สภากทม. แนะเพิ่มคู่สายรับร้องทุกข์และการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ส.ก. และ ส.ข มากขึ้น

พฤหัส ๒๔ มิถุนายน ๒๐๑๐ ๑๖:๑๐
คกก. พิจารณางบปี 54 เสนอเพิ่มจำนวนคู่สาย 1555 และกำชับเจ้าหน้าที่ห้ามเปิดเผยชื่อผู้ร้องเรียน พร้อมแนะวางแผนรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ส.ก. และ ส.ข. เน้นให้ประชาชนเห็นถึงประโยชน์และผลเสียหากไม่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง

นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางรัก เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เพื่อประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ของสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร โดยมีนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสำนัก ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 3-6 สภากรุงเทพมหานคร

เสนอเพิ่มจำนวนคู่สาย 1555 และกำชับเจ้าหน้าที่ห้ามเปิดเผยชื่อผู้ร้องเรียน

ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการฯ ไม่มีการเสนอขอตัดรายการที่สำนักปลัดกรุงเทพมหานครเสนอขอมาแต่อย่างใด มีเพียงบางหน่วยงานที่ได้รับการเสนอแนะให้แยกหมวดรายการที่เสนอขอมาให้ชัดเจน รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา พร้อมกันนี้คณะกรรมการได้ตั้งข้อสังเกตหน่วยงานกองกลาง สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ควรดำเนินการเพิ่มจำนวนคู่สายรับเรื่องร้องทุกข์ สายด่วนกทม. โทร. 1555 เนื่องจากพบว่าให้บริการที่ผ่านมายังประสบปัญหาและอุปสรรค ยังไม่ได้รับความพึงพอใจจากประชาชนในการให้บริการเท่าที่ควร เช่น ต้องรอสายเป็นเวลานานหรือแก้ไขปัญหาไม่ทันกับความต้องการ รวมทั้งทำการฝึกอบรมและทำความเข้าใจในหลักการปฏิบัติงาน ที่สำคัญไม่ควรเปิดเผยชื่อและที่อยู่ของผู้ร้องเรียน ซึ่งจะทำให้ประชาชนรู้สึกไม่รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

แนะวางแผนรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ส.ก.และ ส.ข.

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เสนอแนะหน่วยงานกองประชาสัมพันธ์ ควรวางแผนการรณรงค์และกำหนดแผนประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภาเขต ซึ่งจะครบวาระในวันที่ 22 ก.ค. 53 เพื่อทำความเข้าใจให้กับผู้มาใช้สิทธิ อีกทั้งควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงหน้าที่และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากขึ้น

ในส่วนของสำนักงานปกครองและทะเบียนควรประชุมเตรียมการเลือกตั้งร่วมกับผู้เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกกับประชาชน นอกจากนี้ในส่วนบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดในขณะนี้พบว่ามีไม่เพียงพอ โดยฝ่ายทะเบียนสำนักงานเขตทำการออกบัตรเหลืองแทนบัตรสมาร์การ์ดให้กับประชาชน ซึ่งสามารถใช้แทนบัตรจริงได้ จำนวน 120 วัน นับจากวันออกบัตร ทั้งนี้ผู้บริหารควรประสานไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อรับบัตรสมาร์ทการ์ดในการนำมาให้บริการประชาชน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๒ คณะ กิจกรรม วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงาน
๑๖:๐๖ กรุงศรีออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือนตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย
๑๖:๒๙ Lexar Professional CFexpress 4.0 Type B Card DIAMOND คว้ารางวัล BEST STORAGE MEDIA ในงาน TIPA WORLD AWARDS
๑๖:๔๔ ฟอร์ติเน็ต ร่วมมือ สกมช. คัดเลือก-ฝึกอบรมเสริมทักษะบุคลากรคลาวด์ เล็งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เสริมความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์ทุกรูปแบบ
๑๖:๒๙ ไอ-เทล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก แข็งแกร่งด้วย รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93 เปอร์เซ็นต์ มุ่งการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี
๑๖:๒๒ หมอแม็ค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของไทย
๑๖:๐๗ ทรูเวฟ (ประเทศไทย) เปิดตัว GreenFarm.AI ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะทำให้สวนเติบโตสวยและยั่งยืนได้ดั่งใจ
๑๖:๕๐ ไบเทคบุรี เมกะโปรเจกต์ของภิรัชบุรี กรุ๊ป พลิกโฉม ไบเทค บางนา ก้าวข้ามอุตสาหกรรม MICE สู่สถานที่แห่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร
๑๖:๕๒ ดีมันนี่ ตอกย้ำความสำเร็จในงาน Money 20/20 Asia ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน โอนเงินไปต่างประเทศชั้นนำในวงการฟินเทคไทย
๑๖:๕๔ สบยช. ยืนยัน ชาเม่ คอลลาเจน ไม่มีสารเสพติด