แถลงข่าวกระทรวงการคลัง ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 15

พุธ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๐๐๘ ๑๔:๐๙
นายอรรคศิริ บุรณศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะผู?แทนไทยในการประชุมรัฐมนตรีว?าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 15 (The 15th APEC Finance Ministers’ Meeting) เป?ดเผยถึงผลการประชุม ระหว?างวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2551 ณ เมือง Trujillo สาธารณรัฐเปรู โดยมีนาย Luis Miguel Valdivieso Montano รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง สาธารณรัฐเปรูเป?นประธาน โดยมีผลการประชุมสรุปได้ดังนี้

ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับประเด็นด้านเศรษฐกิจที่สำคัญในปัจจุบัน อันได้แก่ วิกฤตการเงินโลก โดยที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาวิกฤตการเงิน เน้นถึงปัญหาของกรอบของกฎระเบียบและการกำกับดูแล และการให้ความสำคัญแก่ความร่วมมือทางด้านการเงินในภูมิภาค (Regional Financial Arrangement) โดยหลายประเทศได้ยกตัวอย่างความร่วมมือในกรอบ ASEAN+3 ซึ่งได้แก่ มาตรการริเริ่มเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative: CMI) และ มาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Markets Initiative: ABMI) ซึ่งจะมีส่วนเสริม

ความช่วยเหลือด้านการเงินที่ได้รับจากองค์กรระหว่างประเทศ และที่ประชุมยืนยันในการที่จะร่วมมือและดำเนินการอย่างสอดคล้องในแนวทางเดียวกัน นอกจากนั้น ยังมีประเด็นเรื่องปัญหาราคาอาหารและสินค้า ที่ประชุมได้หารือถึงปัญหาราคาสินค้าที่มีความผันผวน และสนับสนุน

การดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวของ UN ธนาคารโลก และธนาคารพัฒนาเอเชีย

สำหรับหัวข?อหลักของการประชุม ในป?นี้ ประกอบด?วย 2 หัวข?อ ได?แก?

(1) การพัฒนาคุณภาพของการใช้จ่ายภาครัฐ (Improving the quality of public expenditure) ที่ประชุมได้หารือถึงการจัดการเกี่ยวกับปัญหาความเสี่ยงด้านการคลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปัจจุบัน และเน้นให้ความสำคัญต่อในประเด็นการจัดทำงบประมาณโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Result-Based Budgeting: RBB) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้จ่ายภาครัฐ โดยให้มีการเชื่อมโยงกันระหว่างงบประมาณจากรัฐบาลส่วนกลางและผลลัพธ์ที่เกิดจากการลงทุนดังกล่าว ในการนี้ ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ และการนำเกณฑ์มาตรฐานของผลงานมาใช้ในกระบวนการจัดทำงบประมาณ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการมีเป้าหมายต่อการใช้จ่ายภาครัฐที่ชัดเจน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการนำไปสู่การกระจายและจัดสรรงบประมาณที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

(2) การปรับโครงสร้างตลาดทุน (Reforming capital markets) ที่ประชุมได้หารือว่าการปรับโครงสร้างตลาดทุน ต้องคำนึงถึงสถานการณ์วิกฤตการเงินในปัจจุบันด้วย ซึ่งต้องมีส่วนประกอบสำคัญที่ต้องมีประสิทธิภาพ เช่น นโยบายเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายภาษี กรอบกฎหมายและกฎระเบียบ โครงสร้างพื้นฐานของตลาด ตลอดจนสนับสนุนการขยายและกระจายฐานนักลงทุน นอกจากนี้ การสนับสนุนด้านการเงินจากภาคเอกชนก็สามารถมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาตลาดทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของตลาดการเงิน โดยการเพิ่มปริมาณสินทรัพย์ระยะยาวให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าการนำระบบ Public-private partnerships (PPPs) มาใช้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเขตเศรษฐกิจที่มีความต้องการการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยจะช่วยลดภาระการคลังภาครัฐและช่วยพัฒนาตลาดทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน