ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ (ไทย)

จันทร์ ๒๑ ธันวาคม ๒๐๐๙ ๑๗:๒๕
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ (ไทย) (UOBT; ซึ่งก่อนหน้านี้คือธนาคารเอเชีย) ดังต่อไปนี้: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-term Foreign Currency Issuer Default Rating (IDR)) ที่ ‘BBB+’ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F2’ อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวที่ ‘AA+(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ ‘C’ และอันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘2’ ธนาคารมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่งของ UOBT และการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ซึ่งมีอำนาจในการบริหารธนาคาร คือ United Overseas Bank ของสิงคโปร์ (UOB ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศที่ ‘AA-’(AA ลบ)/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) การเปลี่ยนแปลงใดๆในการถือหุ้นของ UOB รวมทั้งข้อผูกพันและการสนับสนุนของ UOB ที่มีต่อ UOBT อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตสากลและอันดับเครดิตภายในประเทศของ UOBT ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงของ Country Ceiling ของประเทศไทยอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ UOBT ได้เช่นกันเนื่องจากอันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศของ UOBT ถูกจำกัดโดย Country Ceiling ผลประกอบการของ UOBT ถูกจำกัดโดยเครือข่ายของธนาคารที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆในประเทศ

ผลประกอบการในปี 2551 ของ UOBT ปรับตัวดีขึ้นโดยมีกำไรสุทธิ 1.4 พันล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิที่ 92 ล้านบาทในปี 2550 เนื่องจากการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง รายได้จากการปล่อยสินเชื่อที่สูงขึ้นและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง อย่างไรก็ตามความสามารถในการทำกำไรของธนาคารยังคงน้อยกว่าธนาคารขนาดใหญ่เนื่องจากส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อและเงินฝากที่เล็กกว่า ในครึ่งปีแรกของปี 2552 ผลประกอบการของ UOBT อยู่ในระดับที่ค่อนข้างอ่อนแอ โดยมีกำไรสุทธิ 394 ล้านบาท (ลดลง 57% จากปีก่อน) เนื่องจากการหดตัวของสินเชื่อและการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้น

คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารปรับตัวดีขึ้นหลังจากการขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวน 11 พันล้านบาทในไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลงเหลือ 7.9 พันล้าน ณ สิ้นปี 2551 (ประมาณ 5% ของสินเชื่อรวม จาก 12% ณ สิ้นปี 2549) อย่างไรก็ตามหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 8.7 พันล้านบาท (6% ของสินเชื่อรวม) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 และยังคงมีความเสี่ยงในการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ยังคงอ่อนแออย่างต่อเนื่อง UOBT มีระดับสำรองหนี้เสียอยู่ที่ 6 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 หรือ 69%ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

การระดมเงินทุนและสภาพคล่องของธนาคารไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เงินฝากมีสัดส่วนประมาณ 90% ของการระดมเงินทุน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 โดยเงินฝากประมาณ 70% มีอายุน้อยกว่า 6 เดือน อัตราส่วนของสินเชื่อต่อเงินฝากยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 90% ในขณะที่อัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อเงินฝากและหนี้สินระยะสั้นอยู่ที่ประมาณ 31% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 เพิ่มขึ้นจาก 23% ณ สิ้นปี 2551

เงินกองทุนของ UOBT อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธนาคารไทย ธนาคารเพิ่งทำการเพิ่มทุนจำนวน 2.2 พันล้านบาทซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 20.37% เพื่อใช้สนับสนุนการขยายธุรกิจในอนาคต และเป็นการจำกัดความเสี่ยงของการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นในระยะยาว เนื่องจากการจำกัดการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นต่างชาติ

UOBT ก่อตั้งในปี 2482 โดยใช้ชื่อธนาคารเอเชีย และ UOB ของสิงคโปร์ได้เข้าซื้อหุ้นของ UOBT ในปี 2547 UOBT เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของประเทศไทยโดยมีสาขา 147 สาขา และมีส่วนแบ่งการตลาด 2% ในระบบสินเชื่อและเงินฝากในประเทศไทย ธนาคารมีจุดแข็งทางด้านการปล่อยสินเชื่อในกลุ่ม SME และรายย่อย ปัจจุบัน UOB ถือหุ้น 99.66% ใน UOBT

ติดต่อ นฤมล ชาญชนะวิวัฒน์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4763/4759

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน