ธนาคารของรัฐร่วมมือด้านบรรษัทภิบาล

ศุกร์ ๐๒ กรกฎาคม ๒๐๑๐ ๑๒:๕๕
ธนาคารของรัฐ 7 แห่ง ประสานความร่วมมือเรื่องบรรษัทภิบาล สร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน พร้อมแสดงพลังสร้างสังคมธรรมาภิบาล (CG Society) ให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม

ในวันนี้ (2 กรกฎาคม 2553) ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เป็นประธาน ในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือด้านบรรษัทภิบาล ระหว่างธนาคารของรัฐ 7 แห่ง โดยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ นายธีระศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และนายสุธนัย ประเสริฐสรรพ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ได้ร่วมลงนาม ที่โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ

ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันหน่วยงานต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสำคัญเรื่องการบริหารงานโดยยึดหลักบรรษัทภิบาลมากขึ้น ประกอบกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ได้กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ โดยต้องยึดหลักบรรษัทภิบาลหรือการกำกับดูแลกิจการที่ดี เคร่งครัดในเรื่องจริยธรรม ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อแสดงให้เห็นถึงการมีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจต่อผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน ผู้มีส่วนได้เสีย และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

“การดำเนินการและการปฏิบัติเรื่องบรรษัทภิบาล คณะกรรมการต้องมีส่วนร่วมผลักดันนโยบาย ผู้บริหารระดับสูงต้องให้การสนับสนุน และพนักงานทุกคนต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง การประสานความร่วมมือในครั้งนี้ จึงเป็นการส่งเสริมการปฏิบัติตามนโยบายด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีระหว่างธนาคารของรัฐ เพื่อสร้างเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การดำเนินงานด้านบรรษัทภิบาล รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นและประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง (Stakeholders) ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่จะช่วยสร้างสังคมธรรมาภิบาล (CG Society) ให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ทุกธนาคารประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากหน่วยงานภายนอก”

ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันธนาคารของรัฐทั้ง 7 แห่ง มีสาขารวมกัน 2,802 สาขา และมีพนักงานรวมทั้งสิ้น 50,477 คน แสดงให้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ในการดำเนินการครั้งนี้ หากพนักงานของทุกองค์กรมีความรับผิดชอบในการทำงาน ซื่อสัตย์ โปร่งใสในการบริหารงาน จะสามารถนำพาให้องค์กรเจริญก้าวหน้า ช่วยฟื้นฟูและขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ พัฒนาสังคมไทยให้มีความมั่นคงเจริญก้าวหน้าต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4