นายวิทวัส เลาหพูนรังษี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอริท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความผันผวนตลอดเวลา ผู้ประกอบการเผชิญความไม่แน่นอนทั้งเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกและภายในประเทศ สถานการณ์ทางการเมือง ที่ล้วนส่งผลต่อการลงทุน การตลาด การขาย ผลกำไร และในปีที่ผ่านมาโลกต้องประสบภาวะเศรษฐกิจไม่สู้ดี บวกกับผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในสถานการณ์การเมืองภายในประเทศด้วย ธุรกิจหลายประเภทยังค่อนข้างนิ่ง ซึ่งปี2553 นี้ในช่วงครึ่งปีหลังภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มที่ดีและเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ไม่ถึงกับก้าวกระโดดซึ่งผู้ประกอบการเองก็ต้องยอมรับต้นทุนที่มีการปรับตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น บริษัทจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือและวางแผนดำเนินการ พร้อมทั้งกลยุทธ์ใหม่ๆตลอดเวลา และต้องมีการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและปัจจัยอื่นๆเพิ่มเติมมากขึ้น กล่าวได้ว่าต้องทำงานมากขึ้นเพื่อให้ทุกอย่างก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง
“จากวิกฤตที่เกิดขึ้นอันดับแรกคือเราต้องเรียนรู้และศึกษาสิ่งใหม่ๆเพิ่มเติม นอกเหนือจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์รูปแบบของบ้านใหม่ๆ เพื่อให้ตรงใจกลุ่มลูกค้าบริเวณโซนนั้นๆ ที่อาจต้องการที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ การใส่ใจในความพร้อมสรรพ ความปลอดภัยของโครงการที่ต้องครบครัน รวมถึงความสะดวกสบายในการเดินทางทั้งรถส่วนตัวและระบบขนส่งมวลชน ดังนั้นเราจึงได้วางแผนและสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดในเชิงรุกช่วงครึ่งปีหลังอย่างเข้มข้น จากเดิมที่ทำการตลาดเฉพาะ Below the Line เราก็มารุกในส่วนของ Above the Line เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการที่เรามีโครงการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นทำเลดี ราคาที่เหมาะสม รูปแบบสวยงาม และเลือกสรรวัสดุคุณภาพที่ดี ดังนั้นการขายสินค้าที่ดีไม่ใช่สิ่งที่ยาก” นายวิทวัสกล่าว
สำหรับโครงการที่กำลังเปิดขายในปัจจุบัน บริษัทวางแผนจัดอีเว้นท์เชิญลูกค้าเยี่ยมชมโครงการ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายภายใน 2 เดือนนี้ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ 200 ล้านบาท คือรายการส่งเสริมการขายที่เป็น Big Campaign , Big Promotion , Big Event จัดอีเว้นท์ พร้อมข้อเสนอพิเศษ “บ้านพร้อมอยู่ รถพร้อมแจก”
ทั้งนี้ยังร่วมกับธนาคารกรุงไทยอนุมัติวงเงินกู้ด่วน 3 วันลูกค้าสามารถทราบผลอนุมัติเบื้องต้นทันทีได้ทันที กู้ 100 % แถมอยู่ฟรี 3 เดือน ปลอดเงินต้น-ดอกเบี้ย โดยเสนอให้ถึง 4 โครงการพร้อมกัน อาทิ โครงการเมอริทเพลส ลาดพร้าว ทาวน์โฮมหรูแบบโมเดิร์น ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเฟสที่ 1 จำนวน 170 ยูนิต เฟสที่ 2 จำนวน 83 ยูนิต และเฟสที่ 3 อีกจำนวน 50 ยูนิต รวมทั้งสิ้น 303 ยูนิต ซึ่งคาดว่าจะมีการปิดการขายเฟส 2 ภายในเดือนนี้ , โครงการเมอริท แกรนด์ สุวรรณภูมิ บ้านแฝด 3 รูปแบบ ในฟังก์ชั่นสไตล์บ้านเดี่ยว ราคาเพียง 2.78 ล้านบาท จำนวน 147 ยูนิต ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดการขายภายในสิ้นปีนี้ , โครงการเมอริท แกรนด์ ดอนเมือง ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์น ราคาเริ่มต้น 1.45 ล้านบาท จำนวน 231 ยูนิต ซึ่งมียอดขายแล้ว192 ยูนิต คงเหลือเพียง 39 ยูนิต เท่านั้น และสุดท้าย โครงการอารีน่า การ์เด้น บางนา บ้านเดี่ยวสไตล์ไทยร่วมสมัย ราคาเพียง 3.2 ล้านบาท จำนวน 188 ยูนิต ซึ่งมียอดขายแล้วกว่า 100 ยูนิต
ทั้งนี้ได้คาดการณ์อัตราการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตไว้ว่าหากเมื่อไหร่ที่โครงสร้างของประชากรในเขตเมืองยังคงเติบโตและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตลาดที่อยู่อาศัยยังคงเป็นเรื่องที่จำเป็นและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอด ซึ่งนั่นก็หมายถึงบริษัทฯเองก็จะมีการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจให้ตรงกับความต้องการของตลาดโดยการเพิ่มเทคโนโลยีทางการก่อสร้าง พันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าได้ผลประโยชน์สูงสุด แต่ทั้งนี้ก็ต้องศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคซึ่งถือว่าเป็นตัวแปรหลักในการขับเคลื่อนและสานต่อในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ทีมงานประชาสัมพันธ์
บริษัท พีแอลเอ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด โทร. 02-5423651-2