SPPT เตรียมทบทวนแผนธุรกิจปีหน้า เพื่อรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก

พฤหัส ๑๑ ธันวาคม ๒๐๐๘ ๐๘:๐๑
"ประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์" ประเมินแนวโน้มของ SPPT ในปี 2552 จะได้รับผลดีจากราคาวัตถุดิบ ประเภทโลหะได้ปรับลดลงมาก ช่วยลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น แต่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันอาจจะชะลอแผนลงทุนด้านเครื่องจักรสำหรับธุรกิจ HDD อย่างไรก็ตามช่วยให้บริษัทฯ มีกระแสเงินสดมากขึ้นและทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำลงกว่าปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 0.6:1 เท่า

นายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT เปิดเผยว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างการทบทวนแผนการดำเนินและประมาณการผลประกอบการในปี 2552 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานะการณ์ของเศรษฐกิจโลก โดยผลดีที่บริษัทได้รับคือราคาวัตถุดิบ ประเภทโลหะ ได้ปรับลดลงมาก และการปรับปรุงระบบการผลิตให้ดีขึ้น เพื่อช่วยในการปรับลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น โดยบริษัทสามารถผลิตได้มากขึ้นในขณะที่จำนวนเครื่องจักรเท่าเดิม เพื่อรองรับการต่อรองราคาของลูกค้าซึ่งคาดว่าคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ในด้านการลงทุนทางด้านเครื่องจักรสำหรับธุรกิจ HARD DISK DRIVE ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีการลงทุนเพิ่มทุกปีคาดว่าอาจจะต้องชะลอไปก่อน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีกระแสเงินสดเพิ่มมากขึ้น และจะทำให้ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ 0.6 :1 ต่ำลงกว่าเดิม ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายเศรษกิจพอเพียงที่บริษัทดำเนินการมาตลอดระยะเวลา 11 ปีนับจากก่อตั้งบริษัท คือการขยายกิจการจากเงินทุนและผลกำไรของบริษัท และทำการกู้ยืมเท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เป็นภาระมากเกินไปในเรื่องค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย โดยยังสามารถรักษานโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอให้แก่ผู้ถือหุ้น

เขาได้กล่าวถึงธุรกิจแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมัน ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ อีเนอยี่ แอนด์ เอ็นไวรอนเม้นท์ จำกัด( SPEE) ว่าขณะนี้ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรเครื่องแรกที่ เทศบาลเมืองระยองใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และจะดำเนินการส่งมอบงานและเริ่มผลิตได้ในปีนี้ จะส่งผลให้ SPEE จะมีรายได้ในปีนี้ที่ประมาณ 40 ล้านบาท และ บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พารท์( ประเทศไทย) จะรับรู้กำไรส่วนหนึ่งจากโครงการนี้ด้วย

นอกจากนี้ SPEE ยังได้เซ็นสัญญาขายเครื่องจักรแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันให้กับ เทศบาลหัวหิน จำนวน 1 เครื่อง มูลค่าโครงการประมาณ 55 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้มีกำหนดเสร็จสิ้นภายในประมาณ มิถุนายน 2552 ตามที่ระบุในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง จะส่งผลให้ SPEE มีเครื่องจักรที่สามารถดำเนินการ เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม และยังสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน และยังเป็นเครื่องจักรที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มาศึกษาและเยี่ยมชมนวัตกรรมใหม่ในการแก้ปัญหาขยะล้นเมือง และสถานที่ฝังกลบในสองภาคของประเทศโดย ภาคตะวันออกที่ จังหวัดระยอง และภาคใต้ตอนบนที่ อ. หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยบริษัทจะพยายามในการจัดทำโครงการเพื่อนำเสนอให้ครอบคลุม ภาคใต้ตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง อีก 4 จุด ตามแผนงานเบื้องต้นที่ได้จัดทำใว้ให้บรรลุเป้าหมายในปี 2552 นี้ ซึ่งจะทำให้ SPEE มีรายได้ทั้งหมดประมาณ 250 ล้านบาทในปี 2552 และจะเป็นผลดีต่อ บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พารท์( ประเทศไทย) ที่จะรับรู้รายได้ และผลกำไรด้วยส่วนหนึ่ง

รายละเอียดเพิ่มเติม : บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(SPPT)

บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(SPPT) กลุ่มบริษัทประกอบด้วยบริษัทย่อย 2 บริษัท คือ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ เมดิคอล พาร์ท จำกัด (“SPMP”) ถือหุ้นโดยบริษัทร้อยละ 49.99 ดำเนินธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Grade) และบริษัท ซิงเกิ้ลพอยท์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ เอ็นไวรอนเม้นท์ จำกัด (“SPEE”) ถือหุ้นโดยบริษัทร้อยละ 49.99 ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนโดยการจำหน่าย ประกอบและติดตั้งเครื่องจักรแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ และจำหน่ายสารเร่งปฏิกริยาในการแปรรูปเศษพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ

ลักษณะผลิตภัณฑ์ของบริษัทแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้

1. ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (Hard Disk Drive)

1.1 ชิ้นส่วนสำหรับนำไปประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ Pivot ซึ่งเป็นตัวยึดแขนอ่าน

1.2 ชิ้นส่วนสำหรับนำไปประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ Spindle Motor ซึ่งใช้ในการขับเคลื่อนแผ่นจานเก็บข้อมูล

2. ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (Non Hard Disk Drive)

2.1 ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มคอนซูมเมอร์ อิเล็คโทรนิค และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Consumer Electronic &Entertainment) เช่น ชิ้นส่วนสำหรับกล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวีดิโอ เอมพี 3 เครื่องเล่นเกมส์

2.2 ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนสำหรับรถจักรยานยนต์

3. ชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท SPMP โดยได้ดำเนินการจดสิทธิบัตรของผลิตภัณฑ์วาล์วพลาสติกที่ประเทศญี่ปุ่นสำหรับอุปกรณ์การไหลเวียนของเหลวซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถให้ยาแก่ผู้ป่วยที่มีการต่อสายยางจากร่างกายโดยไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา

4. เครื่องจักรแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท SPEE ทั้งนี้ SPEE จะนำเข้าเครื่องจักรแปรรูปขยะเป็นน้ำมันดิบจากต่างประเทศมาขายและติดตั้งให้กับลูกค้า และมีการบริการต่อเนื่องในการขายเครื่องจักรดังกล่าว คือ การขายตัวเร่งปฏิกิริยาในการสลายพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ (Catalyst), การให้บริการในการดูแลรักษาเครื่องจักร (Maintenance) และการบริการขนส่งน้ำมันดิบที่ได้จากขยะไปยังโรงกลั่นน้ำมัน (Logistic)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) 02-554-9396 , 085-133-0184

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ พ.ค. สุรีย์พร คลินิก เปิดตัวตึกสูงที่สุดแห่งวงการคลินิกสถาบันเสริมความงาม ฉลอง 20 ปีความสำเร็จพร้อมยกระดับชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Volformer
๑๗ พ.ค. ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
๑๗ พ.ค. บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) แนะนำ ชุดล็อคประตูกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า จากแบรนด์ HIP
๑๗ พ.ค. ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหกรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
๑๗ พ.ค. ไทยพาณิชย์ปักหมุดผู้นำดิจิทัลแบงก์ นำ AI เสริมแกร่ง 360 องศา เปิด 3 นวัตกรรม AI ครั้งแรก! สร้างปรากฏการณ์ใหม่กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และ Digital
๑๗ พ.ค. หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม
๑๗ พ.ค. DDD โชว์งบ Q1/67 กวาดกำไรทะยาน 317% YoY พร้อมลุยขยายตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ อัพผลงานปีนี้โตสวย
๑๗ พ.ค. PCC เปิดงบ Q1/67 รายได้โต 14.25% ยอดขายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า - อุปกรณ์ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10%
๑๗ พ.ค. บางจากฯ สานต่อพันธกิจสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเป็นมิตรต่อโลก ร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง Olympic Day 2024 Together, For A Better
๑๗ พ.ค. บัตรเครดิต ttb ช้อปคุ้ม อิ่มครบ ได้มากกว่า รับ Magic Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 5