ระบบ Trellis dynamic infrastructure optimization platform เป็นตระกูลของฮาร์ดแวร์, ซอฟท์แวร์และการบริการที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอนรับความต้องการของลูกค้าในการเป็นศูนย์รวมข้อมูลสำหรับการบริหาร Data Center เพื่อให้ผู้บริหารสามารถทำการตัดใจได้อย่างถูกต้องเมื่อต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพ, เสถียรภาพและความจุของระบบ
“การทำ Virtualization นำมาซึ่งความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการบริหาร Data Center แต่ยังคงนำมาซึ่งความซับซ้อนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ” Hassell กล่าว ทั้งนี้ Hassel เคยเป็น CIO ของ Emerson เมื่อบริษัททำการก่อสร้าง Leed Gold Data Center ที่มีเนื้อที่ 35,000 ตารางฟุต โดยทำให้เขาได้รับประสบการณ์เมื่อจะต้องเจอความท้าทายต่างๆแม่ว่าจะเป็น Data Center ชั้นยอดก็ตาม “องค์กรในวันนี้ยังขาดวิสัยทัศน์ในเรื่องผลกระทบของการทำ Virtualization และการนำระบบเซิร์ฟเวอร์ที่มีความหนาแน่นไปประยุกต์ใช้บนโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพอยู่ ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถเรียกใช้ศักยภาพที่สูงสุดของอุปกรณ์ต่างๆได้ เราจึงตั้งใจที่จะนำมาซึ่งเครื่องมือในการบริหารที่สามารถให้คุณมองเห็นการเปลี่ยนแปลงและดึงศักยภาพสูงสุดของโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพออกมาได้
ในปัจจุบัน ผู้บริหารจะทำการสำรองพลังงานระบบไว้ 20 เปอร์เซนต์โดยทั่วไปเพื่อป้องกันการ Overload ซึ่งสิ่งนี้ได้กลายมาเป็นวิธีปฏิบัติโดยมาตรฐาน เนื่องจากพวกเขายังขาดระบบที่สามารถเฝ้ามองความเป็นไปของการปฏิบัติการในอุปกรณ์ IT และระบบ Power และ Cooling ต่างๆอยู่ ซึ่งการที่ขาดเครื่องมือวัดประสิทธิภาพระบบแบบ Real Time แล้ว Virtualization ได้เพิ่มความไม่แน่นอนและขนาดที่ต้องสำรองเพิ่มขึ้นในกรณีดังกล่าว โดยจากการคำนวณของ Emerson, ถ้าทุก Data Center ในสหรัฐอเมริกาสามารถเรียกใช้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีก 10 เปอร์เซนต์ของความจุ จะคิดเป็นมูลค่าเงินกว่าหนึ่งหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯเลยทีเดียว
ระบบ Trellis platform จะเพิ่มประสิทธิภาพการเรียกใช้ความจุด้วยการเพิ่มความสามารถในการมองเห็นและควบคุมอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพต่างๆ ซึ่ง Emerson Network Power เรียกว่า dynamic infrastructure optimization โดยจะทำการลดความจำเป็นที่ผู้บริหารจะต้องทำการเดาแต่หากใช้ข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ เมื่อต้องวางแผนสำหรับ Data Center
ระบบ Trellis platform นำมาซึ่งความสามารถของทั้ง Aperture, Avocent และ Liebert DCIM ซึ่งสามารถเพิ่มศักยภาพระบบด้วยการเป็นแหล่งข้อมูลของการปฏิบัติการ Data Center โดย Emerson Network Power คาดหวังว่าองค์ประกอบหลักของ Trellis จะมีให้ใช้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2011 และองค์ประกอบถัดไปจะมีใช้ใน 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า และเพื่อการรับประโยชน์สูงสุด ลูกค้าสามารถนำทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ที่มีอยู่แล้วของ Emerson Network Power ไปใช้กับระบบใหม่ของ Trellis Platform ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากที่จะหาที่อื่นทำได้แบบนี้
ในการซื้อกิจการ Avocent เมื่อปี 2009, Emerson Network Power ได้ครอบครององค์ประกอบท้ายสุดในการนำเสนอรูปแบบรวมศูนย์ของความสามารถในการให้ข้อมูลและควบคุมโครงสร้างพื้นฐานเชิงกายภาพของ Data Center ซึ่งระบบดังกล่าวเชื่อมโยงเทคโนโลยีต่างๆจากทั้ง Aperture, Avocent และ Liebert ในการเป็น Trellis ซึ่งเป็นระบบบริหาร Data Center ที่ครบวงจรที่สุดที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน โดย Emerson ได้พยายามอย่างต่อเนื่องในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า การเข้าครอบครอง Aperture และ Avocent เป็นการลงทุนมากกว่า 1.25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการซื้อครั้งที่มีมูลค่าสูงสุดตั้งแต่บริษัทเคยทำมา มากไปกว่านี้ เมื่อเดือนมกราคม Emerson ได้วางแผนให้ Steve Hassell นำทีม Aperture และ Avocent ในการพัฒนาโซลูชั่นบริหารโครงสร้างพื้นฐาน Data Center (DCIM) อย่างครบวงจรเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรม
ความต้องการในโซลูชั่นนี้เป็นที่ต้องการของผู้นำอุตสาหกรรมต่าง รวมทั้ง Gartner ด้วย“ภายในปี 2014, DCIM และระบบจะเป็นกระแสหลักที่ Data Center จะต้องมี และจะเติบโตจาก 1 เปอร์เซนต์ในปี 2011 สู่ 60 เปอร์เซ็นต์ เพื่อประโยชน์สูงสุด เหล่าผู้นำทางด้าน IT ควรจะทำการประเมินการลงทุนระบบ DCIM ในระหว่างปี 2010 และ 2011 David Cappuccio รองประธานและหัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Gartner กล่าวในรายงานเดือนมีนาคม 2010 ของเขา “DCIM: Going Beyond IT.”