ปัญหาผมร่วงผมบางในผู้ชาย เป็นปัญหาที่เปรียบเสมือนเส้นผมบังภูเขา เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักมองข้าม โดยปัญหาผมร่วงนั้นมักจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนไม่อาจสังเกตเห็น ซึ่งภาวะศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ ในผู้ชายจะแสดงอาการได้ จำเป็นต้องมีองค์ประกอบ 2 ส่วน ด้วยกัน คือ กรรมพันธุ์ หรือยีนศีรษะล้าน และฮอร์โมนเพศชาย หรือ Testosterone ฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งผลิตจากลูกอัณฑะ และต่อมหมวกไต แล้วจึงแพร่เข้าสู่กระแสเลือด ไหลเวียนไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยที่หนังศีรษะฮอร์โมนนี้จะถูกเปลี่ยนไปเป็นฮอร์โมนเพศชายอีกตัวหนึ่งชื่อว่า DHT หรือ Dihydrotestosterone โดยเอนไซม์ ( enzyme) 5- alpha reductase โดยขบวนการนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และเกิดขึ้นในผู้ชายทุกคนเมื่อย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ผู้ชายทุกคนจึงมีทั้ง Testosterone และ DHT เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และ DHT นี้ก็มีฤทธิ์แรงกว่า Testosterone (T) ถึง 3 เท่า
นพ.สุรเดช พงษ์รัตนานุกูล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมปลูกผม กล่าวว่า “ผมร่วงและศีรษะล้าน ว่ามีสาเหตุหลักจากเกิดจากกรรมพันธุ์กว่าร้อยละ 90 โดยคนที่มีกรรมพันธุ์ผมร่วงนั้น DHT ซึ่งจะไปขัดขวางขบวนการสร้างเส้นผมปกติ และทำให้เซลล์รากผมฝ่อตัว และผมก็จะค่อยๆ หลุดร่วงในที่สุด ซึ่งผู้ชายมักมองข้ามถึงความสำคัญของการรักษาที่ถูกวิธีจนเกิดปัญหาศีรษะล้าน ส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ หรือแม้กระทั่งเสน่ห์ดึงดูดทางเพศ การรักษาศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ จึงจำเป็นต้องแก้ไขที่ต้นเหตุ คือ การลดปริมาณฮอร์โมน DHT ลง ซึ่งการใช้ยาเพื่อรักษาอาการผมร่วงผมบางที่เกิดจากกรรมพันธุ์ เป็นทางเลือกหนึ่งที่ใช้แล้วได้ผลและปลอดภัย เนื่องจากเป็นการรักษาที่ต้นเหตุซึ่งเกิดจากฮอร์โมนเพศชาย ที่ทำให้เซลล์รากผมฝ่อตัวลง อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรในการเลือกใช้ยา สิ่งสำคัญสำหรับ ผู้ที่เลือกวิธีใช้ยานี้ก็คือ ต้องมีความอดทนสูงเพราะจำเป็นต้องรับประทานยาต่อเนื่องไปตราบเท่าที่ฮอร์โมนเพศชายยังมีการผลิตอยู่ โดยต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามเดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผล”
ด้าน นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินรีแพทย์ ให้ความเห็นว่า “นับเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงจะพิจารณาหลายๆ ปัจจัย ต่อการตัดสินใจเลือกคบคู่ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่างหน้าตา บุคลิกภาพ หน้าที่การงาน และผม ก็เป็นส่วนหนึ่งสำคัญส่วนหนึ่งของรูปลักษณ์ภายนอกที่ผู้หญิงมองเช่นกัน การมีศรีษะล้านและผมบางนั้นอาจเป็นปัญหาด้านภาพลักษณ์ของฝ่ายชาย ซึ่งกระทบกระเทือนไปถึงความมั่นใจในชีวิต รู้สึกสูญเสียความมั่นใจในตนเองหรืออาจลุกลามต่อเนื่องไปถึงความต้องการทางเพศ และ ความสามารถในการตอบสนองทางเพศลดลง ทั้งความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยารักษาอาการผมร่วงที่มีผลต่อฮอร์โมนเพศชาย ที่อาจจะมีผลข้างเคียงต่อสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย ซึ่งจากสถิติข้อมูลพบว่าเกิดขึ้นประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าน้อยมาก และจากผลการศึกษาก็พบว่าเมื่อรับประทานยาต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี พบว่าอาการข้างเคียงดังกล่าวจะค่อยๆ ลดลงเหลือเพียงน้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.3 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้การที่คุณผู้ชายมีความต้องการทางเพศลดลงนั้นก็เกิดได้จากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเครียด ทำงานหนัก หรือปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ”
“วิธีการที่อยากแนะนำก็คือให้ผู้ชายที่มีปัญหาไปปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เริ่มมีอาการ จะได้รักษาได้ทันท่วงที ส่วนคุณผู้หญิงก็ควรช่วยส่งเสริมและให้คำตอบในเรื่องผมร่วงกับผู้ชาย ไม่ใช่ไปซ้ำเติม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเองให้กับผู้ชาย ซึ่งทั้งคู่ก็ต้องช่วยกันเพื่อให้คบกันได้อย่างมีความสุข” นพ.พันธ์ศักดิ์ กล่าวเสริม
คำบรรยายภาพ
PROHAIR Call Center จัดกิจกรรมให้ความรู้ โดยมี นพ.สุรเดช พงษ์รัตนานุกูล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมปลูกผม และ นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูติ-นรีแพทย์ ร่วมไขปริศนาศีรษะล้านจากฮอร์โมนเพศชาย และผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศ
เกี่ยวกับ PROHAIR Call Center
Prohair Call Center เป็นศูนย์ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านแก่ผู้มีปัญหาฟรี และแนะนำรายชื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คลินิก โรงพยาบาล หรือร้านขายยาที่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการรักษาได้ โดยโทรรับคำปรึกษาได้ที่หมายเลข 0-2686-9191 ตั้งแต่เวลา 9.00 - 20.00 น. วันจันทร์ — ศุกร์ หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์ www.askprohair.com
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
คุณชุติมา บวรรัตนโชติ
ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน (ประเทศไทย)
โทรศัพท์: 0-2627-3501 ต่อ 211
e-Mail: [email protected]