ฟิทช์คงอันดับเครดิตหุ้นกู้ค้ำประกันของบริษัท โฮลซิม แคปปิตอล (ประเทศไทย) และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นมีเสถียรภาพ

จันทร์ ๐๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๐ ๑๗:๐๘
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ค้ำประกัน ของบริษัท โฮลซิม แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ระดับ ‘AA-(tha)’ (AA ลบ (tha)) โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีจำนวนทั้งหมด 2 ชุด ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2553 และปี 2555 มีมูลค่ารวม 4.6 พันล้านบาท ในขณะเดียวกันฟิทช์ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตหุ้นกู้ค้ำประกันดังกล่าว เป็นมีเสถียรภาพจากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ เนื่องจากการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ Holcim Ltd. (Holcim) ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันของหุ้นกู้ดังกล่าว จากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบเป็นมีเสถียรภาพ (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากความเห็นของฟิทช์หัวข้อ “Fitch Revises Holcim’s Outlook to Stable; Affirms IDR at ‘BBB’” ลงวันที่ 29 มกราคม 2553) อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ของ บริษัท โฮลซิม แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด สะท้อนถึงการค้ำประกันในลักษณะไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้จาก Holcim โดยปัจจุบัน Holcim ได้รับการจัดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (International Foreign Currency Issuer Default Rating) ที่ ‘BBB’

การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ Holcim สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ที่คาดว่าสถานะทางการเงินของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นตามลำดับในช่วง 24 เดือนข้างหน้า ซึ่งทำให้อัตราส่วนทางการเงินของบริษัทสอดคล้องกับอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศที่ ‘BBB’ มากขึ้น ภาวะอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างในตลาดของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะในยุโรปตะวันตก ยังคงมีความท้าทายอยู่ ในขณะที่ตลาดวัสดุก่อสร้างในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาน่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ฟิทช์คาดว่าการที่บริษัทมีการปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การลดลงของเงินลงทุนหลังจากบริษัทเสร็จสิ้นการลงทุนในโครงการใหญ่ และนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ลดลง จะส่งผลในแง่บวกต่อกระแสเงินสดสุทธิของบริษัท และทำให้อัตราส่วนทางการเงินของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเร็วกว่าที่ฟิทช์เคยคาดการณ์เอาไว้

ฟิทช์กล่าวว่าการปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตสากลของ Holcim และของประเทศไทยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้มีประกันดังกล่าวได้ โดยที่การปรับแปลี่ยนอันดับเครดิตสากลหนึ่งอันดับ อาจนำไปสู่การปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตภายในประเทศมากกว่าหนึ่งอันดับได้

หลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตหาได้ที่ www.fitchratings.com ในการจัดอันดับเครดิตของตราสารนี้ ฟิทช์ได้ใช้หลักเกณฑ์ตาม Corporate Rating Methodology ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552

ติดต่อ: โอบบุญ ถิรจิต, พิมรำไพ ปันยารชุน, Vincent Milton, +662 655 4755

Elisabetta Zorzi, Milan, +39 02 8790 87213

หมายเหตุ: การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้

ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน