หอฯตากจี้“อภิสิทธิ์”เร่งเขตศก.พิเศษ เตรียมเสนอ2กม.ตัดสินใจตั้งองค์กร

อังคาร ๒๗ กรกฎาคม ๒๐๑๐ ๑๖:๔๓
ภาคเอกชนจี้รัฐบาล งัด พ.ร.บ. จัดตั้งองค์การของรัฐบาล พ.ศ.2496 มาจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด รองรับค้าชายแดนที่โตขึ้น 30% พร้อมให้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมปลอดภาระภาษี แจงเเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ ผลักดัน “ตาก” เป็น “สี่แยกอินโดจีน” เต็มรูปแบบ

นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เปิดเผยว่า การค้าชายแดนไทย-พม่าช่วง 5 ปีหลังมีอัตราการเจริญเติบโตมากขึ้น โดยในปี 2533 จะมีมูลค่าการค้าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 30% เชื่อว่าหลังสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 ก่อสร้างเสร็จ การค้าจะคึกคักมากยิ่งขึ้น รัฐบาลจึงควรเร่งจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นมารองรับ ทำให้จังหวัดตากเป็นสี่แยกอินโดจีนเต็มรูปแบบ เชื่อมโยงกับการค้าชายแดนด้านลาว เขมร และมาเลเซีย รวมทั้งควรให้มีการจัดตั้งเขตประกอบการอุตสาหกรรมปลอดภาระภาษีขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย

นายปณิธิ ตั้งผาติ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า เหตุที่ต้องผลักดันให้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้น เพราะจะสามารถคอยกักเก็บสินค้าจากพม่าเข้ามายังไทย โดยเฉพาะสินค้าการเกษตร เช่น ผัก ผลไม้ และข้าวโพด เพื่อไม่ให้สินค้าเหล่านั้นมาปะปนกับสินค้าเกษตรของไทย จากนั้น

ก็สามารถส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ได้ เป็นการขจัดปัญหาผลกระทบต่อเกษตรกรไทยเหมือนอย่างที่ผ่านมา ทั้งยังช่วยบรรเทาเรื่องแรงงานพม่าหลบหนีเข้าประเทศ โดยให้แรงงานพม่าทำงานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจทดแทน หรือในเรื่องของสิ่งแวดล้อม และแม้แต่ปัญหาระบบภาษี ซึ่งพื้นที่นี้จะถือเป็น Gate way ของทั่วโลก

ด้าน นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ เลขาธิการหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า ภาคเอกชนได้เสนอให้กฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการตัดตั้งองค์การของรัฐบาล พ.ศ.2496 และ พ.ร.บ.องค์การมหาชน พ.ศ.2542 ซึ่งรัฐบาลสามารถเลือกมาดำเนินการบริการเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ แต่ภาคเอกชนมองว่าการนำ

พ.ร.บ. จัดตั้งองค์การของรัฐบาล พ.ศ.2496 น่าจะเหมาะสมกว่า เพราะเป็นการจัดตั้งองค์กรขึ้นมาบริหารงานเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนจนไม่เป็นเอกภาพและไร้ประสิทธิภาพ นอกจากนี้สามารถลงทุนหรือดำเนินการในกิจการที่แสวงหาผลกำไรได้ด้วย ในขณะที่ พ.ร.บ.องค์การมหาชน พ.ศ.2542 ไม่สามารถกระทำได้

นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งเขตประกอบการอุตสาหกรรมปลอดภาระภาษี โดยนำ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 และพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาใช้ประกอบกันในการจัดตั้ง หรืออีกแนวทางหนึ่งคือ การนำพระราชบัญญัตินิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522มาใช้ ทั้งนี้แล้วแต่รัฐบาลจะพิจารณาตามความเหมาะสม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-5285151 ทิพวรรณ์ ไชมะโย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๓๑ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) จัดประชุมสามัญประจำปี 2568
๐๙:๕๓ อาการดวงตาที่เป็นสัญญาณเตือน.ต้องรีบมาพบแพทย์
๐๙:๐๑ วัตสัน ประเทศไทย เผยทิศทางธุรกิจปี 2568 ชู 6 กลยุทธ์ภายใต้แนวคิด Health is Beauty, Beauty is Health
๐๙:๔๐ ทำไมกราโนล่าถึงเป็นมื้อเช้าและอาหารว่างยอดฮิต ร่วมหาคำตอบกับ เนเจอร์ เซ็นเซชั่น
๐๙:๑๙ ชีววิทยา ม.พะเยา สุดเจ๋ง! คว้า 1 ใน 5 ทีม นวัตกรรมสร้างสุข ได้รับเงินต่อยอดจาก NIA
๐๙:๑๑ โอซีซี จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 31
๐๙:๒๓ กทม. เข้มมาตรการความปลอดภัยโรงเรียนในสังกัด รองรับเปิดภาคเรียนที่ 1 ปี 68
๐๘:๕๘ ส่องไฮไลท์เด็ด Insta360 X5 กล้องแอคชันสุดครบครัน พร้อมลุยทุกเวลา ไม่พลาดทุกโมเมนต์ ความชัดระดับ 8K ที่จะเปลี่ยนทุกคนให้กลายเป็นครีเอเตอร์มือโปร
๐๘:๑๖ ชาดาสุวรรณ์ สมุนไพรไทยแท้กว่า 30 ชนิด พร้อมให้บริการทั้งปลีก-ส่ง และรับผลิตแบรนด์ตามสั่ง
๐๙:๔๖ แว่นท็อปเจริญ นำทีมหมอสายตาลงพื้นที่ทำกิจกรรม CSR ตรวจวัดสายตาและตัดแว่นใหม่ ถวายแด่คณะสงฆ์ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร