รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายในการนำที่ดินราชพัสดุมาสนับสนุนการปลูกพืชอาหารและพืชทดแทนพลังงาน เพื่อจัดสรรให้แก่ราษฎรที่เป็นเกษตรกร หรือผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพเกษตรกร ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการว่างงานและต้องการกลับภูมิลำเนาเดิม เพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้มีที่ดินทำกิน ได้เช่าที่ราชพัสดุเพื่อทำการเกษตรในราคาที่เหมาะสม ซึ่งในปี 2552 กระทรวงการคลังได้กำหนดเป้าหมาย จะจัดให้เช่าที่ราชพัสดุแก่เกษตรกร ใน 25 จังหวัด และจะขยายพื้นที่ดำเนินการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะเร่งรัดจัดทำโครงการให้ได้พื้นที่เกษตรกรรม 1 ล้านไร่
โครงการ 1 ล้านไร่ มิติใหม่ที่ราชพัสดุ ของจังหวัดพิจิตร ถือเป็นโครงการนำร่อง จังหวัดที่สอง เป็นที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองของกรมธนารักษ์โดยตรง สำหรับจังหวัดนครสวรรค์เป็นจังหวัดที่สาม เป็นที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งต่อมาได้ส่งคืนกรมธนารักษ์ และกรมธนารักษ์ได้นำมาดำเนินโครงการนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากส่วนราชการในจังหวัดผลักดันโครงการนี้ให้สำเร็จลุล่วง ทั้งนี้ ราษฎรที่ได้รับสิทธิการเช่าที่ราชพัสดุตามโครงการจะนำที่ราชพัสดุไปประกอบการเกษตร และมีการวางแผนการส่งเสริมการเกษตรอย่างครบวงจรต่อไป
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าโครงการจะสำเร็จลุล่วงและบรรลุตามเป้าหมายได้ จำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือทั้งภาคเกษตรกรรมในการให้ความรู้ทางด้านการเกษตรแก่ราษฎรที่เข้าร่วมโครงการ การจัดหาสายพันธุ์พืชที่ดี ปุ๋ยที่มีคุณภาพและราคาถูก การพัฒนาดินและแหล่งน้ำ ความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม ในเรื่องของการนำผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค การควบคุมปริมาณผลผลิตอย่างเหมาะสม ความเป็นธรรมในเรื่องราคาและคุณภาพผลิตผล เพื่อให้เกิดการพัฒนาปรับปรุงการเกษตรกรรมอย่างมีเป้าหมายและครบวงจร