ทีพีซี กำไรเพิ่มขึ้น 141% จ่ายปันผล 2 บาท ตั้งเป้าปี 48 เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รักษาความเป็นผู้นำตลาด

อังคาร ๐๕ เมษายน ๒๐๐๕ ๑๐:๓๓
กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
นายเทพ วงษ์วานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีซี เปิดเผยว่า ในปี 2547 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ เพราะสามารถทำยอดขายรวมได้ถึง 23,451 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 29
ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นผลมาจากราคาขายพีวีซีที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของราคาขายพีวีซีเกิดจากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นและปริมาณการผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ รวมทั้งยังมีผลมาจากความต้องการใช้พีวีซีในตลาดโลกซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เนื่องจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากเศรษฐกิจโลก
ขณะเดียวกัน การขยายกำลังผลิตและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์พีวีซีและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องของกลุ่ม เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ได้แก่ สินค้าท่อพีวีซี และสินค้าสำเร็จรูปที่เป็นวัสดุก่อสร้างที่ทำจากพีวีซี เช่น ประตู หน้าต่าง ซึ่งสูงขึ้นตามการขยายตัวของการก่อสร้างภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิและโครงการสร้างระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ของภาครัฐ
ส่วนตลาดต่างประเทศที่บริษัทฯ ส่งออกก็ยังคงมีความต้องการพีวีซีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ของโลก จึงทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตและขายได้เต็มกำลังผลิตตลอดปี 2547
ปี 2547 นับเป็นปีที่สามติดต่อกัน ซึ่งบริษัทฯ สามารถสร้างผลกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น การบริหารด้านต้นทุนวัตถุดิบและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ได้ผล ทำให้มีกำไรสุทธิสูงถึง 3,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 141 (กำไรสุทธิปี 2546 เท่ากับ 1,306 ล้านบาท)
จากผลกำไรที่สูง คณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้พิจารณาจัดสรรเงินกำไรและจ่ายเงินปันผล ประจำปี 2547 ในอัตราหุ้นละ 2 บาท โดยได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 มีนาคม 2548 โดยเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2547 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท (เมื่อเทียบกับราคาที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท) ส่วนเงินปันผลอีก 1.70 บาท จะจ่ายในวันที่ 22 เมษายน 2548 คิดเป็น Dividend Yield ร้อยละ 10 (เทียบที่ราคาหุ้นในตลาด 20.00 บาทต่อหุ้น) และ Dividend Payout Ratio จะเท่ากับร้อยละ 56
นายเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการสร้างผลกำไรที่สูงแล้ว ในปี 2547 บริษัทฯ ยังมีผลงานที่สำคัญ เช่น การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ผลิตได้อย่างต่อเนื่องและเต็มกำลังการผลิต เป็นผลให้ผลผลิตโดยรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 10 นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนในอุตสาหกรรมต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรและสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจ รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้เหมาะกับการใช้งานและทดแทนวัสดุธรรมชาติ และลงทุนในเครื่องมืออุปกรณ์ในการผลิตและทดสอบที่ทันสมัย ทางด้านการเงิน บริษัทฯ ได้ลดจำนวนยอดเงินกู้และภาระดอกเบี้ยจ่าย และยังลดความเสี่ยงและต้นทุนทางการเงินจากการใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ
สำหรับแผนงานในปี 2548 นายเทพ กล่าวว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะรักษาความเป็นผู้นำตลาดในประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่องและเต็มกำลังการผลิต รวมทั้งจัดหาวัตถุดิบให้มีความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๖ กทม. ประเมินผล Lane Block จัดระเบียบจราจรหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ พบรถแท็กซี่-สามล้อเครื่องจอดแช่ลดลง
๑๗:๐๓ สมาคมประกันวินาศภัยไทย Kickoff การใช้ข้อมูล Non-Life IBS พร้อมส่งมอบรายงานข้อมูลสถิติในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยของประเทศ
๑๗:๓๖ 3 โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ ซื้อ SAV เคาะราคาเป้า 24-25 บาท/หุ้น คาดกำไร Q1/67 ทุบสถิติออลไทม์ไฮ รับปริมาณเที่ยวบินเพิ่ม เก็งผลงานทั้งปีโตเด่น
๑๗:๐๓ Minto Thailand คว้ารางวัล Best Official Account จาก LINE Thailand Award 2023
๑๗:๒๔ กทม. ตรวจสอบความปลอดภัยอาคาร ป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ เตรียมพร้อมหน่วยเบสท์รองรับพายุฤดูร้อน
๑๗:๓๒ ไขข้อสงสัย.เมื่อซื้อแผงโซล่าเซลล์แล้วจะขนย้ายกลับอย่างไรให้ปลอดภัย โดย เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย)
๑๖:๔๕ ไทเชฟ ออกบูธงาน FHA Food Beverage 2024 ที่สิงคโปร์
๑๖:๕๓ เนื่องในวันธาลัสซีเมียโลก มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคธาลัสซีเมียในประเทศไทย
๑๖:๓๕ EGCO Group จัดพิธีเปิดโรงไฟฟ้า EGCO Cogeneration (ส่วนขยาย) อย่างเป็นทางการ
๑๖:๒๖ เพลิดเพลินไปกับเมนูพิเศษประจำฤดูกาล: อาหารจากแคว้นซิซิลี ประเทศอิตาลี ที่ โวลติ ทัสคาน กริลล์ แอนด์ บาร์ โรงแรมแชงกรี-ลา