นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๒๕ กำหนดให้วันที่ ๑๓ เมษายน ของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และแต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ดำเนินการจัดงานมาตั้งแต่ปี ๒๕๒๖เป็นต้นมา สำหรับในปีนี้ คณะอนุกรรมการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ได้กำหนดให้ตลอดทั้งเดือนเมษายน เป็นเดือนแห่งการจัดกิจกรรมเนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติประจำปี ๒๕๕๓ โดยกำหนดจัดพิธีเปิดงานในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ ณ สโมสรทหารบก โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และได้รณรงค์เชิญชวนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ภาคประชาชนทั่วประเทศ จัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด “พลังผู้สูงวัย สร้างสังคมไทยรู้รักสามัคคี” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติคุณผู้สูงอายุที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมมายาวนาน และสร้างความตระหนักแก่คนในสังคมได้เห็นคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีศักดิ์ศรี มีภูมิปัญญา มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ที่ถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นหลัง เป็นเสาหลักของครอบครัว และอบรมสั่งสอนบุตรหลานเป็นคนดีของสังคม รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ใช้พลังความสามารถของตนทำประโยชน์ให้แก่สังคม
นายอิสสระ กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้ ได้สนับสนุนให้หน่วยงานของภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น ชุมชนและครอบครัว เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งกิจกรรมที่เน้นการอนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีไทย และกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้ผู้สูงอายุเป็นศูนย์กลาง เช่น การยกย่องเชิดชูคูณค่าผู้สูงอายุ การแสดงความกตัญญูกตเวที การถ่ายทอดภูมิปัญญาความรู้และประสบการณ์ กิจกรรมอาสาสมัครและการเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้สูงอายุ การมอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดสุนทรพจน์/ เรียงความ/ภาพยนตร์สั้นและวีดิโอคลิป ในหัวข้อ “พลังผู้สูงวัย สร้างสังคมไทยรู้รักสามัคคี” การมอบรางวัลแก่ผู้สูงอายุภูมิปัญญา และองค์กรที่สร้างสิ่งประดิษฐ์สำหรับผู้สูงอายุดีเด่น การโต้วาทีคำกลอนของผู้สูงอายุ การแสดงดนตรีไทยจากชมรมผู้สูงอายุบ้านบางแค การแสดงนิทรรศการผลงานด้านผู้สูงอายุ การตรวจสุขภาพ การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้สูงอายุ ตลอดจนกิจกรรมนันทนาการตลอดทั้งวัน พร้อมกันนี้ได้ประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัลให้แก่ผู้สูงอายุแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๕๓ คือ ศาสตราจารย์ระพี สาคริก ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่ทำให้เปลี่ยนจุดศูนย์กลางของกล้วยไม้มาสู่ประเทศไทย และมีผลงานที่สร้างคุณค่า เป็นประโยชน์อย่างมากต่อสังคมโดยรวม โดยเฉพาะวงการกล้วยไม้ จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น บิดาแห่งกล้วยไม้ไทย