เอ330-300 ลำดังกล่าวสามารถรองรับผู้โดยสารได้ ถึง 283 ที่นั่งในสองระดับชั้นและจะกลายเป็นฝูงบินหลักของสายการบินในการให้บริการในเส้นทางการบินพิสัยกลางทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ตลอดจนภูมิภาคตะวันออกกลาง สำหรับตลาดเครื่องบินขนส่งสินค้านั้น MASkargo สามารถทำการบินได้ไกลถึง 3200 ไมล์ทะเล โดยมีน้ำหนักบรรทุกได้ถึงเกือบ 70 ตัน
"แอร์บัสเอ 330 อยู่ในแผนการณ์ปรับปรุงฝูงบินของเราให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักที่เพิมขึ้นจะช่วยทำให้เราสามารถขยายเส้นทางการบินและเปิดเส้นทางการบินใหม่ๆ โดยแผนของเราเป็นการเน้นการลงทุนในบุคคล ระบบ ตลอดจนโครงสร้าง และ Positioning ที่จะช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนการเจริญเติบโต” กล่าวโดย กรรมการผู้จัดการใหญ่สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ อัสมิล ซาห์รัดดิน
"คำสั่งซื้อล่าสุดของมาเลเซีย แอร์ไลนส์เป็นการเน้นย้ำให้เห็นสถานะอันสำคัญของเครื่องบินตระกูล เอ330 ในสถานะเครื่องบินที่ทรงประสิทธิภาพและความหลากหลายของตัวผลิตภัณฑ์ของเรา” กล่าวโดย จอห์น เลสลีย์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าของแอร์บัส" นอกจากนั้นยังเป็นการแสดงถึงความมั่นใจและต้นทุนการปฏิบัติการที่ต่ำสำหรับเครืองบินลำเลียงผู้โดยสาร MAS group จะเป็นหนึ่งในสายการบินแรกๆที่จะได้สัมผัสเครื่องบินทรงประสิทธิภาพรุ่นใหม่อย่าง เอ330-200เอฟ "
มาเลเซีย แอร์ไลนส์เป็นหนึ่งในลูกค้าอันมีความสัมพันธ์อันดีกับแอร์บัสมาอย่างยาวนาน โดยปัจจุบันมีเครื่องบินแอร์บัส เอ330 จำนวน 14 ลำ โดยเป็นแอร์บัส เอ330 จำนวน 11 ลำ และ เอ330-200 อีก 3 ลำนอกจากคำสั่งซื้อ เอ330ล่าสุด สายการบินยังทำการสั่งซื้อเอ380 อีกจำนวน 6 ลำ สำหรับการดำเนินการในอนาคตในเส้นทางการบินระยะไกล
เครื่องบินสองเครื่องยนต์อย่าง เอ330 เป็นหนึ่งในเครื่องบินลำตัวกว้างที่เป็นที่นิยมที่สุดในปัจจุบัน ในวันนี้ แอร์บัสได้รับคำสั่งซื้อกว่าอีก 1000 ลำในหลากหลายรุ่น โดยมีเครื่องบินแอร์บัส เอ330 แล้วกว่า 650 ลำ ที่ได้รับการส่งมอบและให้บริการกว่า 80 สายการบินทั่วโลก นอกจากนั้น เอ330-200เอฟ ยังมีกระบวนการที่ก้าวหน้าและจะนำให้ออกให้บริการแก่สาธารณชนในปีนี้
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ:
เดชาวุธ วุฒิศิลป์ + 66 2 260 5820 ต่อ 120