช้ในปีนี้ออกไปก่อน โดยคาดว่าทุกฝ่ายจะมีความพร้อมในเรื่องระบบงานรองรับอีกประมาณ 2 ปี แล้วจึงพิจารณากำหนดการใช้ร่วมกันทุกฝ่ายอีกครั้ง
“ในระหว่างนี้ บ. ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ จะเร่งปรับปรุงระบบหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่ คือ ระบบ Post Trade Integration (PTI) ซึ่งเพิ่งเริ่มใช้ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ให้สามารถรองรับงานต่างๆ ของบริษัทหลักทรัพย์ คัสโตเดียน และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างเป็นอัตโนมัติทั้งหมดโดยเชื่อมโยงตั้งแต่กระบวนการซื้อขายจนถึงการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ หรือที่เรียกว่า Straight Through Processing (STP) เพื่อทำให้ T+2 สามารถให้บริการสมาชิกทุกรายรวมทั้งผู้ลงทุนต่างประเทศซึ่งมีเรื่องของเวลาที่แตกต่างกัน (Time Zone) ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในอนาคต
ทั้งนี้ บ. ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ จะทำการเพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานในระบบหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ให้สามารถจับคู่รายการระหว่างบริษัทหลักทรัพย์และคัสโตเดียนที่เรียกว่า “Pre-Settlement Matching” เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาการทำงาน ช่วยลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ อีกทั้ง จะส่งเสริมธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (Securities Borrowing & Lending: SBL) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ โดยพัฒนาระบบงานให้กับบริษัทหลักทรัพย์ และหาผู้ให้ยืมจากสถาบันและลูกค้าที่ซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ หลังจากดำเนินการแล้วเสร็จตามที่กล่าวมาทั้งหมด จึงจะมีการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันเพื่อกำหนดการเริ่มใช้ T+2 ต่อไป” นางสาวโสภาวดี กล่าว
กรรมการผู้จัดการ บ. ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ ย้ำว่า การให้บริการของ บ. ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ โดยคำนึงถึงความพร้อมของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย จนทำให้ต้องชะลอการใช้ T+2 นั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ บ. ศูนย์ รับฝากหลักทรัพย์ฯ และสมาชิกที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด เนื่องจาก T+3 เป็นระยะเวลาในการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ที่เป็นมาตรฐานซึ่งทั่วโลกยังใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
Straight Through Processing (STP) หมายถึง การทำให้ธุรกรรมตั้งแต่การซื้อขายหลักทรัพย์จนถึงการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ ถูกประมวลผลเสร็จสิ้นทุกขั้นตอน และส่งข้อมูลให้ผู้เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ ไม่มีการแทรกแซงหรือขัดจังหวะโดยคน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลข้อมูล ลดขั้นตอนการป้อนคำสั่งและสร้างมาตรฐานในการส่งและยืนยันคำสั่ง ส่งผลให้การชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ทำได้เร็วขึ้น
สำหรับระบบ Post Trade Integration (PTI) เป็นระบบหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ที่รวมงานศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ งานชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ งานนายทะเบียนหลักทรัพย์เข้าไว้ด้วยกัน นับเป็นระบบพื้นฐานสู่การเชื่อมต่อกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัทหลักทรัพย์ คัสโตเดียน ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และสำนักหักบัญชีต่างประเทศ
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ส่วนธุรกิจสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาด จันทนีย์ พงษ์กระสินธุ์
โทร. 0-2229-2896 e-mail address: [email protected] http://www.tsd.co.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๔ ยันม่าร์ ประกาศอย่างเป็นทางการในการสนับสนุนสมาคมฟุตบอลอาเซียน
๑๗:๑๔ รู้ใจชวนทำความรู้จักเทเลเมติกส์ เทคโนโลยีลดอุบัติเหตุ ขับเคลื่อนท้องถนนปลอดภัย
๑๗:๐๙ The Food School Bangkok ผนึก 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ มอบทุนกว่า 1.5 ล้านบาท เปิดตัว Future Chef of the World 2025
๑๗:๓๔ โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
๑๗:๑๗ JGAB 2025 เปิดเวที The Next Gem Awards 2025 เฟ้นหาดีไซน์เนอร์เครื่องประดับรุ่นใหม่
๑๖:๐๙ ผถห. LEO ไฟเขียวปันผล 0.14 บาท/หุ้น รับทรัพย์ 14 พ.ค.นี้ เดินหน้ายุทธศาสตร์ LEO Go Green - รุกขยายธุรกิจใหม่ ดันกำไรขั้นต้นโตต่อเนื่อง
๑๖:๕๗ เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ เปิดตัวโซลูชันคลังสินค้าและโลจิสติกส์อัจฉริยะ ยกระดับการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB)
๑๖:๔๖ กระทรวง อว. โดย สวทช. - กรมควบคุมโรค กระทรวง สธ. ผนึกกำลังใช้ระบบ DDC-Care Platform เทคโนโลยีรับมือโรคระบาดข้ามพรมแดน
๑๖:๕๙ สจล. ร่วมมือมูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมอาชีพครอบครัวคนพิการอย่างยั่งยืน
๑๖:๓๕ KOAN ในเครือ CPW บุกตลาด Smart Home เปิดตัวนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะในงานสถาปนิก'68 ภายใต้แนวคิด Touch And