เอบีจีเปิดตัวระบบความปลอดภัย 2 ระบบ ภายใต้แนวคิด “หน้าตาใหม่ ของความปลอดภัย”

พฤหัส ๒๖ มีนาคม ๒๐๐๙ ๑๓:๕๑
เอบีจีตอกย้ำความเป็นผู้นำระบบกันขโมยสำหรับรถยนต์ เปิดตัวระบบความปลอดภัย 2 ระบบ ภายใต้แนวคิด “หน้าตาใหม่ ของความปลอดภัย” ทั้งแซด-จีเอสเอ็ม ระบบรักษาความปลอดภัยที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือจีเอสเอ็ม และแซด-จีพีเอส ระบบค้นหาและติดตามรถยนต์รุ่นใหม่ หวังเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด

นายวิบูลย์ ว่องศิลป์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโตเมติค บิสซิเนส กรุ๊ป จำกัด หรือ เอบีจี ผู้ดำเนินธุรกิจอุปกรณ์สัญญานกันขโมย “เอบีที” ในประเทศไทยมายาวนานกว่า 18 ปี เปิดเผยว่าในฐานะผู้นำตลาดอุปกรณ์สัญญานกันขโมยในประเทศไทย บริษัทได้เตรียมแผนงานที่จะเดินหน้าบุกตลาดอย่างต่อเนื่องในปีนี้

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ในระดับพรีเมี่ยม ภายใต้แนวคิด “หน้าตาใหม่ ของความปลอดภัย” เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถอัพเกรดสำหรับรถยนต์ทุกรุ่น โดยเอบีจีพร้อมที่จะเปิดตัวสินค้า และกระจายสินค้าไปทั่วประเทศตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้

“แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจในปีนี้จะไม่ค่อยแจ่มใสนัก แต่เอบีจีในฐานะของผู้นำคงไม่อยู่เฉย และมองว่ายังมีโอกาสทางธุรกิจอยู่พอสมควร ทำให้เราเร่งเปิดตัวอุปกรณ์ระบบกันขโมยรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ใช้นวัตกรรมใหม่ใหม่ที่จะอำนวยความสะดวกสบาย และเพิ่มความปลอดภัยให้กับเจ้าของรถยนต์มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค”

สำหรับระบบแรกที่ทางเอบีจีจะแนะนำ ได้แก่ระบบที่เรียกว่า แซด-จีเอสเอ็ม (Z-GSM) หน้าตาใหม่ของความปลอดภัยแบบไร้ขีดจำกัด ที่ผสานความสามารถของช่องสัญญานจากระบบจีเอสเอ็ม เข้ากับอุปกรณ์ระบบสัญญานกันขโมยชั้นนำ ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถสั่งการและรับรู้สถานะของรถยนต์ได้ตลอดเวลาผ่านระบบข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส)

ทั้งนี้ ระบบแซด-จีเอสเอ็ม จะทำให้เจ้าของรถสามารถสั่งตัดสตาร์ท สั่งล็อครถ สั่งคลายล็อค สั่งเปิดกระโปรงท้ายและสั่งค้นหารถได้ในทุกที่ที่มีสัญญานโทรศัพท์มือถือ พร้อมแจ้งเตือนหากมีการทุบกระจก มีการสตาร์ทหรือมีการเปิดประตูรถยนต์ โดยระบบจะทำรับคำสั่งและแจ้งเตือนด้วยการส่งข้อความมายังโทรศัพท์มือถือในเครือข่ายเอไอเอส ดีแทคและทรู

โดยโทรศัพท์มือถือทั่วไปที่สามารถใช้ระบบรับ-ส่งข้อความ สามารถใช้งานกับระบบนี้ได้ทันที โดยสามารถบันทึกการสั่งการได้มากสุด 4 หมายเลข ซึ่งระบบจะทำการตอบรับการสั่งงานไปยังหมายเลขที่เป็นผู้สั่งการ แต่หากมีการบุกรุก จะมีการแจ้งกลับทั้ง 4 หมายเลขทันที และรถทุกคันไม่ว่าจะมีรีโมทติดมากับรถหรือไม่ ก็สามารถอัพเกรดได้ทันที

“ระบบนี้จะอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของรถ ในกรณีที่ต้องการสั่งการรถยนต์ แต่อยู่นอกเหนือระยะการทำงานของรีโมท ซึ่งในช่วงแรกของการแนะนำ เอบีจีตั้งราคาพิเศษเพียง 9,999 บาทเท่านั้น จากราคาปกติที่ 12,500 บาท และหากรถมีรีโมทเก่ามา รับส่วนลดทันที 2,000 บาท เหลือเพียง 7,999 บาทเท่านั้น พร้อมรับทันที กรมธรรม์คุ้มครองมูลค่า 1,740,000 บาท”

สำหรับระบบที่ 2 ได้แก่ระบบ แซด-จีพีเอส (Z-GPS) หน้าตาใหม่ของความปลอดภัย แบบไร้พรมแดน ที่ผสานความสามารถของระบบค้นหาตำแหน่งของรถผ่านดาวเทียม (จีพีเอส) เข้ากับอุปกรณ์ระบบสัญญานกันขโมยชั้นนำ ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาตำแหน่งและความเร็วของรถที่กำลังวิ่งอยู่

นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งเพิ่มเติมจากระบบแซด-จีเอสเอ็ม ทำให้สามารถสั่งการระบบต่าง ๆ ของรถได้เหมือนที่ระบบแซด-จีเอสเอ็มทำได้ โดยมีรัศมีการควบคุมใช้งานได้ทุกที่ และสามารถกำหนดพื้นที่การเดินทางของรถได้ โดยที่เจ้าของรถสามารถติดตามสถานะของรถบนอินเตอร์เน็ท ด้วยความแม่นยำสูง ผ่านระบบกูเกิล แมพ บนเว็บไซต์ http://www.abg-smart.com

“แซด-จีพีเอส เหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการติดตามและควบคุมการใช้งานรถยนต์ ซึ่งบริษัทมองไปที่กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นหลัก ซึ่งนอกจากเรื่องของการกำหนดเส้นทางการวิ่งของรถแล้ว ยังสามารถติดตามและควบคุมการเดินทางให้อยู่ในเส้นทางที่กำหนดไว้ เหมาะสมกับภาวะน้ำมันแพงในปัจจุบัน”

ทั้งนี้ ระบบแซด-จีพีเอสแบบค้นหาตำแหน่งรถยนต์ วางจำหน่ายในช่วงแนะนำด้วยราคา 21,500 บาท จากราคาปกติ 25,000 บาท และแบบค้นหาตำแหน่งพร้อมควบคุมการทำงานของรถ วางราคาจำหน่ายในช่วงแนะนำที่ 28,500 บาท จากราคาเต็ม 32,500 บาท ซึ่งในแบบหลัง รับกรมธรรม์คุ้มครองมูลค่าสูงถึง 1,740,000 บาททันที

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระผู้บริโภค เอบีจีได้ร่วมมือกับผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน จัดแคมเปญพิเศษผ่อนชำระ 0% นานถึง 10 เดือน ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2552 นี้ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เอบีจี ออโต้ ช็อป ทั้ง 6 สาขา หรือโทรมาที่คอลล์ เซนเตอร์ 0-2369-2844-5 และเข้าไปดีรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.abg.co.th

นายวิบูลย์กล่าวถึงเป้าหมายการจำหน่ายของสินค้าใหม่นี้ว่า ตั้งเป้าหมายการจำหน่ายที่ 1,000 ชุดในช่วง 3 เดือนแรกของการเปิดตัว โดยคาดว่าจะเป็นยอดจำหน่ายจากแซด-จีเอสเอ็มมากกว่า โดยแซด-จีพีเอสน่าจะมีส่วนแบ่งประมาณ 15-20% ของยอดจำหน่ายสินค้ากลุ่มนี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจกับผู้บริโภคอีกสักระยะ แต่เชื่อว่าลูกค้าจะให้การตอบรับอย่างแน่นอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-3692844-5, 02-3145555 แผนกลูกค้าสัมพันธ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๑ พ.ค. เฮลท์สเคป (Healthscape)' นำร่องส่ง 'MADE BY SILVER' ชวนสัมผัสผลิตภัณฑ์เพื่อไลฟ์สไตล์สำหรับกลุ่มซิลเวอร์เจน 20 พ.ค. - 2 มิ.ย. 67 ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็ม
๒๑ พ.ค. HENG เสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2567 จำนวน 2 ชุด อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.25% และ 5.50% เปิดจองซื้อ 23-24 และ 27 พ.ค. 67 เดินหน้าเสริมแกร่งธุรกิจ
๒๑ พ.ค. กลุ่มบริษัทศรีตรัง ลุยติดตั้ง EV Charger ในโรงงานทั่วประเทศ สนับสนุนพนักงานใช้พลังงานสะอาด ร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอกย้ำจุดยืน Green Rubber
๒๑ พ.ค. Bitkub Chain และ The Sandbox ร่วมยกระดับวงการ Metaverse ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
๒๑ พ.ค. AJA โชว์แกร่ง!! งบโค้งแรกพลิกมีกำไรพุ่งเกือบ 452% ชูกลยุทธ์ปี 67 กระจายลงทุนในธุรกิจหลากหลาย-สร้างฐานการเติบโตยั่งยืน
๒๑ พ.ค. KJL โชว์นวัตกรรมในงาน SUBCON Thailand 2024 เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า
๒๑ พ.ค. ITEL อวดกำไร Q1/67 โต 113% กำไรสุทธิ 123 ล้านบาท ล่าสุด ก.ล.ต. ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่ง บ.ย่อย BLUE เรียบร้อยแล้ว
๒๑ พ.ค. โอยิกะ ผู้นำด้านโซลูชั่นเทคโนโลยีแบตเตอรี่จากสิงคโปร์ ชูนวัตกรรมพลังงานสะอาด มุ่งขยายธุรกิจตู้สลับแบตเตอรี่สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
๒๑ พ.ค. ดื่มด่ำกับรสชาติของเนื้อโกเบจากโอซาก้า ที่ห้องอาหารฮากิ เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
๒๑ พ.ค. W9 เผยไทยเผชิญฝุ่นพิษล้อมเมืองติดอันดับโลก เปิด 5 กลุ่มเสี่ยงรับฝุ่นพิษ ภัยเงียบสะสม แนะวิธีรับมือเชิงเวลเนส