ซีพีเอฟประสบความสำเร็จในโครงการนำร่องจัดการพลังงานเป็นแห่งแรกของประเทศไทย เดินหน้าขยายผลอีก 3 โรงงาน

อังคาร ๓๐ มิถุนายน ๒๐๐๙ ๐๙:๒๖
ที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ กรุงเทพโปรดิ๊วส จ.สระบุรี รต.ดร.ประพาส ลิมปะพันธุ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะ ได้เข้าตรวจเยี่ยมผลสำเร็จ “โครงการนำร่องบริษัทจัดการพลังงาน” (ESCO Pilot Project) โดยมี นายนพดล ศิริจงดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ ให้การต้อนรับ

นายนพดล ศิริจงดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญต่อการลดการใช้พลังงาน และทำการศึกษาดำเนินโครงการด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการอนุรักษ์พลังงาน ล่าสุด โรงงานแปรรูป บมจ.กรุงเทพโปรดิ๊วส จ.สระบุรี สามารถลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 105 ล้านหน่วย และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงได้ถึง 312 ล้านบาท หลังจากโรงงานแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นผู้ดำเนิน “โครงการนำร่องบริษัทจัดการพลังงานแห่งแรกของประเทศไทย” ตั้งแต่ปี 2544

นายนพดล กล่าวอีกว่า การดำเนินโครงการนำร่องบริษัทจัดการพลังงานนี้ บริษัทใช้มาตรการด้านโรงไฟฟ้าระบบพลังงานความร้อนร่วม หรือ CO-GENERATION (Co-Gen) เป็นมาตรการหลัก ซึ่งนอกจากจะสามารถช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานได้อย่างเป็นรูปธรรม และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลงได้ถึงปีละ 53,543 ตัน นับเป็นการบรรเทาภาวะโลกร้อนลงได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้มีแผนที่จะขยายผลสำเร็จโครงการโรงไฟฟ้าระบบพลังงานความร้อนร่วมนี้ไปในโรงงานอื่นๆ ของบริษัทอีก 3 พื้นที่ ได้แก่ ขยายเฟส 2 ที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่สระบุรี, พื้นที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่มีนบุรี และพื้นที่โรงงานอาหารแปรรูปหนองจอก, รวมทั้งพื้นที่นอกกลุ่มซีพีเอฟอีก 1 แห่งคือโรงงานซีพี-เมจิ โดยใช้โมเดลที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ กรุงเทพโปรดิ๊วส จ.สระบุรีเป็นต้นแบบ และใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งจะคาดว่าจะคืนทุนทั้งหมดได้ภายใน 4 ปี 6 เดือน

ซีพีเอฟ เป็นผู้ผลิตอาหารที่มุ่งสู่การเป็นครัวของโลก ซึ่งไม่เพียงให้ความสำคัญกับมาตรฐานการผลิตในระดับสากล บนหลักการของอาหารปลอดภัย หรือ Food Safety เท่านั้น แต่ในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต จะคำนึงถึงการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเสมอ ดังเช่น โครงการโรงไฟฟ้า Co-Gen ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติมาเป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเตา ทำให้ลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้อย่างมาก”

สำหรับที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ กรุงเทพโปรดิ๊วส จ.สระบุรีนี้ จะใช้ก๊าซธรรมชาติประมาณ 35,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน มาผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยระบบความร้อนจาก การปั่นไฟ โดยจะได้พลังงานออกมาใน 2 รูปแบบ คือ พลังงานไฟฟ้า และพลังงานไอน้ำ

โรงไฟฟ้าระบบพลังงานความร้อนร่วม (Co-Gen) คือ การนำเอาเชื้อเพลิง เช่น ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน หรือชีวมวล มาผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะเกิดความร้อนจากการปั่นไฟ โดยจะนำความร้อนที่เกิดจากการปั่นไฟนี้ ไปต้มน้ำสำหรับใช้ในกระบวนการผลิต การนำเชื้อเพลิงมาใช้ผลิตทั้งไฟฟ้าและไอน้ำในคราวเดียว ทำให้เกิดการประหยัดค่าพลังงาน จากเดิมที่ต้องซื้อทั้งไฟฟ้าและเชื้อเพลิงมาต้มน้ำเพื่อผลิตไอน้ำ หลักการดังกล่าวทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานของโรงไฟฟ้า Co-Gen เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 80 จากโรงไฟฟ้าระบบทั่วไปที่ให้ประสิทธิภาพเพียงประมาณร้อยละ 50

สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ซีพีเอฟ

โทร. 0-2625-7344-5, 0-2631-0641,0-2638-2713

email : [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน