ตลาดโทรคมนาคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเริ่มฟื้นตัวในปี 2009

จันทร์ ๐๒ มีนาคม ๒๐๐๙ ๑๗:๓๔
แม้ว่าทั่วโลกกำลังประสบ ปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ IDC ยังเชื่อว่า ตลาดโทรคมนาคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออก - เฉียงใต้ (SEA) ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และ เวียดนามนั้น จะเริ่มฟื้นตัวในปี พ.ศ. 2552 ในขณะที่ผู้ประกอบการโทรคมนาคมกำลังให้ความสนใจ ลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และ ผู้ใช้งานจะดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษในเรื่องของ การใช้จ่ายงบประมาณสำหรับสินค้าและบริการ ซึ่งทำให้เกิดโอกาสในการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ ภายใต้ วิกฤตเศรษฐกิจนี้อีกด้วย

“วิกฤตทางเศรษฐกิจทั่วโลกในขณะนี้ได้ส่งผลต่อการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตของ IDC สำหรับ ตลาดโทรคมนาคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยภาวะถดถอยนี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ โทรคมนาคมและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม IDC ยังคงเห็นแสงสว่างของตลาด โทรคมนาคมในภูมิภาคนี้ ซึ่งจะสร้างโอกาสหรือรายได้ทั้งผู้ประกอบการในตลาดหรือผู้ใช้งานทั่วไป ในปี พ.ศ. 2552” กล่าวโดย นางสาวคาเรน รอนดอน ผู้จัดการฝ่ายวิจัยด้านโทรคมนาคม ประจำ IDC เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การคาดการณ์แนวโน้ม 10 อันดับ ที่สำคัญสำหรับธุรกิจโทรคมนาคมในภูมิภาคนี้เอเชียตะวันออก- เฉียงใต้ในปี พ.ศ. 2552 มีดังต่อไปนี้

1. ตลาดบริการโทรคมนาคมของภูมิภาคนี้จะยังคงมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2552

IDC คาดว่าตลาดบริการโทรคมนาคมของประเทศต่าง ๆ ได้แ่ก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และ ไทย รวมกันจะมีมูลค่าสูงถึง 35.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2552 โดยมี อัตราการเติบโตมากกว่าร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2551 ซึ่งครอบคลุมบริการ โทรคมนาคมประเภทต่าง ๆ ได้แก่ บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริการอินเตอร์เน็ต บริการสื่อสาร ข้อมูล และ บริการโทรศัพท์พื้นฐาน สำหรับประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และ ไทย คาดว่า จะมีอัตราการเติบโตในระดับปานกลางในช่วงระหว่างร้อยละ 4 ถึงร้อยละ 6 ในขณะที่ประเทศ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ทั้งสองประเทศนี้คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวในระดับตัวเลขสองหลัก และ เป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุด เนื่องจากประเทศทั้งสองนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการ ลงทุนด้านเทคโนโลยี และกำลังให้ความสำคัญด้านการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยี ของประชาชน

2. ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจะทบทวนแผนการดำเนินงานในช่วงเศรษฐกิจขาลง และ เตรียมความพร้อมสำหรับขาขึ้น

แม้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโทรคมนาคมของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ถือว่าเป็นผลกระทบที่น้อยเมื่อเทียบกับตลาดไอที IDC คาดว่าผู้ประกอบการธุรกิจโทรคมนาคม ของภูมิภาคนี้จะทบทวนแผนการดำเนินงานธุรกิจของตนเอง และพิจารณาแผนการลงทุนต่าง ๆ โดย เฉพาะในเรื่องของการทำกิจกรรมทางการตลาด และ การพัฒนาสินค้าหรือบริการ ผู้ให้บริการโทร- คมนาคมที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง จะให้ความสำคัญกับแผนการลงทุนที่เสริมประสิทธิภาพ ของโครงข่ายการติดต่อสื่อสารเป็นแกนหลักของตนเอง และพยายามที่จะแซงหน้าคู่แข่งของตนเอง ให้ไกลยิ่งขึ้นเมื่อภาวะเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง สำหรับธุรกิจที่ให้บริการโทรคมนาคมแต่ไม่ได้ มีเครือข่ายโทรคมนาคมเป็นของตนเอง ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้จะให้ความสนใจต่อการลงทุนที่ให้ ผลตอบแทนไว นอกจากนี้ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้จะเป็นโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ของผู้ให้ บริการโทรคมนาคมที่มีความพร้อมทั้งแรงงาน และทุนทรัพย์ในการจะเริ่มผันตัวเองเข้าสู่การนำเสนอ บริการที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้สูงขึ้นกับธุรกิจของตนเอง

3. SME 2.0 ธุรกิจขนาดกลางและเล็กจะกลายเป็นตลาดหลักที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคม สนใจที่จะเข้ามา

IDC เชื่อว่าการกลับมาให้ความสำคัญกับตลาดธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กอีกครั้งของผู้ให้บริการ โทรคมนาคมจะนำไปสู่การมีนวัตกรรมใหม่ด้านสินค้าหรือบริการ และ การทำกิจกรรมการตลาดรูป แบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นกับกลุ่ม SME นี้ จากวิกฤตทางการเงินจะส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของ ธุรกิจที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ในปี พ.ศ. 2552 และอาจจะส่งผลถึงปี 2553 การฟื้นตัวที่จะเกิดขึ้น นั้นคาดว่าธุรกิจ SME น่าจะฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่า ดังนั้นในปี พ.ศ. 2552 จะเป็นช่วงระยะเวลาที่ดี สำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่จะลงทุนพัฒนาการทำตลาดด้วยการคัดเลือกสินค้าหรือบริการ ให้ เหมาะสมกับกลุ่มนี้

4. แนวคิด “ไม่แพงแต่คุ้มค่า” จะทวีความสำคัญ

ด้วยงบประมาณที่จำกัดภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน IDC เชื่อว่าผู้ใช้งานต่าง ๆ จะมองหาอุปกรณ์ หรือบริการโทรคมนาคมที่เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าให้กับตนเองมากขึ้น การเลือกพิจารณาว่าอะไรคือสิ่ง ที่ สามารถจ่ายได้และประโยชน์ที่จะได้รับอาจจะครอบคลุมไปตั้งแต่เงื่อนไขการให้บริการที่ดีจนถึง สินค้าหรือบริการโทรคมนาคมที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้มากที่สุด สำหรับผู้ใช้ บริการบรอดแบนด์ และโทรศัพท์เคลื่อนที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายของตนเองแต่ยังคงสามารถใช้บริการ เหล่านี้ได้ ในขณะที่การซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องใหม่ที่มีราคาสูงน่าจะชะลอไปจนถึงปลายปี พ.ศ. 2552 โดยผู้ใช้งานจะเลือกซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นยี่ห้อหรูหราและคุ้นเคย แต่มีราคาอยู่ใน ระดับต่ำถึงปานกลาง ความต้องการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มทางเลือกและความสนใจให้กับยี่ห้อใหม่ ๆ ที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ราคาประหยัดเข้าสู่ตลาด

5. บริการอินเตอร์เน็ตจะโตขึ้นอีกจากการเติบโตของโน้ตบุ๊คขนาดเล็ก

ตลาดบริการอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของการใช้งานโน้ตบุ๊ค ขนาดเล็กในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และ ไทย ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของอุปกรณ์ภายใน และ พื้นที่เก็บข้อมูลของเครื่อง ทำให้ผู้ใช้งานต้อง พึงพาอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างมาก ดังนั้นยิ่งมีการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้มากขึ้นเท่าใดก็จะเป็นการ กระตุ้นการใช้บริการอินเตอร์เน็ตให้มากขึ้นตาม การเป็นพันธมิตรกันระหว่างผู้ค้าโน้ตบุ๊คขนาดเล็ก และผู้ให้บริการอินเตอรเน็ตบรอดแบนด์ ไม่ว่าจะเป็นแบบใช้สายหรือแบบไร้สายนั้น จะมีการเจรจา เป็นพันธมิตรกันมากขึ้นในประเทศเหล่านี้ และ จะมีการนำเสนอรูปแบบการขายแบบใหม่ ๆ ใน ลักษณะการขายอุปกรณ์ที่พ่วงพร้อมกับบริการอินเตอร์เน็ต

6. บริการบรอดแบนด์ไร้สายกำลังเป็นที่สนใจ : เป็นอีกหนึ่งปีที่ยังพูดถึงกันอย่างต่อเนื่อง

บริการอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สายจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2552 จากความต้องการใช้งานที่ยังมีอย่างต่อเนื่องและการทำตลาดของผู้ให้ บริการนี้จะเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เกิดการเติบโตด้านการใช้บริการบรอดแบนด์ไร้สาย โดยเฉพาะพื้นที่ ที่เป็นหัวเมืองสำคัญ และ จังหวัดรอบข้างของแต่ละประเทศในภูมิภาคนี้ ด้วยความก้าวหน้าของ เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างเช่น 3.5G หรือ WiMAX ที่กำลังใกล้จะให้บริการได้แล้วในบางประเทศ และ มีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ สนใจที่จะเข้ามาทำตลาดดังกล่าว ตลาดบรอดแบนด์ไร้สายคาดว่าจะเป็น บริการที่ยังได้รับการกล่าวถึงตลอดปีนี้

7. เทคโนโลยี 3G/3.5G และ WiMAX : เทคโนโลยีที่ยังคงดำเนินต่อไป

ก่อนเกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่ถดถอยนั้น ประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังอยู่ในช่วง ระยะเวลาที่แตกต่างกันไปในการนำเทคโนโลยีโทรคมนาคมใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้งาน โดยเฉพาะ เทคโนโลยี 3G/3.5G และ WiMAX โดยIDC เชื่อว่าตลาดจะยังคงเห็นการลงทุนด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยว ข้องกับเทคโนโลยีเหล่านี้ในปี พ.ศ. 2552 โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ยัง มีความสามารถในการหาแหล่งเงินทุนเพื่อมาสนับสนุนแผนการลงทุนระยะยาว โดยทั่วไปตัวชี้วัดว่า ระดับความสำเร็จสำหรับการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้งานในปี พ.ศ. 2552 นี้ จะพิจารณาได้จาก ตัวอย่างต่างๆ ดังนี้ การออกใบอนุญาตประกอบกิจการ 3G ในประเทศไทย หรือ เวียดนาม หรือการออกใบอนุญาตประกอบกิจการ WiMAX ในประเทศไทย และ ข้อคิดเห็นสำหรับการนำ เทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในเชิงพาณิชย์ในประเทศฟิลิปปินส์

8. IP Surveillance กำลังมาแรง

ความจำเป็นในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย การดูแลความปลอดภัยในที่สาธารณะ และ การลด ค่าใช้จ่ายในช่วงภาวะการเงินที่ตึงตัวจะเป็นตัวผลักดันให้องค์กรและสถาบันต่าง ๆ พิจารณาเรื่องการ นำเทคโนโลยีการเฝ้ามองและรักษาความปลอดภัยผ่านอินเตอร์เน็ต (IP Surveillance) มา ประยุกต์ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศไทยมีโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดสำหรับการเฝ้ามอง และรักษาความปลอดภัยให้กับสถานที่ราชการและพื้นที่สำคัญ ๆ หลายแห่งด้วยกันในปี พ.ศ. 2552 สำหรับโครงการดังกล่าวจะเป็นงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่ IDC เชื่อว่าผู้ให้ บริการโซลูชั่นในดังกล่าวในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีการปรับปรุงและปรับเปลียน ผลิตภัณฑ์ของตนให้เข้ากับความต้องการใช้งานของธุรกิจประเภทอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นปรับให้เข้า กับขนาดขององค์กร หรือ ประเภทธุรกิจ และการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในการสนับสนุนเรื่องอุปกรณ์ หรือจะทำตลาดแต่เพียงรายเดียว IDC เชื่อว่าความสนใจในเรื่องการเฝ้ามองและการรักษาความ ปลอดภัยกำลังเป็นเรื่องสำคัญและจะสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2552 นี้

9. รูปแบบการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ยังมีโอกาสอีกรอบ

องค์กรธุรกิจต่าง ๆ กำลังประสบปัญหามากขึ้นในเรื่องของการบริหารจัดการเกี่ยวกับดาต้าเซ็นเตอร์ ยกตัวอย่าง เช่น เรื่องของการมีพื้นที่ที่จำกัด การเพิ่มแอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ เข้าไปในระบบเครือข่าย ขององค์กร การเพิ่มขึ้นของจำนวนสาขาที่กระจายอยู่ตามภาคต่าง ๆ รวมถึงในเรื่องเกี่ยวกับการช่วย รักษาสภาพแวดล้อมด้านการประหยัดพลังงานและการลดความร้อน จากภาวะเศรษฐกิจที่ตึงตัว องค์กรธุรกิจต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะหันกลับมาพิจารณาถึงแผนการบริหาร ดาต้าเซ็นเตอร์ของตนเองทุกขั้นตอนในปี พ.ศ. 2552 ของตนเองใหม่ และอาจจะพิจารณาทางเลือก ในการใช้บริการนี้จากหน่วยงานภายนอกเพื่อลดต้นทุนให้กับตนเอง โดยแนวโน้มดังกล่าวนี้คาดว่า กำลังเป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันอย่างมากในประเทศเวียดนาม ซึ่งกำลังจะมีดาต้าเซ็นเตอร์เกิดใหม่ ขึ้นอีกหลายแห่งในปี พ.ศ. 2552 นี้

10. ตัวอักษร “F” : Femtocells จะเป็นทางออกสำหรับปัญหาอย่างอย่างที่ผู้ให้บริการ โทรคมนาคมกำลังเผชิญอยู่ได้จริงหรือ?

IDC เล็งเห็นว่า femtocells จะเป็นคำที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางในวงการธุรกิจโทรศัพท์ เคลื่อนที่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ และ ผู้จัดจำหน่าย โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่กำลังจับตามองเทคโนโลยีนี้อยู่ แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะยังมีข้อข้อด้อยในตัวเอง แต่เทคโนโลยีนี้กลับช่วยให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถสร้างโอกาสใหม่ ๆ และ เข้ามา ช่วยแก้ปัญหาเรื่องยอดผู้จดทะเบียนสุทธิ และ รายได้ที่ได้รับเฉลี่ยต่อผู้ใช้งาน ปัญหาเครือข่ายเต็ม ในบางพื้นที่ และ ลูกค้าเปลี่ยนไปใช้บริการของคู่แข่ง ในปี พ.ศ. 2552 นี้ ผู้ให้บริการโทรศัพท์ เคลื่อนที่คาดว่ากำลังจะทดลองนำเทคโนโลยี femtocells มาประยุกต์ใช้เพื่อค้นหาประโยชน์ และ ข้อจำกัดของมัน การทดลองและการประยุกต์ใช้บริการนี้คาดว่าจะจำกัดอยู่เพียงบางประเทศที่ตลาด มีการพัฒนาไปแล้วเท่านั้นเช่นในสิงค์โปร์ หรือ มาเลเซีย ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ของภูมิภาคนี้อาจ จะพิจารณารอดูผลลัพธ์ที่ได้ก่อน

การคาดการณ์ 10 อันดับที่สำคัญสำหรับตลาดโทรคมนาคมประจำปี พ.ศ. 2552 ในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ เกิดขึ้นมาจากข้อมูลวิจัยล่าสุดของ IDC และ การประชุมร่วมกันของทีมงาน นักวิเคราะห์ทั่วโลกของ IDC ที่มีมากกว่า 900 คน โดยสิ่งเหล่านี้จะได้รับการคัดกรองจากทีมงาน ประจำส่วนภูมิภาคโดยให้น้ำหนักในเรื่องของ เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม พฤติกรรม ผู้ใช้งาน แนวทางการดำเนินธุรกิจของผู้ค้า และ ภาวะเศรษฐกิจ นำมาประกอบการพิจารณาเพื่อ ค้นหาแนวโน้มของเทคโนโลยีที่จะส่งผลกระทบ และช่วยส่งเสริมตลาดโทรคมนาคมในกลุ่มประเทศ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับปี 2552 IDC ได้มีการจัดทำและเผยแพร่ 10 แนวโน้มที่สำคัญ สำหรับตลาดไอซีทีทั่วโลก โดยมีผู้รับผิดชอบดูแลโดยตรงในเทคโนโลยีแต่ละประเภทที่กระจายอยู่ ตามภูมิภาคต่าง ๆ และจะเผยแพร่ 10 แนวโน้มสำคัญในเรื่องเฉพาะที่พวกเขาดูแลอยู่ เร็ว ๆ นี้ ท่านสามารถเข้าไปเยี่ยมชมข้อมูลที่มีการอัพเดตอยู่เสมอที่ http://www.idc.com.sg/ Predictions 09/

สนใจสั่งซื้อรายงานเรื่อง "Southeast Asia Telecommunications 2009 Top 10 Preditions Philippines 2009 Top 10”, #202102S กรุณาติดต่อ คุณธัญวลัย แซ่ชั๊ว ที่หมายเลข 02-651-5585 ต่อ 111 หรือ อีิเมลล์ที่ [email protected]

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับบรรณาธิการเข้าฟังการบรรยายผ่านทางเว็บไซท์เรื่อง IDC's Southeast Asia Telecommunications 2009 Top 10 Predictions ได้โดยคลิกที่ Webcast Portal บรรยายโดย นางสาวคาเรน รอนดอน ผู้จัดการฝ่ายวิจัยด้านโทรคมนาคม ประจำ IDC เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่านสามารถ เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2552

การเข้าฟังการบรรยายผ่านทางเว็บไซท์มีขั้นตอนดังนี้:

1. ลงทะเบียนที่ Webcast Portal

2. หากท่านเคยลงทะเบียนแล้วท่านจะไม่พบหน้าลงทะเบียนเมื่อคลิกที่ Webcast Portal ท่านจะพบกับรายชื่อหัวข้อการบรรยาย กรุณาเลือกหัวข้อเพื่อเข้าฟังการบรรยาย

3. กรุณาเลือกหัวข้อ IDC's Southeast Asia Telecommunications 2009 Top 10 Predictions เพื่อเข้าฟังการบรรยาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :

คุณศศิธร แซ่เอี้ยว

ที่หมายเลข 662-651-5585 ต่อ 113

Email: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น