บลจ.เอ็มเอฟซี เซ็นเอ็มโอยู กับ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย และ สมาคมยางพาราไทย เตรียมศึกษาการจัดตั้งกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ในไทยกองแรก

พฤหัส ๓๐ ตุลาคม ๒๐๐๘ ๑๖:๑๘
บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) และสมาคมยางพาราไทย ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมจัดตั้งกองทุนที่จะเน้นลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยเป็นหลัก ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้

สำหรับบันทึกความเข้าใจ ได้ระบุบทบาทของเอ็มเอฟซีในการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุน และดำเนินการจัดตั้งกองทุน ส่วน AFET เป็นผู้ให้ความร่วมมือและจัดเตรียมข้อมูลของสัญญาซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ที่กองทุนจะลงทุน โดยในเบื้องต้นเน้นตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าในประเทศเป็นหลัก สำหรับสมาคมยางพาราไทยจะเป็นผู้ให้ความร่วมมือและจัดเตรียมข้อมูลด้านสินค้ายางพาราซึ่งเป็นสินค้าอ้างอิงเป้าหมายหนึ่งของกองทุนที่จะจัดตั้ง และร่วมประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการยางพาราเข้าร่วมลงทุนในกองทุน

ดร. พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สินค้าโภคภัณฑ์ นับเป็นสินค้าที่น่าสนใจลงทุน โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า(ก.ส.ล.) อยู่ระหว่างการศึกษาและกำหนดรูปแบบกองทุนที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม เอ็มเอฟซีได้เตรียมความพร้อมสำหรับการศึกษาเรื่องการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์เช่นกัน จึงได้ร่วมมือกับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย และสมาคมยางพาราไทย เตรียมดำเนินการจัดตั้งกองทุนเปิดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยมีรูปแบบกองทุนในเบื้องต้น คือมีอายุกองทุน 10 ปี มูลค่าโครงการเริ่มแรกประมาณ 50 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะขยายกองทุนต่อไปในอนาคตให้ได้ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการระดมเงินทุนจากกลุ่มผู้ลงทุนสถาบันในเบื้องต้นก่อน และเมื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์เป็นที่รู้จักกว้างขวางแล้ว จึงจะขยายการลงทุนไปยังนักลงทุนรายย่อยต่อไป โดยกองทุนดังกล่าวจะมีวัตถุประสงค์หลักที่จะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทำการซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าในประเทศเป็นหลัก

ดร. นิทัศน์ ภัทรโยธิน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าประเทศไทย (เอเฟท) กล่าวว่า จากภาวะการซื้อขายในเอเฟทที่ผ่านมาปริมาณการซื้อขายได้ปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางของสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสินค้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 และข้าวขาว 5% ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการส่งออกของโลก สินค้าทั้งสองชนิด เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้ในการอุปโภคและบริโภคเป็นพื้นฐาน ถึงแม้ว่าจะมีวิกฤตทางการเงินโลกในขณะนี้จะสังเกตว่าราคาของสินค้าทั้งสองชนิด ได้รับผลกระทบในทิศทางที่ลดลงและมีความผันผวนมากกว่าในอดีตหลายเท่า แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากที่ระดับราคาจะกลับไปอยู่ในระดับต่ำเช่นในอดีต ดังนั้นการที่บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ได้มีการจัดตั้งกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ขึ้นจึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสของการลงทุนที่นักลงทุนสามารถแสวงหาผลตอบแทนที่สูงจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยที่มีผู้บริหารการลงทุนแบบมืออาชีพ

นายหลักชัย กิตติพล นายกสมาคมยางพาราไทย กล่าวว่า สินค้ายางพาราเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักทางด้านการค้าและการส่งออกของประเทศอีกทั้งประเทศไทยถือเป็นผู้ส่งออกอันดับหนึ่งและยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนในการเพิ่มพื้นที่การเพาะปลูก เพิ่มอุปทาน เพื่อที่จะสามารถรองรับอุปสงค์ในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีการชะลอตัวของคำสั่งซื้อจากต่างประเทศบ้าง แต่อย่างไรก็ตามปริมาณอุปสงค์ยังคงมีสูงอยู่ สำหรับทางด้านราคายางพารา ถึงแม้ว่าจะมีความผันผวนแต่คาดว่าจะมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น เมื่อสถานการณ์ด้านการเงินโลกมีการคลี่คลายลง ดังนั้น การที่ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด(มหาชน) มีความคิดที่จะจัดตั้งกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์กองแรกที่ลงทุนภายในประเทศ ซึ่งจะมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 ในเอเฟทด้วยแล้วนั้น จึงนับว่ามีความเหมาะสมและมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงได้ในอนาคต

อนึ่ง กองทุนเปิดสินค้าโภคภัณฑ์ในเบื้องต้น คาดว่าจะระดมทุนจากกลุ่มผู้ลงทุนกลุ่มแรก ได้แก่ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) บริษัทสมาชิกของสมาคมยางพาราไทย โดยตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) และบริษัทสมาชิกสมาคมยางพาราไทย จะร่วมลงทุนเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไป นับจากวันที่เริ่มลงทุน โดยสัดส่วนที่เหลือจะเปิดให้กลุ่มนักลงทุนสถาบันอื่นๆ ร่วมลงทุน ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนแผนการระดมทุนเพิ่มเติมตามความเหมาะสมต่อไป

ดร.พิชิต กล่าวเสริมว่า ภายหลังการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ เอ็มเอฟซีจะทำการศึกษารายละเอียดเพื่อจัดตั้งกองทุนเปิดสินค้าโภคภัณฑ์ฯ ต่อไป ทั้งนี้ กองทุนเปิดสินค้าโภคภัณฑ์ น่าจะมีโอกาสเติบโตได้ดีในอนาคต โดยนับเป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุน ที่เพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนอีกด้วย

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน):

คุณสุทรรศิกา คูรัตน์, คุณสุวรรณา ชีวนันทชัย โทร.0-2649-2230, 0-2649-2232

เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์:

คุณศริญญา แสนมีมา, คุณตรึงฤทัย สันโดษ โทร.0-2204-8218, 0-2204-8078

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง