ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยืนยันหากพบแท็กซี่ที่จดทะเบียนให้บริการกระทำผิดจริงจะมีมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาด

ศุกร์ ๑๔ สิงหาคม ๒๐๐๙ ๑๔:๐๕
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกำชับส่วนงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดกับการให้บริการของรถแท็กซี่ภายในสนามบิน ทั้งนี้หากพบคนขับแท็กซี่รายใดมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดไม่ให้เข้ามารับผู้โดยสารได้อีกต่อไป

นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยมาตรการควบคุมรถแท็กซี่สาธารณะภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ว่า ได้ให้ความสำคัญและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะใน ทสภ. มาโดยตลอด โดยรถแท็กซี่ที่จะเข้ามาให้บริการแก่ผู้โดยสารได้นั้น จะต้องลงทะเบียนทำประวัติแจ้งชื่อ ที่อยู่ และรูปถ่าย หมายเลขทะเบียนรถของผู้ขับขี่ กับ ทสภ. ทุกคัน ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารสามารถร้องเรียนได้ เมื่อเกิดปัญหาในการใช้บริการ ทั้งนี้หากผู้โดยสารท่านใดไม่ได้รับความสะดวกจากการใช้บริการ อาทิ การปล่อยผู้โดยสารลงกลางทาง การไม่เปิดมาตรวัดโดยสาร การพูดจาไม่สุภาพ หรือการปฎิเสธรับผู้โดยสาร จะสามารถร้องเรียนได้ที่ ศูนย์บริการรถแท็กซี่ ทสภ. 02-132-9199 หรือศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ กรมการขนส่งทางบก โทร.1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายนิรันดร์กล่าวว่า เมื่อมีผู้โดยสารร้องเรียนการใช้บริการรถแท็กซี่ไปที่ศูนย์บริการรถแท็กซี่ ทสภ. แล้ว เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าผู้ขับขี่รถแท็กซี่กระทำความผิดจริงตามที่ผู้โดยสารร้องเรียน ทสภ. จะมีการลงโทษตามมาตรการที่กำหนดจากเบาไปหาหนัก คือ งดไม่ให้เข้ามาให้บริการใน ทสภ. เป็นระยะเวลา 15-120 วัน หรืออาจจะงดไม่ให้เข้าไปให้บริการใน ทสภ. ตลอดไป ซึ่งที่ผ่านมา ทสภ. ได้ลงโทษผู้ขับขี่รถแท็กซี่ตามที่มีการร้องเรียนจากผู้โดยสารในกรณีต่าง ๆ มาแล้ว เป็นจำนวน 74 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นความผิดจากการคิดค่าโดยสารเกินราคา 33 ราย การแสดงกริยาไม่สุภาพต่อผู้โดยสาร 7 ราย และอื่น ๆ อีก 34 ราย ทั้งนี้ ทสภ. ได้บันทึกประวัติความผิดไว้ ซึ่งหากพบผู้ขับขี่กระทำผิดในลักษณะซ้ำเดิมอีก ทสภ. จะขึ้นทะเบียนไม่ให้เข้าไปรับส่งผู้โดยสารใน ทสภ. ได้อีก พร้อมทั้งแจ้งไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อพิจารณาดำเนินการตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ต่อไป

นายนิรันดร์กล่าวถึงกรณีที่มีการส่งจดหมายเวียนอีเล็คโทรนิคส์ (E-Mail) เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตว่า รถแท็กซี่สาธารณะที่ขึ้นทะเบียนกับ ทสภ. พยายามมอมยาผู้โดยสารนั้น ทสภ. ได้มีการเรียกผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ถูกร้องเรียนดังกล่าวมาสอบสวนแล้ว ผู้ขับขี่ได้ให้การปฎิเสธว่าตนไม่ได้มีพฤติกรรมหรือเจตนากระทำการตามที่ผู้โดยสารเข้าใจแต่อย่างใด ซึ่งทสภ. ได้มีการตักเตือนและแนะนำให้ผู้ขับขี่อย่ากระทำพฤติกรรมที่อาจทำให้ผู้โดยสารเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในระหว่างใช้บริการ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ ทสภ. ได้ให้ความสำคัญและพยายามติดต่อผู้โดยสารท่านนั้น เพื่อชี้แจงรายละเอียดแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากผู้โดยสารไม่ได้ให้ที่อยู่ที่สามารถติดต่อกลับไว้

