คุณวรวรรณ เปรมสุข Executive Business Director บริษัท แมทช์บอกซ์ จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นในปี 2552 นี้ และแนวโน้มยังหดตัวต่อเนื่องไปอีกหลายปี หลายบริษัทชั้นนำเริ่มประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด การใช้งบโฆษณาผ่านสื่อปีละนับหลายร้อยล้านพันล้านต้องถูกหั่นลง และหันไปใช้เครื่องมือและกลยุทธ์สื่อสารการตลาด IMC ทดแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันมีแนวโน้มความต้องการบริษัทโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เป็นมืออาชีพมีความชำนาญและเข้าใจการรุกตลาดในสถานการณ์เศรษฐกิจขาลง โดยเฉพาะบริษัทที่มีโซลูชั่นและบริการด้าน IMC ได้ครบวงจร จะได้รับกระแสตอบรับมากยิ่งขึ้น นักการตลาดในบริษัทชั้นนำหลายแห่งเชื่อมั่นว่า IMC ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์การสื่อสารการตลาดได้
“แมทช์บอกซ์ ก่อตั้งเมื่อปี 2534 และได้รับการจัดอันดับให้เป็น The Largest Local Agency ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเมืองไทย โดยการจัดอันดับโดย เอซี-นีลสัน เมื่อปี 2542-2548 สำหรับในวันที่ 1 เมษายน 2552 ศกนี้ แมทช์บอกซ์จะก้าวสู่ปีที่ 18 ประสบการณ์และความชำนาญที่ผ่านมาของแมทช์บอกซ์ ที่เป็น เสมือน In-house ของ AIS เพราะด้วยการทำงานเป็นคู่คิดที่ใกล้ชิดกันมาก จึงทำให้มีความเข้าใจธุรกิจเทเลคอมและรู้ความต้องการและสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่หลากหลายกว่า 25 ล้านคนทั่วประเทศ อาทิ ลูกค้าองค์กร สังคมไฮเอนท์ คนเมือง คนทำงาน วัยรุ่น วัยทีน วัยพรีทีน และรากหญ้า จึงทำให้ IMC planner ของเราทุกคนสามารถเข้าใจโมเดลพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละกลุ่มและรู้ความต้องการอย่างถ่องแท้ของผู้บริโภค ซึ่งพวกเราพร้อมแล้วที่จะนำประสบการณ์และความชำนาญของเราออกไปให้บริการลูกค้าใหม่ๆ ลูกค้าที่กำลังมองหาโซลูชั่น IMC ใน
การสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร และมีอินโนเวทีฟให้กับลูกค้าตลอดเวลา เพื่อสร้างแบรนด์ สร้างภาพลักษณ์ สร้างรายได้ รวมถึงเสนอเทคนิคใหม่ๆ ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายให้ตรงกับความต้องการ และมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงอย่างมีคุณภาพ และเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แมทช์บอกซ์ได้เปิดแผนกประชาสัมพันธ์ (Public Relations) เพื่อเติมเต็มบริการ IMC ของแมทช์บอกซ์ ให้ครบ 360 องศา ซึ่งนับว่า แมทช์บอกซ์เป็นบริษัทโฆษณาที่มีแผนก IMC ใหญ่และครบที่สุดของเมืองไทย” คุณวรวรรณ กล่าว
คุณวารุณี มานุพีรพันธ์ IMC Director บริษัท แมทช์บอกซ์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมของการสื่อสารการตลาด IMC ในปัจจุบันนั้น ถือเป็นทางเลือกในการสร้างแบรนด์ และสร้างรายได้ เนื่องจากใช้งบประมาณไม่สูง แต่ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ และสื่อสารตรงกลุ่มเป้าหมายโดยไร้ข้อจำกัด ทำให้ตลาด IMC มีแนวโน้มเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ สำหรับตัวเลขผลประกอบการแมทช์บอกซ์ IMC ในปี 2551 ที่ผ่านมา มียอดบิลลิ่งกว่า 400 ล้านบาท และตั้งเป้าผลประกอบการปี 2552 โตไม่น้อยกว่าร้อยละ 10
การทำตลาดวันนี้แตกต่างไปจากอดีตที่รู้จักกัน คือ การสื่อสารการตลาดแบบ Mass Marketing จนกระทั่งเข้าสู่ยุค Niche Marketing วันนี้ ก้าวมาถึงยุคของการทำ Customization หมายถึง การทำตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ผู้ประกอบการจะนำมาใช้เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลานี้ ซึ่งจะเน้นการทำโปรโมชัน มากขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่สินค้าทุกประเภทนำมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจคอนซูเมอร์โปรดักต์ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีวันหมดอายุ หรือshelf life เพราะวิธีนี้จะช่วยบริหารการค้างสต๊อกสินค้าให้ออกไปได้รวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ได้กระแสเงินสดกลับมาทันที
สำหรับเป้าหมายในปี 2552 การรุกตลาดด้วยเครื่องมือ IMC ปัจจุบันมีลูกค้าจำนวนมากให้ความสนใจ ติดต่อเข้ามา และเริ่มให้เราปรับแผนกลยุทธ์และเสนอโปรแกรม CRM, CEM, CSR, Launching, Promotion & Sponsorship เตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์การสื่อสารการตลาดในยุคเศรษฐกิจขาลง ส่วนลูกค้าที่ใช้บริการ IMC ที่ผ่านมา กว่า 10 บริษัทชั้นนำของประเทศ อาทิ AIS, การบินไทย, ปตท., บสท. และลูกค้าในปีนี้มีอีก 3-4 รายที่อยู่ระหว่างการนำเสนอโปรไฟล์เพื่อจัดจ้างเป็นที่ปรึกษาด้านวางแผนกลยุทธ์ IMC และใช้บริการด้านการประชาสัมพันธ์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ : บริษัท แมทช์บอกซ์ จำกัด / IMC
คุณอิทธิพล ช้างทิพย์ โทร. 081-1745525 [email protected]
คุณอุดมลักษณ์ จิระฤทธิ์ธำรง โทร. 086-5193939 [email protected],[email protected]