บริษัท ชีวาทัย จำกัด โดย มร. บุญ ชุน เกียรติ กรรมการบริหารเปิดเผยหลังจากการสรุปผลการวิเคราะห์ ทิศทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง เตรียมมองการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ในกลุ่มตลาด ระดับกลางถึงไฮเอ็นด์ เพราะจากการวิเคราะห์พฤติกรรมของตลาดเป้าหมายในประเทศเบื้องต้นแล้วยังคงมองหา บ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมเป็นเป้าหมายของชีวิตเพื่อการอยู่อาศัย แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดกลุ่มนี้แม้ว่าจะมีส่วนแบ่ง ทางการตลาดค่อนข้างสูงเพราะมีบริษัทผู้พัฒนาหลายรายตั้งแต่รายเล็กถึงรายใหญ่ จึงทำให้บริษัทชีวาทัยต้องมีการวิจัย ความต้องการของตลาดทั้งในด้านรูปแบบดีไซน์ พื้นที่ตั้งโครงการ พื้นที่ใช้สอยที่ต้องการ ตลอดจนสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการสร้างจุดขายที่จะสามารถสร้างความแตกต่างกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น และคาดว่าผลดีอีกอย่างในการ ลงทุนในไลน์อสังหาริมทรัพย์นี้จะมีผลดีในด้านของไซเคิลการขายค่อนข้างสั้น เพราะมีระยะเวลาการก่อสร้างไม่ยาวนาน และยังมีความต้องการของตลาดอีกมาก อย่างไรก็ตาม ชีวาทัยมั่นใจว่าจะสร้างความแตกต่างเพื่อสร้างจุดแข็ง ของบริษัทฯ ที่โดดเด่นได้อย่างน่าสนใจ
โดยการพัฒนาโครงการกลุ่มบ้านเดี่ยว จะต้องได้รับการพัฒนาบนที่ดินที่จะต้องยังคงรักษากลยุทธ์หลัก ของบริษัทคือการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพิ้นที่ที่มีชุมชนอยู่แล้วและมีระบบสาธารณูโภคสภาพแวดล้อมโดยรอบดีเยี่ยม เฉกเช่นเดียวกับทุกโครงการของบริษัทที่ผ่านมา แต่อาจอยู่ในเขตชานเมือง หรือบริเวณโดยรอบกรุงเทพมหานคร เพื่อให้พื้นที่ในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ และในส่วนของกลุ่มทาวน์โฮมนั้นได้ถูกวางไว้ให้ตอบโจทย์กลุ่มตลาดบน ถึงไฮเอ็นด์ โดยคาดว่าโครงการฯ จะพัฒนาบนที่ดินใจกลางเมืองย่านเศรษฐกิจ และจะสามารถสร้างความฮือฮา ในฐานะทาวน์โฮมที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่ต้องการการอยู่อาศัยที่มองหาความอบอุ่น เงียบสงบ แต่อยู่ใจกลางเมือง ใกล้สถานที่ทำงานของผู้อาศัย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกทุกประเภท อีกทั้งยังเดินทางสะดวก ทั้งการขับรถเองและการใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งที่ดินดังกล่าวจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่จะถูกเนรมิตให้เป็นแหล่งที่พักอาศัยที่น่าอยู่ร่มรื่นที่หาได้ยากในเขตเมือง
อย่างไรก็ตาม ชีวาทัย นั้นได้เปิดตัวบริษัท พร้อมโครงการ คอนโดมิเนียมแรก “ชีวาทัย ราชปรารภ” จึงไม่ทิ้งในการมุ่งเน้นพัฒนาโครงการ คอนโดเนียมคุณภาพเยี่ยมในหลายๆ เขตเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร โดย สองโครงการแรก ของบริษัท “ชีวาทัย ราชปรารภ ” ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ ต้นปี 2554 ยอดจองมากกว่า 50% และ เดอะสุรวงศ์ บูทิคคอนโดมิเนียมไฮเอ็นด์ ที่คาดว่าจะเสร็จต้นปี 2553 และได้รับยอดจองมากกว่า 30% โดยจากการวิเคราะห์ สภาพเศรษฐกิจในปี 2552 แล้ว ชีวาทัย คาดว่าจะไม่มีโครงการใดเปิดในช่วงปลายปี แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว พลิกความคาดหมาย บริษัทฯ ก็พร้อมพิจารณาเปิดตัวโครงการที่ 3 แต่เป็นโครงการฯ ลักษณะใดนั้น จะต้องพิจารณาความพร้อมและตลาดในขณะนั้น
ตลอดระยะเวลา ไม่นานมากนักตั้งแต่เข้ามาลงแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ชีวาทัยมองเห็น อุปสรรคและโอกาสของธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จากประสบการณ์ของตนเองและบริษัทผู้พัฒนารายอื่น โดยสิ่งแรกที่ ชีวาทัย มองเป็น จุดขายแรกของบริษัทที่ดำเนิน กับ 2 โครงการแรก และทุกโครงการในอนาคต นั่นคือการพัฒนาโครงการ ตรงตามหลักของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศไทย จะสังเกตุได้ว่า EIA ของโครงการ ชีวาทัย ราชปรารภ นั้นใช้เวลาการเสนอขอสั้นมาก ไม่เพียงเท่านั้น มาตราฐานการก่อสร้าง และระบบการจัดการทั้งก่อนและหลังส่งมอบที่พักอาศัยให้กับลูกค้า ชีวาทัยนั้นการันตี ได้ ถึงมาตราฐานในระดับสากล ที่ลูกค้าพึงจะได้รับเหมือนกันทุกคน ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ลูกค้าทุกคนจะสามารถสัมผัสได้ และจะเป็นบทพิสูจน์ถึงความเหนือกว่า แม้ว่าจะเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเพียงไม่นาน แต่ชีวาทัย ก็ได้รับระบบการจัดการ และมาตราฐานจากบริษัทร่วมสิงคโปร์ มาใช้อย่างดีเยี่ยม มร. บุญ ชุน เกียรติ กล่าวสรุป
บริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ เจซีแอนด์ โค พับลิครีเลชั่นส์ (JC&CO PUBLIC RELATIONS)
ณภัทร กาญจนะจัย / ทิพย์สิริ เทวกุล ณ อยุธยา
Email: [email protected], [email protected] http://www.jcpr.co.th