ศิลปินเด็กทั่วโลกส่งผลงาน “หลากสี ร้อยดินแดน” กว่า 1,700 ภาพ ร่วมแสดง “นิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติ ครั้งที่ 12” ครั้งแรกในไทย

กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
ศิลปินเด็กจาก 110 โรงเรียน ใน 34 ประเทศทั่วทุกทวีป ร่วมส่งผลงานศิลปะสร้างสรรค์กว่า 1,700 ภาพ จัดแสดงใน “นิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติ A World United through Art ครั้งที่ 12” ภายใต้หัวข้อ “หลากสี ร้อยดินแดน” (COLORS FROM MANY LANDS) ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ จัดแสดงที่ชั้น 4 หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ถนน ราชดำเนิน กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ - 3 พฤศจิกายน 2551 และที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 6 - 31 ตุลาคม 2551
ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน ทูตองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ประธานเปิดงานนิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติในครั้งนี้ กล่าวว่า “เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ แสดงออกถึงมุมมองในโลกของเขา ได้ถ่ายทอดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ผ่านงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ และด้วยความที่ศิลปะอยู่เหนือเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม งานศิลปะที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้จึงเป็นสาส์นสันติภาพที่เด็กทั่วโลกนำมามอบให้เพื่อนต่างแดน ด้วยความหวังว่าจะสามารถลดเส้นแบ่งทางสังคมในโลกของเรา และความตั้งใจในการรวมโลกให้มีแต่ ‘เรา’ เป็นหนึ่งเดียว ผ่านผลงานศิลปะที่มีความหมาย”
ดร. จุไรพร จินตกานนท์ คล้ายจำแลง ผู้อำนวยการมูลนิธิยุวพัฒน์ ให้รายละเอียดว่า “ภูมิใจมากที่ปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดนิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติ A World United through Art ครั้งที่ 12 โดยมีหัวข้อในการสร้างสรรค์งานศิลปะในปีนี้คือ ‘Colors from My Land’ และเมื่อนำมาจัดแสดงรวมกันในนิทรรศการครั้งนี้จึงเป็น ‘COLORS FROM MANY LANDS’ ซึ่งเด็กๆ จากทุกทวีปตอบรับอย่างดียิ่งโดยส่งผลงานมาร่วมมากกว่าทั้ง 11 ครั้งที่ผ่านมา”
รายละเอียดเกี่ยวกับผลงานที่นำมาจัดแสดงนั้น คุณจรินทร์ทิพย์ ชูหมื่นไวย ภัณฑารักษ์ ผู้รวบรวบผลงานศิลปะและวางรูปแบบการจัดนิทรรศการครั้งนี้ กล่าวว่า “ผลงานของเด็กอายุน้อยที่สุดในปีนี้คือ 3 ขวบ และมีผลงานทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่ม รวมถึงผลงานที่ใช้เทคนิคแปลกๆ อีกหลายแบบ ซึ่งล้วนมีความสวยงาม ใช้สีสันที่สดใสสะดุดตาด้วยทักษะและจินตนาการที่หลากหลาย เราได้รับรู้เรื่องราวหลายๆ อย่างจากงานศิลปะของเด็กๆ และภาพต่างๆ ที่ถ่ายทอดออกมานั้นทำให้เราจัดแบ่งการนำเสนอออกเป็น 4 กลุ่ม คือ My Land, My People, My Festival และ My Animal”
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ประหยัด พงษ์ดำ ศิลปินแห่งชาติ และประธานกรรมการตัดสินศิลปกรรมยุวพัฒน์ กล่าวถึงความประทับใจในงานว่า “นับเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์จากเด็กๆ ทั่วโลกมารวมกันอยู่ที่นี่ ผลงานของเด็กถือเป็นงานที่บริสุทธิ์มาก เด็กมีความรู้สึกอย่างไรเขาก็จะตั้งใจถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานศิลปะที่สวยงาม ซึ่งผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นเด็กไทยหรือเด็กต่างชาติ สิ่งที่เหมือนกันก็คือความบริสุทธิ์ของเด็กๆ”
“ศิลปะมีส่วนสำคัญในการปลูกฝังสิ่งดีๆ ในจิตใจเด็ก ถ้าผู้ใหญ่ไม่เข้าไปยุ่งกับเขา เขาจะได้แสดงความสามารถและความเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ มีอิสระในการแสดงออกทางความคิดและจินตนาการต่างๆ ทำให้เขามีความภาคภูมิใจในผลงานของเขา โดยไม่คิดที่จะลอกเลียนแบบใคร มีความซื่อสัตย์ต่อตัวเองซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการเติบโตเป็นคนดี นอกจากนี้ ในการวาดรูปหรือสร้างสรรค์ผลงานศิลปะยังช่วยฝึกสมาธิและความอดทนด้วย ต้องมีวิริยะอุตสาหะจึงจะทำให้งานเสร็จ และช่วยกล่อมเกลาให้มีความสุนทรีย์ในจิตใจ ชอบความสวยงาม”
“คนเราไม่ว่าชาติไหนภาษาไหนก็สื่อสารกันได้ด้วยศิลปะ เพราะเป็นภาษาสากลเหมือนดนตรีที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกได้ดี เวลาเราเศร้าก็เศร้าเหมือนกัน หรือจะสุขสนุกสนาน ก็เป็นความรู้สึกแบบเดียวกันทั้งโลก ไม่ใช่คนชาตินี้จะรู้สึกสุขแตกต่างจากคนอีกชาติหนึ่ง เมื่อถ่ายทอดเป็นงานศิลปะจึงสื่อถึงอารมณ์ให้เรารู้สึกได้ตรงกัน”
อาจารย์ ปัญญา วิจินธนสาร คณบดี คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และกรรมการตัดสินศิลปกรรมยุวพัฒน์ กล่าวว่า “นับเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งสำหรับเด็กไทยที่จะได้เรียนรู้ว่าเด็กชาติอื่นเขาคิดอะไรผ่านทางผลงานศิลปะที่แต่ละภาพนั้นสะท้อนถึงความแตกต่างของแต่ละสังคมในโลกของเรา ถ้าให้เปรียบเทียบผลงานของเด็กไทยกับต่างชาติ จะเห็นว่าเด็กไทยได้รับการฝึกทักษะมาอย่างสูง มีความละเมียดละไม มีสาระ ลักษณะงานของเด็กไทย ญี่ปุ่น จีน จะใกล้เคียงกันคือชอบเขียนรายละเอียดตั้งแต่ส่วนใหญ่ไปจนถึงส่วนย่อย ภาพจึงเล่าเรื่องบอกเนื้อหาได้ดี ขณะที่เด็กๆ จากซีกโลกตะวันตกส่วนใหญ่จะชอบเขียนภาพแบบอิสรเสรีตามที่เขาอยากแสดงออก เน้นจินตนาการมากกว่าความคิด ประเทศในโลกตะวันตกให้ความสำคัญกับศิลปะอย่างมาก ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องเรียนรู้ในเบื้องต้น แต่เด็กทุกชาติทุกภาษาก็สนใจในเรื่องวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต และสัตว์ต่างๆ เหมือนกัน ถ้ามาชมนิทรรศการนี้จะได้เรียนรู้ว่าบ้านเมืองเขามีอะไร เป็นอย่างไร คล้ายหรือต่างจากเราอย่างไร ซึ่งน่าสนใจมาก”
“ศิลปะเป็น 1 ใน 10 ศาสตร์ที่สร้างให้มนุษย์ฉลาดได้ ช่วยปรับสมดุลในการใช้สมองทั้ง 2 ซีก และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาความคิดและจิตใจด้วย ในต่างประเทศเน้นให้ใช้ศิลปะในการดำเนินชีวิต ปัจจุบันเด็กไทยมีโอกาสเรียนรู้ศิลปะมากกว่าสมัยก่อน ทั้งในหลักสูตรและโรงเรียนสอนพิเศษมากมาย และน่าดีใจที่มีเด็กสนใจศิลปะกันมากขึ้น แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้ฝึกอย่างต่อเนื่อง มักขาดช่วงตอนมัธยมที่มุ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัย”
หลังจากที่ได้รับรู้ความรู้สึกดีๆ ที่ผู้ใหญ่ร่วมกันทำเพื่อเด็กๆ แล้ว เราลองมารับรู้ความรู้สึกของน้องๆ เยาวชนที่ได้รับรางวัล “ศิลปกรรมยุวพัฒน์” กันบ้าง ซึ่งผลงานจากศิลปกรรมยุวพัฒน์ได้ร่วมจัดแสดงในนิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติ (A World United through Art) เป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา สำหรับครั้งนี้นำมาจัดแสดงที่ชั้น 5 หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าฯ ร่วมกับผลงานของเด็กด้อยโอกาสจากโครงการ “ศิลปะอิ่มเอม” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มูลนิธิยุวพัฒน์ริเริ่มขึ้น เพื่อใช้ศิลปะเป็นสื่อให้เด็กด้อยโอกาสสามารถสร้างความสุขและความอิ่มเอมใจ ซึ่งนอกจากจะได้รับความพึงพอใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแล้ว ยังช่วยด้านการพัฒนาทางสังคมและจิตใจ ขยายกรอบการเรียนรู้ และการเชื่อมสัมพันธภาพที่ดีกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
น้องนนท์ ด.ช.ณัฐนนท์ กู้เกียรติกาญจน์ อายุ 8 ปี จากโรงเรียน กรุงเทพพิทยา เจ้าของรางวัลชมเชย ป.1 - ป.3 บอกว่า “ผมวาดรูปคนเล่นว่าวส่งเข้าประกวดครับ เพราะว่าวเป็นการละเล่นที่ผมชอบและคิดว่าเป็นเอกลักษณ์ไทย ผมใช้เวลาในการวาดแค่ 1 วันเองครับ วาดไม่ยาก เพราะผมชอบวาดรูป การวาดรูปช่วยให้มีสมาธิ เรียนเก่ง และจะมีความจำที่ดีขึ้นครับ ส่วนผลงานของเพื่อนๆ ต่างประเทศเห็นแล้วก็รู้สึกทึ่งครับ เพราะแต่ละคนมีฝีมือวาดออกมาสวยๆ กันทั้งนั้น ภาพที่ผมชอบที่สุดคือภาพวาดจิงโจ้ จากออสเตรเลีย แปลกตาดี ชอบการใช้สีของเขาด้วยครับ ผมอยากเชิญชวนให้เพื่อนๆ ทุกคน ใช้เวลาว่างมาวาดรูปกันครับดีกว่าที่จะไปเล่นเกม เสียเงิน เสียเวลา และยังไม่มีประโยชน์ด้วยครับ”
น้องข้าวโพด-ธัฐธิชา น้อยวัฒนะ อายุ 10 ปี จากโรงเรียนวัดช่างเหล็ก รางวัลชมเชย ป.4-ป.6 “หนูเริ่มวาดรูปมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบค่ะ คุณครูสอนให้วาด แล้วหนูก็วาดมาเรื่อยๆ สำหรับรูปที่ส่งเข้าประกวดหนูวาดรูปคนตากปลาแห้งค่ะ เพราะอยากให้ทุกคนรู้จักการถนอมอาหารไว้กินในยามที่เดือดร้อน หนูดีใจมากค่ะที่ได้รับรางวัลจากการประกวด “ศิลปกรรมยุวพัฒน์” ทำให้มีกำลังใจในการวาดรูปมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจด้วยค่ะ สำหรับผลงานของเพื่อนๆ ต่างชาติที่หนูชอบมากที่สุดคือภาพการแสดงพื้นบ้านของประเทศเปอร์โตริโก เป็นภาพวาดที่ใช้สีสันสวยงาม ที่สำคัญเรายังได้เห็นประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเขาด้วยค่ะ”
น้องมิ้น-ด.ญ.รฤก บัวราช อายุ 15 ปี รางวัลชมเชย ม.1 - ม.3 เล่าว่า “หนูวาดรูปกระทงสายส่งเข้าประกวด เพราะคิดว่าประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งเราคนรุ่นหลังควรช่วยกันอนุรักษ์ไว้ วาดค่อนข้างยาก เพราะการลงสี ลงเส้น จะต้องใช้ความละเอียดมาก สีที่ใช้ก็ต้องให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด สำหรับผลงานของเพื่อนๆ จากต่างประเทศ ภาพวาดแต่ละภาพแสดงให้เห็นถึงศิลปะ วัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ซึ่งทุกภาพที่แสดงต่างก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป เพื่อนๆ ที่มีเวลาว่างในช่วงปิดเทอมนี้ อย่าลืมชวนคุณพ่อคุณแม่มาชมนิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติ ผลงานของศิลปกรรมยุวพัฒน์และศิลปะอิ่มเอมกันนะคะ”
และที่พากันมาชมนิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติฯ กันทั้งครอบครัวก็มีด้วยเช่นกัน คุณแม่ ปริมา และ น้องเฟิร์น-ด.ญ.ธมนวรรณ สุวรรณนิกรกุล มาพร้อมกับคุณตาและคุณยาย คุณแม่เล่าว่า “วันนี้พาน้องเฟิร์นมาดูงานศิลปะกับคุณตาและคุณยาย เพราะน้องเฟิร์นเป็นเด็กที่ชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ เวลาอยู่บ้านว่างๆ เขาจะต้องหยิบสมุดกับดินสอขึ้นมาวาดรูป ครอบครัวของเราส่งเสริมในสิ่งที่ลูกชอบ เพราะคิดว่าการวาดรูปจะทำให้เด็กมีสมาธิ มีความจำ ใจเย็นขึ้น เพราะน้องเขาค่อนข้างจะเป็นเด็กใจร้อน และอยากให้เขามีแรงบันดาลใจในการวาดรูป วันนี้เขาดูตื่นเต้นมากที่ได้เห็นผลงานของเพื่อนๆ จากประเทศต่างๆ”
คุณวิบูลย์ ลีรัตนขจร พร้อมด้วยน้องกิ๊กกี้-กัณติกา อายุ 6 ปี และน้องกีกิ-สุภชา อายุ 4 ปี เล่าว่า “ผมพาลูกๆ มาดู เพราะน้องทั้ง 2 คน ชอบวาดรูปมากครับ เราจึงอยากส่งเสริมลูกในด้านนี้ ผมคิดว่าศิลปะคือแหล่งการเรียนรู้ เพราะผลงานศิลปะต่างๆ เกิดจากสิ่งที่ได้รู้ได้เห็นจากประสบการณ์ของเรา และผ่านกระบวนการความคิด จินตนาการต่างๆ ถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลปะ นอกจากนี้ การวาดรูปยังทำให้มีสมาธิ รู้จักควบคุมอารมณ์ มีความอดทน และมีความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย การได้มาชมภาพศิลปะในงานนี้ได้ประโยชน์มากๆ ครับ ทำให้ลูกๆ ได้เห็นถึง
วัฒนธรรมที่หลากหลายของแต่ละประเทศ และได้ชมผลงานของเด็กๆ อายุน้อยๆ ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างน่าทึ่งมากๆ ครับ ทั้งการลงสี ลายเส้น และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งผลงานที่ผมประทับใจมากๆ คือ ผลงานศิลปะจากสาธารณรัฐเชค เป็นลายกราฟฟิกที่ยอดเยี่ยม แสดงให้เห็นว่าถึงวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ดูมีพลัง และแปลกตามากครับ”
ส.ต.ท. อภิชาติ สมสันต์ จากสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง หนึ่งในนักเรียนทุนยุวพัฒน์ ที่มาช่วยดูแลการจราจรในช่วงพิธีเปิดงาน ถือโอกาสพาครอบครัวมาเที่ยมชมงานศิลปะในครั้งนี้ด้วย โดยเล่าว่า “ผมเป็นนักเรียนทุนของมูลนิธิยุวพัฒน์ครับ หลังจากเรียนจบ ม.3 ที่หนองบัวลำภู ก็ขอทุนจากมูลนิธิฯ เพื่อไปเข้าโรงเรียนตำรวจที่หนองคาย เมื่อเรียนจบผมก็ไม่มีโอกาสติดต่อมาที่มูลนิธิฯ เลย จนได้ทราบข่าวที่มูลนิธิฯ เป็นเจ้าภาพจัดนิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพื้นที่ สน. นางเลิ้ง จึงติดต่อไปว่ามีอะไรให้ผมช่วยเหลือได้บ้าง เพราะมูลนิธิยุวพัฒน์ให้อะไรกับผมมากมายครับ ทำให้ผมได้เรียนต่อและ ได้มีวันนี้ ดังนั้นถ้าผมสามารถช่วยอะไรได้ ผมก็จะขอช่วยเต็มที่ครับ
สำหรับงานนิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติในครั้งนี้ ผมประทับใจมากครับ ผลงานแต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่มีฝีมือ ทำให้ผมคิดถึงตอนเด็กๆ ผมชอบวาดรูปมากครับ เคยส่งผลงานไปประกวดที่ญี่ปุ่นและได้รับรางวัลด้วย ภูมิใจมากครับ เด็กๆ ที่มีโอกาสได้แสดงผลงานในครั้งนี้ก็คงมีความรู้สึกภาคภูมิใจเช่นเดียวกัน”
การพบเห็นสิ่งใหม่ๆ เรื่องราวใหม่ๆ เกี่ยวกับประเทศใหม่ๆ และเพื่อนใหม่ ที่ถึงแม้ว่าจะไม่เคยได้พบเจอกันจริงๆ แต่ก็สามารถสื่อสารเข้าใจกันได้จากภาพวาด จากงานศิลปะ ที่ทำให้เด็กๆ ทั่วโลกเข้ากันได้อย่างกลมกลืน เหมือนคำกล่าวที่ว่า “โลกหนึ่งใบ ร้อยใจด้วยศิลป์”
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร. 0 2158 9416 — 8 (อัญชลี เชื้อน้อย, สุขกมล งามสม)