ผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3

จันทร์ ๐๘ ธันวาคม ๒๐๐๘ ๐๙:๔๗
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้เปิดเผยถึงผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลัง และธนาคารกลางอาเซียน+3 (ASEAN+3 Finance and Central Bank Deputies’ Meeting) ระหว่างวันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2551 ณ เมือง Hakone ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังประเทศญี่ปุ่น และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยสรุปสาระสำคัญของการประชุมได้ ดังนี้

1) การประเมินภาวะเศรษฐกิจ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจโลกและภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคจากผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชียและผู้แทนกองทุนการเงินระหว่างประเทศโดยทั้งสองสถาบันได้ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกจะยังอยู่ในภาวะถดถอยจากผลกระทบจากวิกฤติ Sub-prime ต่อเนื่องต่อไปจนถึงไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 และเศรษฐกิจจะค่อยเริ่มฟื้นตัวขึ้นในปลายปี 2552 ซึ่งจะทำให้ประเทศต่างๆ ต้องเผชิญกับปัญหาการว่างงานและปัญหาการล้มละลายของธุรกิจจำนวนมาก จึงจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องออกมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบทางสังคมอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ระบบเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะยังคงขยายตัวได้ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ประเทศสมาชิกต่างๆ ได้นำเสนอรายงานภาวะเศรษฐกิจแต่ละประเทศ ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้นำเสนอรายงานภาวะเศรษฐกิจของไทย โดยคาดว่าจะสามารถขยายตัวได้แต่จะอยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าในปีปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจผ่านการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากประเทศสมาชิกหลายประเทศ

2) การจัดทำความร่วมมือทางการเงินระหว่างประเทศเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการเร่งรัดการทำกลไกสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจของภูมิภาคภายใต้มาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี (Chiangmai Initiative Multilateralisation: CMI) โดยกำหนดให้คณะทำงานตกลงกันในประเด็นต่างๆ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2552 และนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 ในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้มีการขยายวงเงินภายใต้กรอบดังกล่าวจากแปดหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นหนึ่งแสนสองหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อรองรับความต้องการในการใช้เงินจากกลไกดังกล่าวในการแก้ปัญหาการขาดแคลนเงินสำรองระหว่างประเทศในระยะสั้นที่อาจเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาข้อเสนอของประเทศไทยและประเทศฟิลิปปินส์ในการจัดตั้งกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกใหม่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเศรษฐกิจของภูมิภาคในระยะยาว โดยที่ประชุมเห็นว่า แนวทางต่างๆ ที่นำเสนอเป็นแนวทางที่ดีและเป็นแนวความคิดใหม่ จึงเห็นควรให้มีการศึกษาในรายละเอียดต่อไป

3.) มาตรการริเริ่มการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Market Initiative-ABMI) ที่ประชุมรับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานของคณะทำงานต่างๆ ภายใต้กรอบ ABMI และเห็นว่าควรมีการเร่งรัดการดำเนินงานและจัดลำดับความสำคัญของงานในแต่ละด้านให้ชัดเจน โดยในระยะต่อไปควรหารือในเรื่องการจัดตั้งกลไกการค้ำประกันเครดิตของภูมิภาคให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า สำหรับการประชุมครั้งต่อไป จะกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน 2552 ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยมีประเทศไทยและประเทศสาธารณรัฐเกาหลีจะเป็นประธานร่วมในการประชุม

สำนักนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. (02) 273-9020 ต่อ 3669

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน