ละครโลกร้อน "ดู...ดู๊...ดู ดูคนทำ ทำไมถึงทำกับโลกได้" สสวท. สอนวิทย์ผ่านความบันเทิง

จันทร์ ๒๙ กันยายน ๒๐๐๘ ๑๐:๕๙
กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--สสวท.
วันนี้จะพาคุณหนู ๆ ตามไปดูละครเรื่อง "ดู...ดู๊...ดู ดูคนทำ ทำไมถึงทำกับโลกได้" โดยจัดแสดงรอบปฐมทัศน์ ไปเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา ณ ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ฯ (เอกมัย) เยาวชนที่ได้มาเข้าชมการแสดงรอบปฐมทัศน์ ได้แก่น้อง ๆ จากโรงเรียนดาราคาม โรงเรียนปทุมคงคา และโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
ก่อนที่จะเปิดการแสดง ผศ. พงษ์ ทรงพงษ์ จากภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มาเกริ่นนำเบื้องต้น ให้แก่เด็ก ๆ ถึงที่มาของการเกิดภาวะโลกร้อน อาจารย์พงษ์เล่าให้ฟังว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลานานแล้ว วัฏจักรการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกิดทุก ๆ 100,000 ปี สลับกันไปมาระหว่างยุคน้ำแข็งประมาณ 80,000 ปี และยุคที่น้ำแข็งเริ่มละลายซึ่งกินเวลาอีกประมาณ 20,000 ปี ก่อนโลกจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้งหนึ่ง ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกคือ แสงแดดจากดวงอาทิตย์ ซึ่งโลกจะมีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ไม่คงที่ บ้างโคจรเป็นวงกลม โลกก็จะได้รับพลังงานสม่ำเสมอและเกิดความอบอุ่น ขณะที่บางเวลาก็จะโคจรเป็นวงรี ทำให้โลกได้รับพลังงานน้อยลงและกลับเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้ง
นอกจากนั้น โลกยังมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะคล้ายการผงกศีรษะขึ้นลง 1 -2 องศา ทำให้แกนโลกเอียง และส่ายไปรอบๆ แกนที่ตั้งฉากกับดวงอาทิตย์ คล้ายลูกข่างเป็นคาบ ๆ ละประมาณ 26,000 ปี ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกมนุษย์ก็ถือเป็นตัวการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็วมากที่สุด โดยเฉพาะการขุดเจาะเชื้อเพลิงฟอสซิล ส่งผลให้คาร์บอนใต้ผิวดินกลับขึ้นมาหมุนเวียนสู่ชั้นบรรยากาศจำนวนมาก รวมไปถึงการตัดไม้ทำลายป่าซึ่งเป็นตัวรักษาความชุ่มชื้นของอากาศให้หมดไป ตลอดจนการก่อสร้างตึกอาคาร และการใช้พลังงานอย่างมหาศาล ที่ส่งผลถึงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่พบแล้ว เช่น ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกสูงขึ้น 1.2 -1.8 องศาเซลเซียส และข้อกังวลว่าธารน้ำแข็งขั้วโลกเหนือจะหดตัวลงมาก จนส่งผลถึงแหล่งต้นน้ำตามธรรมชาติของประเทศซีกโลกเหนือตอนบนที่อาจขาดแคลนแหล่งน้ำอุปโภค —บริโภคได้ในอนาคต อีกทั้งเกรงว่าน้ำแข็งที่ละลายจะไหลลงสู่ทะเลทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเฉลี่ย 1.8 มิลลิเมตรต่อปี
อาจารย์พงษ์ให้เด็ก ๆ ดูภาพของหมีขาวที่อาศัยอยู่บริเวณขั้วโลกเหนือ เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลายมากขึ้น จึงล่าแมวน้ำได้ลำบากกว่าเดิมมาก ทำให้จำนวนของหมีขาวลดลงเรื่อย ๆ โดยระบุว่าหมีขาวเป็นสัตว์ชนิดแรก ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเด็ก ๆ ได้รับความรู้เบื้องต้นที่เป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับโลกร้อนแล้ว การแสดงก็เปิดม่านขึ้น ก็จะได้พบกับสัตว์ต่างๆ ได้แก่ กบ กระต่าย ช้าง เต่า นกฮูก และหมีขาว พยายามจะทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่มนุษย์เรียกว่า "โลกร้อน" ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตทั้งโลก เจ้ากระต่ายตื่นตูม ไปแอบได้ยินมาว่า โลกของเราจะเกิด “ปรากฏการณ์เรือนจิ้งจก” จิ้งจกจะแพร่พันธ์มากขึ้นและยึดครองโลก พ่นไฟใส่โลก โลกก็จะแตกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วโลกก็จะไหม้เกรียมแต่ก็เปล่าหรอก เจ้านกฮูกมาเฉลยว่า แท้จริงแล้ว ปรากฏการณ์ที่ว่านั้น เรียกว่า “ปรากฏารณ์เรือนกระจก” ก็คือ การที่มีก๊าซต่าง ๆ ปกคลุมชั้นบรรยากาศอยู่เป็นจำนวนมาก เหมือนผ้าห่มหนา ๆ ห่มโลกไว้
ความร้อนของโลกก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในละคร ได้กล่าวถึงก๊าซอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโลกร้อน เช่น CO2 หรือคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน โอโซน CFC ไนตรัสออกไซด์ ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน เรียกรวม ๆ ว่าก๊าซเรือนกระจกนั่นเอง
คุณนกฮูกผู้คงแก่เรียน ได้เสนอแนะแนวทางไว้ว่า ถ้าหากมนุษย์หยุดการใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดก๊าซต่าง ๆ เหล่านี้ เช่น พลังงานไฟฟ้า น้ำมันที่เกิดจากการเผาไหม้ ลดการยึดติดความสะดวกสบายจากการใช้เครื่องปรับอากาศ ก็เป็ทางหนึ่งที่ช่วยโลกได้ส่วนคุณหมีขาวเอง ก็พบกับความเดือดร้อน จึงต้องมาขอความช่วยเหลือด้วย
ละครเรื่องนี้จึงสื่อให้เห็นว่าปัญหาโลกร้อนเป็นของทุกคนทุกชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น แล้วก็ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกชีวิตบนโลกใบนี้ สำหรับบทก็ใช้ภาษาที่สื่อสารให้คนดูสามารถเข้าใจได้ง่าย เป็นละครที่สามารถดูได้ทุกวัย หลังจากจบการแสดง ซึ่งทิ้งท้ายให้ผู้ชมได้นำไปคิดต่อ อ. ราม ติวารี นักวิชาการ สสวท. หัวเรือใหญ่ในการจัดกิจกรรมนี้ และ ผศ. พงษ์ ทรงพงษ์ ได้จัดกิจกรรมตอบคำถามชิงรางวัลเกี่ยวกับการแสดงที่จบไป โดยความยากง่ายของคำถามก็ขึ้นอยู่กับระดับชั้นของผู้ชม
สำหรับน้อง ๆ ประถมศึกษาจากโรงเรียนดาราคาม ก็ได้คำถามประมาณว่า ผ้าห่มที่ห่มโลกไว้ทำจากอะไร ก๊าซ CO2 คืออะไร โลกได้รับความร้อนจากอะไร ฯลฯ
ส่วนพี่ ม. ปลาย อย่างโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ก็ได้คำถามปราบเซียน ซึ่งต้องใช้ไหวพริบและความรวดเร็วในการคำนวณ แต่ก็สามารถตอบผ่านฉลุย และได้รางวัลกลับไปคำถามที่ตั้งขึ้น ช่วยให้ผู้ชมทุกคนได้ฝึกคิดตามไปด้วย และร่วมลุ้นคำตอบกันอย่างสนุกสนานละครโลกร้อน "ดู...ดู๊...ดู ดูคนทำ ทำไมถึงทำกับโลกได้" เกิดขึ้นเนื่องจากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ร่วมดำเนินการโครงการเสริมสร้างความเข้าใจวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมการเรียนรู้สำหรับโลกอนาคตแก่สาธารณชน เพื่อกระตุ้นให้สังคมตื่นตัวต่อการการรับรู้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้สังคมตื่นตัวต่อการรับรู้ข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์ผ่านกิจกรรมการแข่งขันการแสดงทางวิทยาศาสตร์ (Science Show) และละครวิทยาศาสตร์ (Science Drama) และเปิดโอกาสให้เยาวชนในระดับโรงเรียน ตั้งแต่ประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ โดยไม่จำกัดเฉพาะเด็กที่ถนัดทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากวิทยาศาสตร์เป็นศาสตร์เพื่อชีวิต และเป็นวิทยาศาสตร์สำหรับทุกคน ไม่ใช่วิทยาศาสตร์สำหรับบางคน
รศ. พฤทธิ์ ศุภเศรษฐศิริ ผู้อำนวยการวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า การดำเนินงานช่วงแรกในโครงการนี้ ได้มีการจัดอบรมครูวิทยาศาสตร์ภาคใต้ด้านการแสดงละครวิทยาศาสตร์ ที่อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ค่ายพระรามหก จังหวัดเพชรบุรี เมื่อเดือนกรกฎาคม 2551
การแสดงละครนั้นมีหลายมิติ “ละครวิทยาศาสตร์ที่มาจัดแสดงครั้งนี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ ซึ่งเป็นการให้แนวทางในการจัดทำละครวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะเห็นว่า การจัดทำละครวิทยาศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องใช้ฉากสมจริงเหมือนอย่างในภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ ละครเรื่องนี้เป็นละครสำหรับเยาวชน จึงมี
การจัดทำฉากง่าย ๆ เป็นเหมือนฉากในการ์ตูนเด็ก ชุดของตัวละครก็เน้นสีสัน ชัดเจน นอกจากจะให้ความสนุกสนานเฮฮาในช่วงสั้น ๆ แล้วก็ยังสอดแทรกความรู้เข้าไปอย่างไม่น่าเบื่อ”
อาจารย์วราภรณ์ ต วัฒนผล นักวิชาการสาขา พสวท. และ สควค. จากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ผู้สวมบทบาทเป็น “นกฮูก” ชอบอ่านหนังสือ และมาใก้ความรู้แก่ผู้ชม เล่าว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของ สสวท.ในการ เผยแพร่ความรู้ในรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่เยาวชน และดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างความตระหนักทางด้านวิทยาศาสตร์ “การที่ได้รับบทพี่นกฮูกอาจจะเป็นเพราะบุคลิกเราดูดุ ๆ แล้วก็มีความเป็นนักวิชาการ นกฮูกในเรื่องมีความรอบรู้ และจะศึกษาหาความรู้จากการอ่านหนังสือ ไม่เชื่ออะไรใครง่ายๆ เป็นตัวแทนในการให้เนื้อสาระที่เป็นวิชาการที่ถูกต้องกับเด็ก ๆ เวลาทั้งหมดที่ใช้ในการฝึกซ้อมละคร เป็นเวลาหลังเลิกงานประจำแล้ว กว่าจะเลิกซ้อมก็ค่ำมากๆ นกฮูกมีปัญหาเรื่องการท่องจำบทบ้างในระยะแรกๆ เพราะบทนกฮูกมีเนื้อหาวิชาการเป็นหลัก และบทยาวมาก ดังนั้น พอกลับถึงบ้านก็ต้องพยายามซ้อมเพิ่มเติม แต่วันที่แสดงจริงก็ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้เยอะค่ะ สำหรับการแสดงครั้งแรกกับทีมงานมืออาชีพ
นอกจากนั้นผู้รับบทนกฮูก ยังกล่าวว่า “สิ่งที่ผู้ชมจะได้รับจากการดูละครอย่างแรกก็คือความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับปรากฏการณ์โลกร้อน และตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนว่าเป็นของทุกชีวิตบนโลกใบนี้ อย่างที่สองก็หวังว่าทางโรงเรียนจะได้นำรูปแบบของการเผยแพร่ความรู้แนววิทยาศาสตร์ในแบบละครเวทีไปประยุกต์ใช้
ในโรงเรียน และนอกเหนือจากการได้รับความรู้เกี่ยวกับเนื้อหาทางวิชาการแล้ว ก็คงเป็นความสนุกสนาน ความเพลิดเพลินไปกับลีลาความน่ารักของผู้แสดงด้วย”
ทั้งนี้ สสวท. และวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม ได้จัดแสดงละครวิทยาศาสตร์เรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวอย่างสำหรับการทำละครวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะจัดให้มีการประกวดในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ ควบคู่ไปกับความสนุกสนาน ทำให้วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่สนุก น่าเรียน น่าค้นหา รวมทั้งสร้างความตระหนักให้ผู้ชม รวมทั้งนักเรียนสนใจวิทยาศาสตร์มากขึ้นจากการเรียนรู้ผ่านละครหลังจากการแสดงรอบปฐมทัศน์แล้ว สสวท. ได้จัดการแสดงละครวิทยาศาสตร์เรื่องนี้อีกครั้งในวันที่ 23 กันยายน 2551 ณ หอประชุมชั้น 2 อาคารวิจัยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร และที่ TK PARK ในวันที่ 28 กันยายน 2551
ส่วนการแสดงครั้งต่อไป จะจัดขึ้นอีกเมื่อใดนั้น โปรดติดตามได้ในเว็บไซต์ สสวท. www.ipst.ac.th หรือถ้าหากสนใจการแสดงดังกล่าว ติดต่อที่ อ.ราม ติวารี โทร.081-610-1276

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว