เอกชนเสนอบีโอไอเป็นหน่วยงานหลักจัดทำแผนรองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินที่ส่งผลให้ระบบขนส่งต้องหยุดชะงัก

ศุกร์ ๑๒ ธันวาคม ๒๐๐๘ ๑๖:๓๖
สมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ แนะรัฐจัดทำแผนรองรับกรณีเกิดปัญหาระบบขนส่งของประเทศหยุดชะงัก พร้อมจัดกิจกรรมสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศ บีโอไอเตรียมเสนอเรื่องเข้าบอร์ดพิจารณาต้นปีหน้า

นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยภายหลังดร. สัมพันธ์ ศิลปนาฎ ประธานสมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ นำสมาชิก 10 บริษัท เข้าพบเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า สมาคมฯได้หารือขอให้บีโอไอเป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านระบบการขนส่ง เพื่อจัดทำแผนรองรับ( Business Continuity Plan หรือ BCP ) กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรือภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อระบบขนส่งของประเทศ และทำให้การดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนหยุดชะงัก

สมาคมฯยังได้เสนอขอให้บีโอไอจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนเช่น การประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของภาคธุรกิจเอกชน ( CEO FORUM ) และจัดให้มีมาตรการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งบีโอไอ จะพิจารณาหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ปิดสนามบิน โดยมูลค่าความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น สมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ จะรวบรวมตัวเลขจากสมาชิกมานำเสนอบีโอไอภายในสัปดาห์หน้านี้

“ แผนรองรับกรณีฉุกเฉิน หรือ BCP ตามที่สมาคม ฯ เสนอมานี้จะครอบคลุมถึงกรณีฉุกเฉินทุกกรณี ตั้งแต่ปัญหาภัยธรรมชาติ ตลอดจนเหตุการณ์อื่นๆที่จะส่งผลกระทบต่อระบบขนส่งสินค้าภายในประเทศทุกกรณี ไม่ได้เจาะจงเฉพาะเหตุการณ์ความไม่สงบเท่านั้น ซึ่งปัจจุบัน

ภาครัฐยังไม่เคยมีการจัดทำแผนรองรับในสถานการณ์นี้ คาดว่าหากแผนดังกล่าวเกิดขึ้นจริง จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการต่อระบบการขนส่งสินค้าในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งนี้สมาคม ฯ จะร่วมกับบีโอไอเตรียมร่างกรอบของแผนเพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนครั้งต่อไป” เลขาบีโอไอกล่าว

สำหรับสมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ มีสมาชิกจำนวน 56 บริษัท แต่ละปีมีมูลค่าการลงทุนของสมาชิกมากกว่า 30,000 ล้านบาท และมีมูลค่าการส่งออกปีละกว่า 700,000 ล้านบาท โดยผลจากการปิดสนามบินในช่วงที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายต่อทั้งบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไทย และบริษัทลูกค้าที่สั่งซื้อชิ้นส่วนจากประเทศไทย โดยบริษัทผู้ผลิตในไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าปรับจากการส่งมอบสินค้าล่าช้า ซึ่งบางรายถูกปรับเป็นเงินถึง 100,000 เหรียญสหรัฐต่อชั่วโมง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๓๕ SVT ออกบูธ งาน Franchise SME Expo 2024 ชูศักยภาพ 1 ในผู้นำธุรกิจ เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ
๑๗:๕๓ PLANET จับมือ Skydio โชว์ โดรนอัจฉริยะทางการทหาร
๑๗:๒๓ ลาซาด้า เปิด 'คัมภีร์ 4 คุ้ม' เอาใจนักช้อป ชี้เป้าที่สุดแห่งความคุ้มค่าใน '12.12' เซลใหญ่ ส่งท้ายปี'
๑๗:๐๙ เปรียบเทียบฟอกสีฟัน Zoom VS ฟอกสีฟัน Cool Light ต่างกันอย่างไร
๑๗:๓๐ เปิดเคล็ดลับการเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์
๑๗:๓๒ กทม. แนะวิธีใช้น้ำประปาช่วงน้ำทะเลหนุนสูง - น้ำเค็มรุกล้ำ ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ
๑๗:๒๐ กทม. เพิ่มมาตรการความปลอดภัยโครงการก่อสร้างทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง
๑๗:๓๑ เจมีไนน์ นรวิชญ์ ชวนแฟน ๆ ร่วมน็อคเอาท์คราบหนัก ในงาน บรีส ศึกสู้คราบหนัก Breeze Stains Fight x Gemini
๑๗:๓๕ การใช้บริการผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ยกระดับองค์กรได้อย่างไร ?
๑๗:๐๐ 6 เรื่องน่ารู้เพื่อการใช้นาฬิกาวิ่งอย่างคุ้มค่า อ่านเลย !