วันนี้ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ให้เกียรติเป็นประธานในการจัดเลี้ยงอาหารค่ำผู้บริหารระดับสูงของ 53 บริษัทขนาดใหญ่ ในอุตสาหกรรมประมง/ปศุสัตว์ กลุ่มสินค้าเกษตร กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ กลุ่มสินค้าแฟชั่น กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมหนัก และกลุ่มธุรกิจบริการ จากทุกประเทศทั่วโลก ที่เป็นคู่ค้าและแขกคนสำคัญของประเทศไทย ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในโครงการ Thailand Best Friend (TBF) ซึ่งมียอดรวมในการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทยต่อปีมากกว่า 80,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดในโครงการ Thailand Best Friend ( TBF) มีกำหนดพำนักในประเทศไทยระหว่างวันที่ 3-8 สิงหาคมนี้ โดย กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่ให้การต้อนรับและ นำเยี่ยมชมการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ และทัศนศึกษาแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญภายในประเทศไทย เพื่อสร้างความประทับใจในฐานะแขกคนสำคัญของประเทศไทย จนเกิดความประทับใจในมาตรฐานสินค้าและบริการของคนไทย และเพื่อขยายผลในการเพิ่มโอกาสในการสั่งซื้อสินค้าประเภทอื่นๆ ของไทยในอนาคต ตลอดจนเพื่อบรรลุกลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า หรือ Customer Relation Management (CRM) ที่กำหนดเป็นนโยบายนำร่องผ่านโครงการ TBF นี้
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์หลักของการจัดโครงการ Thailand Best Friend ( TBF) เพื่อเป็นหนึ่งในโครงการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์ มุ่งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าหรือผู้ซื้อสินค้าไทยในต่างประเทศ ประกอบกับต้องการสร้างความภาคภูมิใจให้กับกลุ่มคู่ค้าเหล่านั้น ให้ตระหนักในความเป็นคู่ค้าสำคัญของประเทศไทย สำหรับการพิจารณาคุณสมบัติคู่ค้าที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการคัดเลือกผู้ส่งออกในแต่ละหมวดสินค้าที่ส่งออกสูงเป็นอันดับ 1-3 ในปี 2552 ของแต่ละอุตสาหกรรม และผู้บริหารทั้งหมดที่เข้าร่วมจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ ในโครงการ Thailand Best Friend (TBF) เป็นระยะเวลา 2 ปี รวมถึงการได้รับมอบเกียรติบัตรเฉพาะในฐานะคู่ค้าคนสำคัญของประเทศไทยจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีอีกด้วย
ปัจจุบันกลุ่มผู้ค้าเหล่านี้ได้มีการนำเข้าสินค้าของไทย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 80,000 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมสินค้าในทุกประเภท และกระทรวงพาณิชย์คาดหวังว่า การกำหนดจัดโครงการ Thailand Best Friend (TBF) ขึ้นเป็นครั้งแรกนี้ผลสำเร็จที่จะได้รับจากการจัดโครงการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทุกภาคส่วนของประเทศ สามารถทดแทนกำลังซื้อที่หายไปผ่านยอดการสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มผู้นำเข้ารายใหญ่นี้ อีกไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 หรือ ประมาณ 8,000 ล้านบาท ในระยะแรกนี้
สำหรับสิทธิพิเศษในโครงการนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆ อาทิ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด โรงพยาบาล และร้านค้าต่างๆ ในการมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ถือ TBF CARD ซึ่งเป็นบัตรเอกสิทธิ์เหนือระดับ (First Class) และโปรโมชั่นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยมีรายละเอียดดังนี้
Very Important Zone หรือ VIZ ให้ส่วนลดพิเศษจากพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำของประเทศ อาทิ โรงแรมและรีสอร์ทสุดหรู ร้านอาหารยอดนิยม สปา ฟิตเนสคลับระดับห้าดาว สนามกอล์ฟชั้นนำ โรงพยาบาล และร้านค้าต่างๆของศูนย์การค้าชั้นนำกว่า 300 ร้านค้า และธุรกิจบริการ กว่า100 แห่ง
ร่วมกับ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย สุวรรณภูมิ มอบสิทธิพิเศษ Fast Lane แก่ผู้ถือบัตรที่แจ้งล่วงหน้า ในการผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองระดับ VVIP จากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเมื่อจะเดินทางมาประเทศไทย โดยไม่ต้องเสียเวลากับการเข้าคิวตรวจคนเข้าเมือง
บริการพิเศษ Hotline จากกระทรวงพาณิชย์ โทร. 1169 ทุกเรื่องฉุกเฉิน และไม่ฉุกเฉิน อุ่นใจตลอดการเดินทางและขณะพำนักที่ประเทศไทย เสมือนมีเลขาส่วนตัวทุกครั้งที่เยือนประเทศไทย
สอบถามรายละเอียดเพิมเติมกรุณาติดต่อ บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด
คุณภัทธิรา บุรี ,คุณอุทัยวรรณ ชูชื่น