FM 98 Business Station ดึงกูรูด้านเศรษฐกิจหาคำตอบท่ามกลางวิกฤติ

ศุกร์ ๑๔ สิงหาคม ๒๐๐๙ ๐๙:๐๗
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ฟาติมา บรอดคาสติ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้บริหารคลื่น 98.0 Business Station ได้จัดเสวนาภายใต้หัวข้อ “The Three Dimensions วิกฤติพบคำตอบ” โดยเชิญกูรูจากด้านเศรษฐกิจและการเมือง ประกอบด้วย นายประจวบ ไชยสาส์น อดีตผู้แทนการค้าของไทย, นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและสภาพัฒน์, นายชาญชัย สงวน-วงศ์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น และนายนิมิตร หมดราคี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการประชาสัมพันธ์มาร่วมแสดงความคิดเห็น และดำเนินรายการโดยนายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ

โดยคุณประจวบ ไชยสาส์นกล่าวว่า รัฐและเอกชนต้องปรับตัว โดยมองหาตลาดใหม่ในการทำธุรกิจ จากเดิมที่มุ่งเน้นตลาดตะวันตก ควรหันมาเจาะตลาดตะวันออกมากขึ้น และควรมองวิกฤติโลกที่เกิดขึ้นนี้ให้เป็นโอกาสโดยการปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจ จากเดิมที่เป็นฐานการผลิตและส่งออกไปยังต่างประเทศ เปลี่ยนมาเป็นผู้ผลิตและส่งออกซะเอง แต่ก็ยังมีปัจจัยที่นักธุรกิจไทยยังคงต้องศึกษาเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาตลาด ภาษา ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมของประเทศคู่ค้า รวมถึงการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เพื่อลดภาระต้นทุนระบบขนส่งโดยรวม ซึงคิดเป็นสัดส่วนต้นสูงถึง 30% ของธุรกิจ ซึงจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้แข่งขันกับประเทศอื่นๆได้

ทางด้านคุณสุรนันทน์ เวชชาชีวะ กล่าวว่า เพราะนักการเมืองคือผู้ที่ตัดสินใจนโยบายต่างๆปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยตรง ทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองพร้อมๆกัน หากไทยยังคงประสบปัญหาทางการเมืองอยู่ เมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้น ไม่ว่าประเทศยักษ์ใหญ่อย่างอเมริกาหรือจีนที่มีโอกาสฟฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดดแล้วนั่น เศรษฐกิจประเทศไทยอาจโดนประเทศเพื่อนบ้านแย่งตลาดไปได้

“การขัดแย้งทางการเมือง ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเกิดจากกติกาของประเทศถูกบิดเบือน มี 2มาตราฐาน ไม่มีความยุติธรรม สร้างความแตกต่างระหว่างคน 2 กลุ่ม และระบบทุนนิยมเข้ามามีบทบาทต่อวงการเมืองมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งและผลกระทบต่อธุรกิจในท้ายที่สุด” นายสุรนันทน์กล่าว

ในส่วนของคุณนิมิตร หมดราคี กล่าวถึงแนวทางประคองธุรกิจท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ว่า ควรมองวิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาสที่ดีต่อธุรกิจ ควรมองว่า เราคือใคร เป็นอะไร และทำอะไร ปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสารในองค์กร ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญกับพนักงาน หรือผู้ลงทุนรายอื่นๆ และสร้างขวัญกำลังใจในการต่อสู้กับสภาวะวิกฤติในตอนนี้ จึงจะผ่านพ้นไปได้

“ผู้บริหารบริษัทหรือองค์กร ต้องรักษาระดับความน่าเชื่อถือต่อสื่อมวลชน ผู้นำองค์กรต้องเป็นหลักในการสะท้อนภาพลักษณ์ และหาวิธีสื่อสาร ที่ตรงจุด กล้าทำในสิ่งที่ใหม่ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจและเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในระยะยาว” นายนิมิตรกล่าวและพูดถึง “บทบาทในการทำงานด้านสื่อสารมวลชนของรัฐ ทั้งๆที่มีเครื่องมือพร้อมทุกอย่าง แต่ยังไม่สามารถโน้มน้าวคนอีกกลุ่มในสังคมได้ และการมุ่งใช้ยุทธศาสตร์ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” จะสร้างความขัดแย้งทางการเมืองมากขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทย”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน