เตือนผู้ส่งออกสินค้าประมงเตรียมพร้อมรับมือระเบียบเกี่ยวกับ IUU Fishing ของสหภาพยุโรป

อังคาร ๑๖ มิถุนายน ๒๐๐๙ ๑๕:๐๗
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สหภาพยุโรปได้ออกประกาศ Council Regulation (EC) No 1005/2008 of 29 September 2008 เกี่ยวกับการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unregulated and Unreported -IUU Fishing) โดยให้เหตุผลว่า การทำประมงที่ผิดกฎหมาย ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อการพัฒนาทรัพยากรสิ่งมีชีวิตทางทะเล ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับสินค้าประมงที่จับได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป

ระเบียบดังกล่าวกำหนดให้สินค้าประมงทั้งที่แปรรูปแล้วและยังไม่แปรรูปภายใต้พิกัดฯ 03, 1604 และ 1605 (ยกเว้นสัตว์น้ำจืด ปลาสวยงาม สินค้าสัตว์น้ำที่มาจากการเพาะเลี้ยง และหอยสองฝาบางชนิดที่ระบุไว้ในภาคผนวก 1 ของระเบียบนี้) ต้องมีใบรับรองการจับสัตว์น้ำ (Catch Certificate) ที่ออกโดยเรือประมงประเทศเจ้าของธงเรือและผ่านการรับรองจากกรมประมงของไทยประกอบการนำเข้า เพื่อรับรองว่าการจับสัตว์น้ำและวัตถุดิบสัตว์น้ำมาจากเรือประมงที่ทำการประมงอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งขณะนี้กรมประมงอยู่ระหว่างจัดทำระบบการตรวจรับรองสินค้าประมง และการตรวจย้อนกลับเพื่อรองรับกฎระเบียบดังกล่าว อย่างไรก็ดี ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของปี 2553 ด่านศุลกากรของสหภาพฯ จะอนุญาตการนำเข้าสินค้าประมงดังกล่าวที่ไม่มีใบรับรองการจับสัตว์น้ำ เนื่องจากการขนส่งสินค้าทางเรือจากไทยไปสหภาพฯ ใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์

นางสาวชุติมาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าประมงของไทยใช้วัตถุดิบนำเข้าจากกว่า 50 ประเทศ ซึ่งจะต้องใช้ใบรับรอง Catch Certificate ของประเทศวัตถุดิบดังกล่าวประกอบการนำเข้า หากประเทศดังกล่าวไม่สามารถเตรียมความพร้อมได้ทันในวันที่ 1 มกราคม 2553 ก็อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าประมงของไทยด้วย ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าจึงควรตรวจสอบให้ชัดเจนว่าผู้ส่งออกในประเทศคู่ค้านั้นสามารถดำเนินการออกใบรับรองการจับสัตว์น้ำได้หรือไม่ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ผู้ประกอบการควรพิจารณานำเข้าวัตถุดิบจากแหล่งอื่นที่ไม่มีการทำประมงแบบผิดกฎหมายแทน ทั้งนี้ สหภาพ-ยุโรปจะแจ้งรายชื่อหน่วยงานผู้มีอำนาจของแต่ละประเทศให้ทราบในเดือนกรกฎาคม 2552 ซึ่งกรมการค้า-ต่างประเทศจะติดตามความคืบหน้าและแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบต่อไป

สหภาพยุโรปเป็นตลาดส่งออกสินค้าประมงสำคัญลำดับที่ 3 ของไทย รองจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น โดยในปี 2551 ไทยส่งออกสินค้าประมงแช่เย็น แช่แข็งและแปรรูปไปสหภาพยุโรปมูลค่าประมาณ 35,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารของไทยไปยังสหภาพยุโรป และในปี 2552(ม.ค. — เม.ย.) ไทยส่งออกสินค้าประมงแช่เย็น แช่แข็งและแปรรูปไปสหภาพยุโรปมูลค่าประมาณ 9,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 0.05

ทั้งนี้ สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระเบียบต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไร้การควบคุมนี้ ได้ที่ http://ec.europa.eu/fisheries/cfp/external_relations/illegal_fishing/meetings_en.htm#seminars

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๒๑ FLOYD คว้า 2 โปรเจกต์ใหม่ จากบิ๊กศูนย์การค้าส่งชั้นนำ รวมมูลค่ากว่า 115.56 ล้านบาท
๑๓:๕๒ เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำทีม The new E-Class บุกห้างดัง จัดเต็มข้อเสนอในงาน Mercedes-Benz StarFest 2024 ชวนลูกค้าสัมผัสรถที่ใช่ในพื้นที่ใกล้บ้านคุณ
๑๓:๒๔ โฮมโปรเดินหน้าโปรเจค Green Transport เปิดตัวรถขนสินค้า EV Truck พลังไฟฟ้า พลังงานสะอาด 100% มุ่งเป้าสู่ Net Zero ระดับโลก ในปี
๑๓:๑๒ STA เดินหน้าส่งมอบยาง EUDR แก่ลูกค้า ย้ำความพร้อมรับมาตรการตรวจสอบย้อนกลับจากยุโรปและทั่วโลก
๑๓:๐๔ บลจ.กสิกรไทย เปิดตัว KNOW THE MARKETS SERIES คัมภีร์การลงทุนเชิงลึก มองไตรมาส 2 ตลาดหุ้นปรับฐาน แนะเน้นหลักการกระจายลงทุน
๑๓:๑๖ FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง
๑๓:๔๑ บลจ.อีสท์สปริง ได้รับอนุมัติเปลี่ยนชื่อกองทุนรวม 135 กองทุน จากสำนักงาน ก.ล.ต. มีผล 17 มิ.ย. 67
๑๓:๑๑ บางจากฯ ร่วมภาคีเครือข่ายป่าชายเลน Thailand Mangrove Alliance
๑๓:๐๙ สคร.12 สงขลา เตือนเปิดเทอมนี้ 4 โรค ต้องระวัง แนะผู้ปกครอง เตรียมความพร้อมบุตรหลาน ป้องกันตนเองเมื่อไปโรงเรียน
๑๓:๔๔ BBLAM เสนอขาย IPO 'BP10/24(AI)' วันที่ 2-7 พ.ค. 2567