เอเชียและการจัดระเบียบโลกใหม่ โดย นายนิโคลัส ควอน

พุธ ๑๔ ตุลาคม ๒๐๐๙ ๑๔:๔๕
หัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย

กลุ่มธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ประจำประเทศฮ่องกง

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในตอนนี้เกิดขึ้นแล้วจริง แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามองต่อจากนี้ไปคือความแตกต่างในการฟื้นตัว ในปัจจุบันมีทั้งฟื้นตัวเป็นรูปตัววี หรือตัวดับบลิว (V or W shaped) แต่ละประเทศในโลกจะฟื้นตัวในลักษณะที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางเศรษฐกิจและการตอบสนองต่อนโยบายที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ในภูมิภาคเอเชียซึ่งมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ในเวลาเดียวกันมีการก่อหนี้ต่างประเทศในระดับต่ำ และนโยบายเศรษฐกิจที่เหมาะสม ทำให้เริ่มฟื้นตัวก่อนและมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องได้ โดยส่วนใหญ่จะฟื้นตัวเป็นรูปตัววี ขณะที่สหรัฐ และสหภาพยุโรป ซึ่งเผชิญปัญหามีเงินออมต่ำ มีหนี้เสียจำนวนมาก และระบบการเงินที่ล่มสลาย ทำให้ลักษณะการฟื้นตัวอย่างดีที่สุดก็คงเป็นการฟื้นตัวในรูปตัวยู (U-shaped) ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เช่นไอซ์แลนด์คงเผชิญกับการฟื้นตัวเป็นรูปตัวแอล (L-shaped) หรือรูปตัวดับบลิวซ้ำๆ กัน (repeated W)

ภายในภูมิภาคเอเชียเอง คาดว่าจะมีการฟื้นตัวในลักษณะที่ต่างกันมากพอสมควร ประเทศขนาดใหญ่ทั้งสาม คือ จีน อินเดีย และอินโดนีเซียจะฟื้นตัวก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกน้อยกว่าที่อื่น เพราะเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ค่อนข้างปิด (ไม่ว่าจะเป็นระบบการเงินเช่นในจีน หรือการค้าเช่นในอินเดียและอินโดนีเซีย) เศรษฐกิจของประเทศทั้งสามเติบโตค่อนข้างแข็งแกร่งต่อเนื่อง (6-9% ก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ) มีตลาดภายในประเทศขนาดใหญ่พอสมควรที่จะรองรับ และมีการตอบสนองที่รวดเร็วและชัดเจนต่อนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนประเทศขนาดเล็กที่มีระบบเศรษฐกิจแบบเปิดเช่นสิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี มาเลเซีย และไต้หวัน ซึ่งได้รับผลกระทบที่รุนแรงเนื่องจากระบบเศรษฐกิจที่เปิด (ทั้งในด้านการค้าและการเงิน) อาจเห็นการฟื้นตัวในระยะแรกที่รวดเร็วเนื่องจากผลของฐานที่สูง (base-effect)

มองไปข้างหน้า ความแตกต่างกันจะเห็นได้ชัดขึ้นจากความสามารถของแต่ละประเทศที่จะใช้ประโยชน์จากความเติบโตของประเทศใหญ่ทั้งสามประเทศ ดังเช่นที่ฮ่องกงได้รับอานิสงส์จากเงินทุนที่ไหลออกจากจีนไปสู่ภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นของฮ่องกง และไต้หวันได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้าไปหลังจากความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบไต้หวันพัฒนาในทางที่ดีขึ้น อีกหนึ่งปัจจัยที่จะสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนคือความสามารถของรัฐบาลในการวางนโยบายทางการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการนำมาตรการเหล่านี้ไปใช้เพื่อชดเชยการหดตัวของการส่งออกและการว่างงาน สิงคโปร์และเกาหลีใต้ ซึ่งการบริหารงานของภาครัฐค่อนข้างมีประสิทธิภาพสูงและสถานะทางการคลังที่แข็งแกร่ง มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จในจุดนี้

อย่างไรก็ดี ทุกประเทศในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งรวมถึงไทยด้วย จะเผชิญกับความท้าทายสองเรื่องในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ 1) สภาวะที่ต้องเลือกระหว่างปัญหาเงินฝืด และราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้การบริหารนโยบายทางการเงินยากขึ้นเป็นพิเศษ 2) การส่งผ่านแรงขับเคลื่อนในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐไปสู่ภาคเอกชน ยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูงในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งเห็นได้จากความต้องการสินเชื่อภาคเอกชนที่ยังอ่อนแอและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ทั้งสองปัจจัยจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวที่ยั่งยืนในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น