กทม. จับมือ สปสช. เชื่อมโยงข้อมูลประกันสุขภาพ เชื่อมต่อบริการการแพทย์รวดเร็วยิ่งขึ้น

อังคาร ๒๘ กันยายน ๒๐๑๐ ๑๑:๑๓
กทม. — สปสช. เดินหน้าให้บริการประกันสุขภาพเชิงรุกยุคไอที เชื่อมโยงฐานข้อมูลผู้ประกันตนและสถานพยาบาลผ่านบัตรสมาร์ทการ์ด หรือคีย์เลขประจำตัว 13 หลัก ให้ง่ายต่อการตรวจสอบและยืนยันสิทธิ ลดเวลาบันทึกประวัติ เข้าถึงแพทย์ได้รวดเร็ว การเบิกจ่ายตามสิทธิได้ถูกต้องและคล่องตัว

นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร และนายวินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวและลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลสิทธิการรับบริการด้านสุขภาพระหว่างกรุงเทพมหานคร และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อบูรณาการข้อมูลสิทธิประกันสุขภาพของผู้รับบริการด้านสาธารณสุขจากสถานพยาบาลของกรุงเทพมหานคร กับฐานข้อมูลกลางด้านสิทธิประกันสุขภาพของ สปสช. ผ่านระบบเครือข่ายสารสนเทศ ซึ่งจะช่วยให้การตรวจสอบและยืนยันสิทธิประกันสุขภาพจากทุกกองทุนของผู้รับบริการและครอบครัว เป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว

สำหรับสาระสำคัญในบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลสิทธิการรับบริการด้านสุขภาพ ระหว่าง กทม. และ สปสช. อาทิ การเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อตรวจสอบสิทธิประกันสุขภาพของผู้รับบริการด้านสาธารณสุขจากหน่วยบริการสุขภาพของกทม. กับฐานข้อมูลกลางด้านสิทธิประกันสุขภาพของ สปสช.ผ่านเว็บเซอร์วิส (web service) เพื่อให้เกิดช่องทางในการเบิกจ่ายตามสิทธิได้ถูกต้องและสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งร่วมกันพัฒนาระบบประมวลผลผ่านเครือข่ายสื่อสารข้อมูลให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงาน พร้อมทั้งได้กำหนดให้มีผู้ประสานระหว่างสองหน่วยงาน ได้แก่ เลขาธิการ สปสช. หรือผู้แทน และในส่วนของกทม.มีจำนวน 5 คน ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักการคลังหรือผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผลหรือผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักอนามัยหรือผู้แทน และผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียนหรือผู้แทน เป็นผู้ประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง

ปลัดกทม. กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมีประชาชนเข้ารับบริการในโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุขสังกัดกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก โดยในปีงบประมาณ 2552 มีจำนวนผู้เข้ารับบริการกว่า 4.7 ล้านคน ซึ่งจากการลงนามบันทึกความร่วมมือนี้จะช่วยลดระยะเวลาที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลประวัติเบื้องต้นของผู้รับบริการเมื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาลทั่วประเทศ อาทิ ข้อมูลหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ ที่อยู่ สัญชาติ และสิทธิการประกันสุขภาพ โดยใช้เพียงบัตรประชาชนเอนกประสงค์ (smart card) หรือเลขประจำตัว 13 หลัก เพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลที่ถูกต้องก่อนส่งเข้ารับบริการทางการแพทย์โดยไม่ต้องทำการบันทึกข้อมูลใหม่ ซึ่งจะทำให้ฐานข้อมูลของผู้รับบริการมีความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนและบริหารจัดการงบประมาณการใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลในอนาคต ให้ครอบคลุม ทั่วถึง และเท่าเทียม สำหรับประชาชนโดยรวม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน