จ.ปราจีนบุรีกำหนดจัดงาน “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” 14 พฤศจิกายน 2552

ศุกร์ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๐๐๙ ๑๕:๒๖
นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ได้กล่าวว่า ในโอกาสสำคัญที่ “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” จะเวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 จังหวัดปราจีนบุรีกำหนดจัดพิธีถวายราชสดุดี เนื่องในวัน “พระบิดาแห่งฝนหลวง” ในวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2552 ณ หอประชุมจังหวัดปราจีนบุรี ศูนย์ราชการจังหวัดปราจีนบุรีตั้งแต่เวลา 08.30 น.

วัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุยเดชฯ ในฐานะทรงเป็น “พระบิดาแห่งฝนหลวง” และเผยแพร่พระเกียรติคุณ พระปรีชาสามารถ และพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงริเริ่ม และพัฒนาโครงการพระราชดำริฝนหลวง ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้รู้ถึงความเป็นมาเกี่ยวกับ “วันพระบิดาแห่งฝน"

“ฝนหลวง” เป็นโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในขณะที่ทรงเสด็จเยี่ยมประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 ได้ทรงพบเห็นความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน อันเนื่องมาจากความผันแปรไม่แน่นอนของฝนธรรมชาติทรงวิเคราะห์ว่า “เมื่อมีฝนก็มีมากเกินพอจนเกิดปัญหาน้ำท่วม เมื่อหมดฝนก็เกิดปัญหาภัยแล้งตามมา.....นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของความยากจนของประชาชน.....”(จากพระราชบันทึกเรื่อง “Rainmaking Story” พระราชทานในปี พ.ศ.2543) แนวพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาความผันแปรไม่แน่นอนของฝนธรรมชาติในเวลานั้น อยู่ที่การจัดการทรัพยากรน้ำใน 2 วิธี คือ(1) สร้างเขื่อน (Check dam) และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กตามลาดเขา เพื่อชะลอการไหลบ่าของน้ำจากเขาไม่ให้เข้าท่วมพื้นที่พื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำกินของประชาชน ในขณะเดียวกันเขื่อนและอ่างจะเก็บกักน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งต่อไป (2) หาวิธีการทำฝนเทียม (Rainmaking) เพื่อบังคับเมฆให้ตกเป็นฝนในพื้นที่ที่ต้องการในเรื่องของการทำฝนเทียมหรือฝนหลวงนี้ ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้มีการศึกษา ค้นคว้า วิจัยหากรรมวิธีดัดแปรสภาพอากาศที่เหมาะสมกับประเทศไทย

ในการบังคับให้เกิดฝนตกลงสู่พื้นที่เป้าหมายที่ต้องการน้ำฝน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนอันเนื่องมาจากภัยแล้ง ซึ่งอีก 14 ปีต่อมา (พ.ศ. 2512) จึงได้มีการทดลองทำฝนครั้งแรกขึ้นในประเทศไทย และจากความสำเร็จในชั้นบุกเบิกการทดลองทำฝน ภายใต้การนำของหม่อมราชวงศ์เทพฤทธิ์ เทวกุล ผู้รับสนองพระราชดำริ ระหว่างปี พ.ศ.2512-2514 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงน้อมรับวิธีการทำฝนเทียมมาปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภัยแล้งตามการร้องขอของประชาชนควบคู่ไปกับการพัฒนากรรมวิธีการทำฝนหลวงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๔๒ เฮลท์สเคป (Healthscape)' นำร่องส่ง 'MADE BY SILVER' ชวนสัมผัสผลิตภัณฑ์เพื่อไลฟ์สไตล์สำหรับกลุ่มซิลเวอร์เจน 20 พ.ค. - 2 มิ.ย. 67 ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็ม
๑๔:๐๗ HENG เสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2567 จำนวน 2 ชุด อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.25% และ 5.50% เปิดจองซื้อ 23-24 และ 27 พ.ค. 67 เดินหน้าเสริมแกร่งธุรกิจ
๑๓:๑๕ กลุ่มบริษัทศรีตรัง ลุยติดตั้ง EV Charger ในโรงงานทั่วประเทศ สนับสนุนพนักงานใช้พลังงานสะอาด ร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอกย้ำจุดยืน Green Rubber
๑๓:๒๔ Bitkub Chain และ The Sandbox ร่วมยกระดับวงการ Metaverse ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
๑๓:๔๗ AJA โชว์แกร่ง!! งบโค้งแรกพลิกมีกำไรพุ่งเกือบ 452% ชูกลยุทธ์ปี 67 กระจายลงทุนในธุรกิจหลากหลาย-สร้างฐานการเติบโตยั่งยืน
๑๓:๕๙ KJL โชว์นวัตกรรมในงาน SUBCON Thailand 2024 เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า
๑๓:๐๑ ITEL อวดกำไร Q1/67 โต 113% กำไรสุทธิ 123 ล้านบาท ล่าสุด ก.ล.ต. ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่ง บ.ย่อย BLUE เรียบร้อยแล้ว
๑๓:๒๓ โอยิกะ ผู้นำด้านโซลูชั่นเทคโนโลยีแบตเตอรี่จากสิงคโปร์ ชูนวัตกรรมพลังงานสะอาด มุ่งขยายธุรกิจตู้สลับแบตเตอรี่สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
๑๓:๔๗ ดื่มด่ำกับรสชาติของเนื้อโกเบจากโอซาก้า ที่ห้องอาหารฮากิ เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
๑๓:๕๒ W9 เผยไทยเผชิญฝุ่นพิษล้อมเมืองติดอันดับโลก เปิด 5 กลุ่มเสี่ยงรับฝุ่นพิษ ภัยเงียบสะสม แนะวิธีรับมือเชิงเวลเนส