นายนิรันดร์กล่าวถึงกรณีที่ นสพ. เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 13 สิงหาคม 2552 ลงข่าวว่ามีชายคนหนึ่งใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะที่ได้รับการจดทะเบียนของ ทสภ. เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2552 และรู้สึกว่าคนขับขี่แท็กซี่พยายามมอมยา และได้โทรแจ้งมาที่ ทสภ. แล้ว แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับนั้นว่า เรื่องนี้ทาง ทสภ. ได้ตรวจสอบหลักฐานแล้ว พบว่าตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2552 จนถึงปัจจุบันยังไม่มีผู้โดยสารร้องเรียนเกี่ยวกับการถูกมอมยาแต่อย่างใด

นายนิรันดร์กล่าวว่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา แม้ว่า ทสภ. จะได้รับโทรศัพท์ร้องเรียนเกี่ยวกับความประพฤติไม่เหมาะสมของผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ให้บริการภายใน ทสภ. ซึ่งได้มีการลงโทษมาโดยตลอดดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่หากเป็นเรื่องกระทำความผิดคดีอาญาของผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะ เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องทำการสอบสวน และเมื่อได้ผลการสอบสวนเป็นประการใด ทสภ. จะได้ลงโทษผู้ขับขี่ไม่ให้สามารถเข้ามาให้บริการที่ ทสภ. ได้อีกต่อไป รวมทั้ง ทสภ. จะได้ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนในการส่งประวัติของผู้ขับขี่ รวมถึงรูปถ่ายเพื่อประโยชน์ในการออกหมายจับ หรือทำการจับกุมผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดตามกฎหมายที่มีโทษทางอาญาให้ด้วย ทสภ. จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารให้ช่วยกันแจ้งความกับตำรวจด้วย เพื่อจะได้นำมาเป็นหลักฐานในการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายนิรันดร์กล่าวแนะนำเพิ่มเติมว่า หากผู้โดยสารที่ใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะแล้วพบว่าผู้ขับขี่รถแท็กซี่มีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้ใจ เช่น สงสัยว่าจะมอมยา ขอให้ผู้โดยสารตั้งสติและรีบลงจากรถโดยเร็วที่สุด และรีบโทรศัพท์ติดต่อญาติสนิทหรือเพื่อน และในกรณีที่ใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะของ ทสภ. ซึ่งจะมีหมายเลขโทรศัพท์ศูนย์บริการรถแท็กซี่ ทสภ. อยู่ให้ติดต่อแจ้งได้ทันทีเช่นเดียวกัน รวมถึงให้รีบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุด หรือทางหมายเลขโทรศัพท์ 191

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

ส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายกิจการพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โทร.02-132-9023 โทรสาร 02-132-9019

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ ผื่นแพ้แดด : ภัยผิวหนังที่พบบ่อยในหน้าร้อน
๑๒:๒๙ ท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว โรงแรมในเครือเอ็ม บี เค 7 แห่ง พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว มั่นใจตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยว
๑๒:๕๗ แอสเซทไวส์ จับมือ ทาคาระ เลเบ็น พันธมิตรยักษ์อสังหาฯ ญี่ปุ่น ร่วมลงทุนต่อโปรเจ็กต์ที่ 4 โมดิซ วอลท์ เกษตร - ศรีปทุม มูลค่ากว่า 2,200
๑๒:๑๒ ส่องลุค 5 สาวคนดัง กับทรงผมสุดปังจากผลิตภัณฑ์ คริสทาไลซิ่ง สูตรใหม่สุดพรีเมียม ในงาน CRYSTALLIZING RADIANCE FOR
๑๑:๕๔ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานแพร่ ดำเนินการฝึกอบรมตามโครงการเพิ่มทักษะแรงงานนอกระบบและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ รุ่นที่
๑๑:๓๓ FM จัดงาน Analyst Meeting เตรียมเสนอขาย IPO จำนวน 376 ล้านหุ้น
๑๑:๒๘ ซีพีเอฟ ไว้วางใจ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ร่วมมือเดินหน้าเพิ่มศักยภาพการผลิต เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
๑๑:๔๓ Automotive Summit 2024 มุ่งสู่นวัตกรรมการขับเคลื่อนแห่งอนาคตเพื่อความยั่งยืน
๑๑:๐๔ รายงานความยั่งยืนประจำปีของ SolarEdge ชี้ปริมาณ CO2e ที่ลดลง 40 ล้านตันต่อปี ผ่านการใช้โซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์
๑๑:๒๒ วิศวะมหิดล ประกาศความสำเร็จ Mahidol Engineering Maker Expo 2024